คนถูกโยนเจ็บจนใบหน้าเหยเก แต่ก็ไม่ปริปากร้องออกมาเพราะกลัวคำขู่ พิศลดามองไปรอบๆ แล้วต้องใจสั่นเป็นระลอก เนื่องจากกลุ่มคนพวกนี้ช่างน่ากลัว ใบหน้าเหล่าชายฉกรรจ์มีแต่หนวดเคราไม่ต่างจากโจรแถมเมื่อมองสำรวจไปรอบตัวก็พบแต่ท้องทะเล มองไปทางไหนก็ไม่เห็นทางหนี แล้วแบบนี้เธอจะหนีไปได้อย่างไร
คิดแล้วน้ำใสๆ ก็ไหลมาจากดวงตามากขึ้น ก่อนร่างช้ำจะสะดุ้งยามได้ยินถ้อยคำจากลำคอแกร่งอีกหน
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อพิศลดา จะมาเป็นคนงานคนใหม่ของที่นี่และเป็นเมียชั่วคราวของฉัน”
พิศลดากัดเม้มริมฝีปากแน่น หล่อนอยากจะกลั้นใจตายเสียจริง ทำไมชีวิตต้องเจอแต่เรื่องร้าย บิดามารดาเสียชีวิตตั้งแต่หล่อนยังเด็ก ถูกน้าสาวเลี้ยงมาแต่ก็หาได้มีความรักให้ มองเห็นแค่ผลประโยชน์จากเงินทองที่พ่อแม่หล่อนทิ้งไว้ แถมยังสร้างหนี้ไว้ก้อนโต จนหล่อนหมดหนทางเลือกยอมขายศักดิ์ศรีตนเอง แต่งงานกับชายที่ไม่ได้รัก แล้วเหตุใดกันเล่าเหตุการณ์ร้ายๆมันถึงไม่จบสิ้นสักที
เมื่อประกาศกร้าวเสร็จ มาคัสก็จัดการช้อนร่างบางขึ้นเพื่อตรงไปยังบ้านพักของตน พิศลดาหวาดกลัว ร่างน้อยสั่นเทาราวเจ้าเข้า
“เธอต้องอยู่ที่นี่ คอยปรนนิบัติฉัน ทำทุกอย่างที่เมียจะทำกับผัว แล้วก็ต้องทำงานบ้านรวมถึงออกไปจับปลากับฉันด้วย” เสียงเข้มเอ่ยสั่งพร้อมกับแก้มัดให้
ทันทีที่เชือกถูกปลดออก หญิงสาวก็ทำใจกล้าโผเข้าไปกอดขาชายหนุ่ม
“ลดากลัว ปล่อยลดาไปเถอะค่ะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเบื่อเมื่อไหร่จะปล่อยเองแล้วหยุดพูดได้แล้วว่าให้ฉันปล่อยเธอ เพราะไม่มีทาง และถ้าฉันรำคาญเธอมากๆ ฉันจะยกเธอให้ลูกน้องฉันทุกคน”
เขาบอกด้วยสายตาเย็นชาและสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่อยากจะเห็นน้ำตาเม็ดร้อน เพราะตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนร้องไห้สักคน แต่วันนี้กลับทำมันแล้วไม่รู้กี่หนต่อกี่หน แรงผลักดันชั้นดีคือความแค้น
เสียงร้องไห้คร่ำครวญยังคงดังอย่างต่อเนื่อง มาคัสเลือกทำเป็นไม่รู้สึกรู้สากับสายตาคู่เศร้าคู่นี้ แม้ในใจจะรู้สึกผิด แต่พอนึกถึงสิ่งที่เขาสูญเสีย ใจเหี้ยมเกรียมก็กลับมาเช่นเดิม
“มัวแต่ร้องไห้อยู่ได้ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วเดี๋ยวจะออกไปหาปลา” เขายื่นเสื้อผ้าไปให้แต่ว่าหญิงสาวก็ไม่รับ จนต้องบอกเป็นรอบที่สอง “เธอจะเปลี่ยนเองหรือจะให้ฉันเปลี่ยนให้”
