แสงสว่างจากพระอาทิตย์บนฟากฟ้าไม่อาจปลุกชายหนุ่มผู้นอนหลับใหลในห้วงนิทราให้เปิดเปลือกตาตื่นขึ้นมารับแสงอรุณ แตกต่างจากร่างบางซึ่งเริ่มลืมตาพร่าเพื่อความสดใสของวันใหม่
ตั้งแต่เด็กเธอมักคอยช่วยเหลือมารดาเข้าครัวในช่วงเช้าอยู่เป็นประจำนั่นจึงทำให้ตื่นเร็วจนเป็นกลายนิสัย
วันนี้ก็เช่นกันคนตัวเล็กขยับกายลงจากเตียงนุ่ม แต่นัยน์ตาทรงเสน่ห์ก็ไม่วายหันไปเหลือบมองยังแผ่นหลังกว้างของสามี หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเจ้าบ่าวของเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทั้งที่ตอนแรกดูเหมือนว่าชายหนุ่มเลือกใช้เวลาทั้งหมดหลังเสร็จสิ้นพิธีเพื่อเสพสุขกับพิชชา แล้วทำไมถึงเปลี่ยนใจ
ช่างเถอะมันไม่ใช่เรื่องที่พิมพ์พลอยต้องสนใจอีกต่อไป เธอชินชาในการกระทำของทั้งคู่แล้ว ภาพเมื่อก่อนหรือแม้แต่กระทั่งเวลานี้ไม่มีอะไรสามารถทำลายความรู้สึกเธอได้อีกต่อไป
ความรักที่เคยมีให้เขามันถูกเก็บเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีทางที่จะกลับไปใช้ความรู้สึกสิ้นเปลืองเหล่านั้นกับนาวินได้อีก เขาเองก็คงเหมือนกัน ชายหนุ่มชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่เคยต้องการความรักจากเธอ
ต่อให้เคยรอแล้วรอเล่าหวังเพียงว่าสักวันหนึ่งผู้ชายคนนี้จะหันหลังกลับมา แต่เหมือนทุกอย่างมันเปล่าประโยชน์ไร้ค่าสิ้นดี แผ่นหลังกว้างที่เคยหันหลังให้อย่างโหดร้ายไม่มีวันหวนกลับมามองกันอีกครั้ง
ไม่เป็นไรหญิงสาวทำใจได้แล้ว…เพราะตอนนี้เธอเองก็ไม่ต้องการเขาเช่นเดียวกัน
เบี่ยงปลายเท้าเดินตรงเข้าไปยังห้องน้ำทันที หญิงสาวใช้เวลาชำระร่างกายราวสิบห้านาทีหลังจากนั้นก็ออกมายังอ่างล้างหน้า มือบางหยิบแปรงสีฟันของคนที่นอนสลบไสลอยู่ขึ้นมาพร้อมบีบยาสีฟันลงไปไม่ได้หวังให้เขาประทับใจอะไรหรอก
สิ่งที่เธอทำลงไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นดูแลเรื่องภายในห้องน้ำหรือแม้กระทั่งเตรียมเครื่องแต่งกายมันคือสิ่งที่ภรรยาควรทำให้สามี พิมพ์พลอยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มจะใช้มันรึเปล่า เธอแค่ทำ ‘หน้าที่’ ของภรรยานาวินก็เพียงพอแล้ว
เรือนร่างงามใช้เวลาแต่งกายรวมถึงจัดการตัวเองกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนจะก้าวออกไปจากห้องนอน ทว่าคนตัวเล็กไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำทั้งหมดของตนเองอยู่ในสายตาของคนที่เธอคิดว่าหลับใหลตลอดมา
นาวินถอนหายใจด้วยความอึดอัด เมื่อเห็นว่าคนที่เขารำคาญเดินออกไปแล้วจากไปได้เสียที ความหวังดีของเธอทำให้เขารู้สึกหน่วงหัวใจแปลกๆ แต่ชายหนุ่มกลับเลือกสลัดมันทิ้งอย่างไม่ไยดีเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าสมองหวนนึกถึงอดีตอีกครั้ง
…ครั้งที่เธอเคยเป็นน้องน้อยแสนน่ารักของเขา
ไม่เอาอย่าคิดถึงมันอีก ความใจอ่อนของเขาเคยเปลี่ยนให้ใครคนนึงไม่ต่างอะไรกับนางมารร้าย พิมพ์พลอยเคยเห็นแก่ตัวจนกระทั่งเผลอทำผู้หญิงอีกคนลงไปเพราะความรักอันไร้สติ
@Let evet
“หน้าตาดูสดใสสมกับคนที่พึ่งแต่งงานมาหมาดๆ นะคะพี่พิมพ์” เสียงทักจาก ‘พสิกา’ น้องเล็กของบริษัทเอ่ยแซวขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายคนสวยออกมาจากลิฟต์ เธอมองกลับไปยังใบหน้าเปื้อนยิ้มของหล่อนเพียงชั่วครู่ก่อนพิมพ์พลอยจะคลี่ยิ้มหวาน
