ตอนที่ 1 เตโช

2548 Words
เตโช จะมีสักกี่คนที่เกิดมาบนโลกใบนี้แล้วได้ทำอะไรตามที่ใจตัวเองปรารถนา ตามสิ่งที่ตัวเองได้ตั้งใจไว้ ได้เดินตามทางที่ตัวเองกำหนด คงจะมีน้อยคนที่มีชีวิตเช่นนั้นและยิ่งเป็นตัวผมด้วยแล้วคงจะยากไปใหญ่ คำพูดที่ใครๆมักจะพูดกันบ่อยๆว่าไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆ ประโยคนี้ยังดังก้องอยู่ในใจของผมมาตลอดกว่า 30 ปีที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ สำหรับชีวิตน้อยๆของผมนี้ก็ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจอะไรง่ายๆหรือละทิ้งความตั้งใจของตัวเองเลยสักครั้ง หากผมต้องการอะไรผมจะคว้ามันมาให้ได้ไม่ว่ามันจะยากเย็นซักเพียงใดก็ตาม ผมจะทำทุกทางเพื่อให้ได้มันมาไว้ในครอบครองโดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์กับความรัก ที่ผมไม่เคยปล่อยให้มันหลุดมือผมไป ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตามถ้าผมได้รัก ชอบ หลงใหลและเขาจะเป็นใครมาจากไหน จะมีพันธะหรือไม่ผมไม่สนใจ ถ้าเป็นคนที่ผมต้องการเขาไม่มีวันรอดพ้นน้ำมือของผมไปได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามผมยอมแลก นี่ล่ะครับความเป็นตัวนของผม มันอาจจะฟังดูแรง ไม่แคร์ใคร หยิ่ง น่ากลัวหรือไม่น่าคบหาแต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่าหากใครได้เข้ามาในชีวิตของผม ได้ทำความรู้จักผมดีพอคุณอาจเป็นฝ่ายต้องขอบคุณผมที่ได้มารู้จักกับคนอย่างผมก็เป็นได้   ผมเตหรือเตโช สิราโชติ อายุ 30 ปี อย่างที่บอกไว้ข้างต้นแหละครับ ถึงผมจะมีความคิดอ่านแบบนั้นแต่ผมก็มีความฝันเหมือนกับคนอื่นๆเช่นกัน ผมอยากจะมีบ้านหลังใหญ่ๆ มีทรัพย์สินเงินทอง มีธุรกิจส่วนตัวที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างมีความสุขสบายเพื่อลบคำสบประมาทของคนรอบข้างที่มักพูดดูถูก เหยียดหยามผมสารพัดตั้งแต่เด็กจนโต พวกเขายังคงพูดจาถากถางน้ำใจและบั่นทอนกำลังใจผมไม่เลิกกว่า 30 ปีที่ผ่านมาทุกๆวัน มีหลายครั้งที่ผมอดทนต่อคำพูดเหล่านั้นไม่ได้ผมก็โต้ตอบกลับบ้าง บางครั้งรุนแรงจนผมต้องหาทางแก้เผ็ดพวกเขาไปวันๆ ทั้งที่พวกเขาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของผมแต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรผมได้นอกจากการใช้คำพูดดูถูกผมเท่านั้น อันที่จริงผมเองไม่อยากจะพูดถึงพวกเขาหรอกครับเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ   วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมขับรถเดินทางมาทำงานที่บาร์ร้านประจำข้างในซอยละลายทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งใน 1 อาทิตย์ผมจะมาทำงานที่นี่เพียง 3 วัน ถ้าผมจะบอกว่างานที่ผมทำคือ การขายบริการทางเพศ มันคงจะเป็นฟังดูรุนแรงเกินไปใช่ไหมครับถ้าอย่างนั้นผมขอเปลี่ยนคำใหม่ที่ดูไม่แรงจนเกินไป ผมทำงานสร้างความสุขทางกายให้แก่ผู้อื่นครับ แต่ละวันมักจะมีชายมากหน้าหลายตาที่มาขอใช้บริการผมเพื่อสร้างความสุขให้แก่พวกเขาเสียส่วนใหญ่ ทั้งที่ร้านมีน้องๆคนอื่นๆอีกกว่า 20 ชีวิต ผมมีความรู้สึกว่าน้องๆกลุ่มนั้นดีกว่า เด็กกว่า ขาวกว่า น่ารักกว่าผมมากๆแต่ลูกค้ากลับร้องขอที่จะใช้บริการผมเพียงคนเดียวเท่านั้นจริงๆ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรที่ผู้ชายอายุเลข 