“ลดาเปลี่ยนเอง ห้องน้ำอยู่ไหนคะ?” เสียงร้องสะอื้นเอ่ยถาม พลางรีบพยุงตัวขึ้นทันทีแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำ แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไป เสียงเข้มก็ดังมาเสียก่อน
“ฉันชื่อ มาคัส จำไว้ด้วยว่าผัวเธอคนนี้ชื่อ มาคัส”
พิศลดาหันมองตามเสียงบอกนั้นด้วยใจหวาดกลัว ทำไมถึงใจร้ายเช่นนี้ ชายหนุ่มช่างพูดง่ายซะเหลือเกินกับความสัมพันธ์ที่จะยัดเยียดมาให้พอก้าวเข้ามาในห้องน้ำ ร่างระหงก็ทรุดลงกับพื้น ร้องสะอึกสะอื้นปานจะขาดใจ
แต่ไม่นานหญิงสาวก็ต้องลุกเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะมาคัสเดินมาเคาะประตูเร่งเร้าให้ออกไป ซึ่งเพียงออกจากห้องน้ำหล่อนก็เจอคำต่อว่าจากเขาอีกชุด
“แค่ถอดชุดล่อไปสิบนาทีแล้วอย่างนี้เธอจะทำอะไรทัน” ก่อนจะออกคำสั่งต่อ “ไปได้แล้ว ได้เวลาออกไปหาปลาแล้ว” พร้อมกับเดินไปกระชากแขนของคนยืนนิ่งให้เดินตาม
เมื่อเดินพ้นมาจากบ้าน คนถูกกระชากข้อมือก็สังเกตไปรอบๆ เพื่อหาหนทางหนีอีกหน แต่ไม่เลย หญิงสาวไม่เห็นหนทางสักนิด ฟากมาคัสก็เหมือนจะรู้ความคิด เสียงเข้มจึงเอ่ยขู่ออกมา
“ไม่ต้องคิดหาทางหนีที่นี่เป็นเกาะ เธอไม่มีทางหนีไปได้ แล้วฉันขอเตือนเอาไว้ ถ้าไม่อยากให้ฉันเล่นบทโหด จับเธอมัดไว้ ก็อย่าลองดี คิดจะหนี”
ด้านคนงานต่างช่วยกันยกของและอุปกรณ์หาปลาขึ้นเรือ ก่อนจะหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน เพราะเห็นว่านายหัวลากตัวของเชลยแค้นตรงมาทางนี้
“จะเอาเธอไปด้วยหรือนาย?” ชายร่างท้วมเอ่ยถามขณะยังจ้องมองหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ไม่เลิก
“ใช่” มาคัสตอบสั้นๆ พร้อมจัดการอุ้มหญิงสาวขึ้นเรือแล้วจัดการโยนลงที่พื้นด้วยความขัดใจเพราะเจ้าหล่อนพยายามขัดขืนไม่เลิก โดยไม่กลัวเลยว่าอีกฝ่ายจะเจ็บมากแค่ไหน
พิศลดาหน้านิ่วด้วยความเจ็บ ก่อนพยายามถอยหนีซาตานที่เดินเข้ามาหาอย่างคุกคาม
“กลัวฉันหรือ ดี! กลัวฉันให้มากๆ และจำไว้ว่าอย่าขัดขืน ถ้าฉันจะทำอะไรหรือสั่งอะไรก็ต้องทำตาม” พูดเสียงเหี้ยมก่อนตะโกนบอกให้ออกเรือได้
เมื่อมีคำสั่งจากนายหัว เรือลำโตก็ขับเคลื่อนตัวออกจากเกาะทันที แล่นไปในท้องทะเลสีคราม ผ่านคลื่นทะเลและคลื่นลมที่ซัดมากระทบกับลำเรือ มาคัสเอาแต่จ้องหน้านวลแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
พิศลดาถอยกรูดไปติดกับขอบเรือ รู้สึกกลัวจับใจ พร้อมกับก้มหน้าและนั่งตัวสั่น หญิงสาวได้แต่ภาวนาให้มีเรือแล่นผ่านมาแล้วช่วยเธอไปจากโจรพวกนี้ที
“ก้มหน้าขนาดนั้น เดี๋ยวคอก็หักหรอก กลัวฉันมากหรือไง”