“ขอบใจนะจ๊ะ ขอกาแฟให้พี่แก้วนะ”
“ได้ค่ะพี่สาว เดี๋ยวผึ้งเอาไปเสิร์ฟให้ที่ห้องคุณฟ้านะคะ” คนอารมณ์ดีขานรับคำสั่งก่อนเดินตรงไปยังห้องแพนทรี ร่างบางจึงเอี้ยวตัวเพื่อเปิดประตูบานใหญ่ซึ่งมีป้ายติดไว้ว่า ‘ณฟ้า’ หล่อนมาทำงานที่นี่ตั้งแต่เริ่มเปิดบริษัทแต่กลับรู้สึกสนิทใจกับพิมพ์พลอยมากกว่า ส่วนณฟ้าเกร็งเขาพอสมควร
“คนพึ่งแต่งงานมาเช้าแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” เสียงทุ้มดังขึ้นแกมหยอกล้อ ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มที่พิมพ์พลอยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดียักคิ้วขึ้นทักเหมือนสุขใจ
“อย่ามาเนียนแซว แกก็รู้ฉันกับเขาไม่ใกล้เคียงคำว่าคู่แต่งงาน”
“ฮ่าๆ ก็หยอกพอเป็นพิธีนั่นแหละ อย่าทำหน้าบูดไปเลย ยิ่งไม่สวยอยู่แล้วพอแกทำหน้าแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับนางยักษ์”
“ไอ้ฟ้า!” ณฟ้าเป็นคนเดียวซึ่งคุยด้วยแล้วสบายใจมากที่สุด เขารู้เรื่องราวทุกอย่างที่เธอเคยเผชิญมาในอดีต และเป็นชายหนุ่มเองที่ฉุดรั้งเพื่อนรักออกมาจากความหม่นหมองในครั้งก่อน
“ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะกลับเข้ามาในชีวิตของแกอีก”
“อืมก็มันจำเป็น” พิมพ์พลอยไม่แสดงความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น นัยน์กลมโตสีน้ำตาลสงบนิ่งเยือกเย็นราวกับไม่รู้สึกรู้สา ซ่อนความรู้สึกเก่งเหลือเกินแม่คุณ คิดว่าจะพ้นสายตาแหลมคมของเขารึไง!
“ดีแล้ว ถ้าแกคิดว่ามันเป็นแค่ความจำเป็นและหน้าที่ก็อย่ากลับไปรู้สึกเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด” ชายหนุ่มเตือนด้วยความหวังดี ความจริงใจเต็มเปี่ยมไม่มีเคล้าของการหยอกล้อแม้แต่นิดเดียว
…พิมพ์พลอยรู้ดีว่าเขาไม่อยากให้เธอกลับไปเจ็บปวดอีกแล้ว ใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เหมาะกับรอยยิ้มที่สุดในโลก
“ฉันกับเขาเป็นเส้นขนานตั้งนานแล้ว แกก็รู้นี่” คนหน้าหวานยิ้มให้เพื่อนสนิทจางๆ สำหรับเธอแล้วเมื่อการแต่งงานครั้งนี้จบลงถือว่าทุกอย่างสิ้นสุด ไม่มีอะไรที่จะต้องเกี่ยวข้องกันอีก
“นี่โปรเจกต์ใหม่ ฉันอยากให้แกคุมงานครั้งนี้ด้วยตัวเองนะ เพราะลูกค้ารีเควสตัวพรีเซ็นเตอร์มาเลยว่าต้องเป็นคราม” คิ้วเรียวซึ่งพาดอยู่บริเวณหัวตาขมวดขึ้นด้วยความสงสัย
“คราม” หญิงสาวทวนคำอีกครั้งเพื่อให้เขายืนยันคำตอบ
“ใช่ หมอนั่นแหละ”
“คราม วาริธร ใช่เหรอหมอนั่นอะนะ” เป็นที่ล่วงรู้กันทั้งวงการถึงกิตติศัพท์ชื่อเสีย(ง)ของซุปตาร์คนนี้ ‘วาริธร’ เป็นหนึ่งในคนที่ทำงานด้วยยากมาก เพราะความติสต์อยากจะทำอะไรก็ทำของเขา ทำให้ชายหนุ่มนั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้สักอย่าง
ถ้าครามไม่พอใจ เขาก็พร้อมจะชิ่งหนีงานทันที
“ก็ลูกค้าอยากได้ส่วนฉันก็ไม่กล้าขัดใจ”
“แกลองเสนอคนอื่นดูแล้วหรือยัง” พิมพ์พลอยพยายามหาทางออก เพราะหวั่นใจเหลือเกินหากต้องร่วมงานกับเขา
‘งานเธอจะล่มมั้ย!? ถ้าทำอะไรให้วาริธรไม่พอใจ’ คนตัวเล็กคิดอย่างหงุดหงิดใจ
“แล้วสิ แต่ลูกค้ายังยืนยันว่าครามคือตัวเลือกที่ดีที่สุด” ก็เข้าใจแหละว่าหมอนี่เป็นเบอร์หนึ่งระดับประเทศ แต่คนที่ซวยคือเธอไง การประจบเอาใจเพื่อให้เขารับงานบอกเลยว่าทำไม่เป็น
ก๊อก! ก๊อก!
คู่เพื่อนรักยังไม่ทันถกเถียงอะไรต่อ เสียงประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน พสิกาเดินเข้ามาพร้อมกับถาดกาแฟของพิมพ์พลอยและน้ำผักของณฟ้าซึ่งพยายามทำหน้าขรึมสุดฤทธิ์ เขารู้ดีว่าสายตาของคนตัวเล็กตรงข้ามขำขันเพียงใด
พิมพ์พลอยชอบหาล้อกันตั้งแต่มหาลัยฯ ฉายาคุณหนูสุดเฮลตี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ณฟ้าเองถือคติไม่รับประทานทั้งกาแฟรวมถึงของไร้ประโยชน์ จนใครๆ ต่างแซวว่าลูกรัฐมนตรีนั้นช่างเอาใจยาก
“พี่พิมพ์คะ เมื่อกี้ลูกค้าโทรมาสอบถามความคืบหน้า เขาเร่งผึ้งบอกว่าให้พี่พิมพ์ติดต่อกลับไปด่วนค่ะ” ยังอารมณ์ดีไม่ถึงนาทีก็ต้องหนักใจเมื่อได้ยินสิ่งที่พสิการายงาน
“งั้นผึ้งบอกเขาไปนะว่าเดี๋ยวพี่ติดต่อกลับไป ขอพี่คุยกับพี่ฟ้าก่อน” เสียงหวานตอบกลับเพื่อให้ลูกน้องใจชื้น เพราะใบหน้าเคร่งขรึมอ่านง่ายยิ่งกว่าอะไร หล่อนจึงพยักหน้าลงรับคำสั่งจากนั้นก็ออกไปเพื่อส่งต่อสิ่งที่ได้รับมอบหมาย
“สรุป”
“ทำไงล่ะก็ลูกค้าคือพระเจ้าอยู่แล้วนี่” ปฏิเสธก็ไม่ได้เสนออย่างอื่นก็ไม่พอใจ
“หรือจะให้ฉันไปคุยกับหมอนั่นเอง ฉันพอมีเบอร์ผู้จัดการเขาอยู่”
“แกเอาเบอร์มาให้ฉันก็พอ ใจร้อนอย่างแกคุยกับคนอย่างเขามีแต่พังกับพัง” เพราะรู้จักนิสัยของคนตรงหน้าอย่างทะลุปรุโปร่ง ณฟ้าไม่ใช่คนใจเย็นแตกต่างกับเธอ ถ้าอะไรซึ่งพอจะยอมได้พิมพ์พลอยก็เลือกที่ยอมเพื่อให้ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี
“ฝากด้วยแล้วกัน แต่ถ้าปัญหามากเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“จ้าพ่อลูกรัฐมนตรี” ชายหนุ่มส่ายหน้าให้กับจอมกวนก่อนเอื้อมมือไปหยิกแก้มนุ่มนิ่มเพราะหมั่นไส้
“โอ๊ย! ไอ้ฟ้า! ไอ้เพื่อนชั่ว” ทั้งสองหัวเราะกันคิกคักราวกับเด็กน้อย ณฟ้าเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอแสดงด้านสดใสออกมาจนหมดเปลือก อยู่กับเขาไม่ต้องปั้นหน้าอะไรมากมาย ถ้ามีความสุขก็คือมีความสุข แต่เมื่อเผชิญความทุกข์เมื่อไร พิมพ์พลอยรู้ดีว่ามือทั้งสองข้างของเพื่อนสนิทพร้อมจะฉุดรั้งเธอขึ้นมา
‘จะนั่งหน้าบึ้งอีกนานมั้ยครับคุณหนู’ คำทักทายของเรือนร่างสูงทำคิ้วเรียวขมวดก่อนเงยหน้าขึ้นไปมอง พิมพ์พลอยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้สักพักแล้ว แต่ตนเองยังไม่สามารถปรับตัวให้กลับมาสดใสเฉกเช่นเฟรชชี่คนอื่น
เธอยังคิดถึงคนที่จากไปตลอดเวลา…ถึงได้มานั่งเศร้าอยู่ตรงนี้ไง
‘นาย’ ดวงตากลมโตสะท้อนผู้มาใหม่กลับไปราวกับว่าเขาต้องการอะไร ทำไมถึงกล้ามารบกวนเธอ
‘นี่เธอไม่รู้จักฉันเหรอ’ ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างแปลกใจ ไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มสุดฮอตอย่างณฟ้าหรอกพิมพ์พลอยคิด เพียงแต่เธอเลือกจะไม่แสดงออกเท่านั้น ก็ไม่ได้ดีใจอะไรนี่นาเขาก็คนธรรมดาหนึ่งคน
…หรือติดเฉยชาเกินไปหรือเปล่า
‘รู้จัก’ เรียวปากบางตอบรับสั้นๆ ไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกประทับใจที่เขาเป็นฝ่ายเข้ามาทักทาย
‘ฉันณฟ้า เธอจะเย็นชาเกินไปแล้วนะยายคุณหนู’
‘อืมแล้ว’ เสียงราบเรียบไม่ได้ดูมีมารยาทเท่าไหร่
‘ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย’ รู้ว่าคนตรงหน้ากำแพงสูงเฉียดฟ้า แต่ชายหนุ่มก็ยังทรุดตัวนั่งลงข้างเธอ
‘ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ’
‘นายต้องการอะไร’ ทั้งคู่เอ่ยขึ้นมาในจังหวะเดียวกัน จนพิมพ์พลอยอยากเรียกมันว่าจังหวะนรก เขาอยากเข้ามาผูกมิตรในขณะที่คุณหนูนั้นรำคาญคนอัธยาศัยดี
‘นายไม่รู้หรือไงว่าฉันไม่คิดจะสนิทกับใคร’ พิมพ์พลอยตอบกลับก่อนเมินหน้าหนีไปอีกทาง ชีวิตในกรงทองของบิดามีเพียงแค่เข้ามาเรียนตามคำสั่งและกลับบ้าน ไม่คิดจะทำกิจกรรมหรือผูกมิตรกับใคร
‘ก็รู้เธอถึงเป็นยายจอมหยิ่งไง’ เขาว่าราวกับไม่แยแส แต่ก็ยังไม่วายส่งรอยยิ้มสดใสเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกอึดอัด แอบไม่มั่นใจเหมือนกันแฮะผู้หญิงคนนี้ทำให้ณฟ้าไปไม่เป็นทีเดียว
‘ทำไมถึงอยากเป็นเพื่อนกับฉัน นายต้องการอะไรกันแน่’
‘ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก เธอน่ารัก…ฉันอยากเป็นเพื่อนกับคนน่ารัก’
‘นาย…’ ความตรงไปตรงมาของเขาทำให้ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มบางเบาออกมาได้ไม่ยากหรือนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
‘ให้ฉันได้เป็นเพื่อนกับเธอนะ’
‘…’ คนตัวเล็กยังคงนิ่งราวขอเวลาคิดชั่วครู่
‘นะครับ…’ เสียงทุ้มของเขาเว้าวอนเหลือเกิน
‘อืมก็ได้ เป็นเพื่อนกัน’ เพียงแค่ได้ยินเธอพยักหน้าตอบรับคำ ณฟ้าก็ฉีกยิ้มกว้างพร้อมหัวเราะร่าด้วยความดีใจ หลังจากนั้นไม่นานเขาจึงเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เธอมี ผู้ชายคนนี้คอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่จากไปไหน
‘ฉันเคยบอกเธอแล้วไงว่าบ่นกับฉันได้ทุกเรื่องเลยนะ’
‘ฉันจะอยู่ข้างเธอปลอบใจเธอ…เธอจำสัญญาของเพื่อนคนนี้ไม่ได้แล้วเหรอ’
‘ร้องไห้คิดถึงเขาอีกแล้วเหรอ ยายขี้แย’ คำพูดปลอบโยนมากมายเยียวยาหัวใจเธอทุกครั้ง เมื่อหวนนึกถึงคนไกลรวมถึงปัญหาต่างๆ ซึ่งขยันถาโถมเข้ามาเหลือเกิน ณฟ้าจึงเปรียบเป็นไหล่กว้างที่พักพิงเดียวของพิมพ์พลอย