3 เข้าไปแล้วยังจะมีลูกค้ามาขอใช้บริการอยู่ได้ตลอดทุกคืนที่ผมมาทำงาน ผมเองไม่เคยปฏิเสธลูกค้าเลยกลับอยู่ที่ว่าวันนั้นผมอารมณ์ไหน ถ้าผมพอใจมีลูกค้ากี่คนผมรับเละแต่ถ้ามีใครสักคนมาทำให้ผมไม่พอใจขึ้นมา ก็จบนะครับผมจะกลับบ้านทันทีเช่นกันโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ใครมันกล้าดูถูกหรือด่าผมลับหลังมีสวนกลับตรงนั้นแน่ๆ   จากที่ทุกคนได้ฟังเรื่องราวที่ผมเล่าคงคิดว่าผมมีชีวิตที่โชคโชนในเรื่องคาวโลกีย์และเป็นผู้ชายที่แย่มากๆใช่ไหมครับ ผมไม่รู้หรอกว่าใครจะคิดยังไงสำหรับผมแล้วผมไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่รังแกใครก่อน ผมให้เกียรติทุกคน ใครดีมาผมดีด้วยแต่ถ้าใครมาทำให้ผมร้ายขึ้นมาอย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน หลายครั้งที่ผมเกือบจะฆ่าลูกค้าที่มาร่วมหลับนอนกับผมหลายคนเพราะด้วยความงี่เง่า เอาแต่ใจโดยไม่สนใจหรือแคร์ความรู้สึกของผม ว่าผมจะรู้สึกยังไง จะคิดยังไง จะเป็นยังไง ขอให้ตัวเขาเองมีความสุข ห่วงแต่ตักตวงความสุขจากผมฝ่ายเดียวหรือไม่บางทีก็มีอาการหึงหวงผมจากลูกค้าคนอื่นๆจนผมไม่เป็นอันทำงาน หลายครั้งที่ต้องเสียลูกค้าดีๆไป กระทั่งผมเคยคิดอยากจะเลิกอาชีพนี้เลยด้วยซ้ำแต่หากจะถามว่าผมทำอาชีพนี้เป็นกิจจะลักษณะไหม ผมขอตอบเลยว่าไม่นะครับ ผมไม่ค่อยชอบอาชีพนี้ซักเท่าไหร่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพราะมันตอบโจทย์ความต้องการทางเพศของผมได้ดีที่เดียว มันทำให้ผมได้มีความสุขกับคนไม่ซ้ำหน้า มีอะไรแปลกใหม่ให้ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา แต่หากจะคิดให้ดีจริงๆความสุขที่ผมได้รับจากความสัมพันธ์ทางร่างกายเหล่านั้นมันค่อยไม่คุ้มกับสิ่งที่ผมเสียไปเลยเพราะแต่ละคนในช่วงเวลาหนึ่งที่มีความสุขกันกับผม พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยสนใจว่าผมจะเป็นยังไง ผมเองก็เป็นคนๆหนึ่งนะครับ มีความรู้สึก มีหัวใจ ถ้าผมทนได้ผมจะทนถ้าผมทนไม่ได้ผมจะจัดให้หมอบคาม่านรูดเลยครับ พวกเขาเองก็ไม่กล้าเอาเรื่องผมหรอกครับเพราะพวกเขารู้ว่าถ้าคิดจะเอาเรื่องไอ้เต มันจะเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นเสียงสิบแปดหลอดจากหน้าร้านก็ดังเข้าโสตประสาทหูของผมทันที  "พี่เตมีแขกมาหา เขามายืนรออยู่ที่หน้าร้านเรานานแล้วนะพี่" เสียงสิบแปดหลอดของผู้จัดการสาวแตกประจำร้านเองครับ มันตะโกนเรียกผมตั้งแต่หน้าร้านยันท้ายร้านที่ผมนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่เพลินๆและพลอยทำให้ทุกคนต้องหันมามองผมเป็นตาเดียว มีเหรอครับที่ผมจะสนใจผมก็ตะโกนกลับไปตามสไตล์ของผมแหละแต่ผมไม่ลืมที่จะคว้าไมค์จากบูธดีเจขึ้นมาถือแล้วพูดใส่มันเต็มแรงอย่างไม่พอใจ "กรุณาแหกตาดูด้วยนะ ว่าฉันทำอะไรอยู่ไม่ใช่อยากจะตะโกนเรียกก็ตะโกนได้ ฉันไม่ใช่ทาสนะ ที่จะเรียกหรือจิกหัวใช้ตอนไหนก็ได้แค่นี้แหละเดี๋ยวออกไปบอกเขาด้วย" แทนที่พนักงานคนอื่นๆรวมถึงลูกค้าจะมีท่าทางไม่พอใจผมนะ กลับเป็นเสียงปรบมือด้วยความชอบใจจนทำให้ผู้จัดการสาวแตกถึงกับหน้าหงายอยู่ไม่ได้ต้องรีบวิ่งหนีออกจากร้านไปหลบด้วยความอับอาย ผมรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะยิ้มมุมปากเดินเฉิดฉายไปยังหน้าร้านเพื่อไปพบกับลูกค้าที่ผู้จัดการสาวแตกตะโกนบอกเมื่อสักครู่นี้ "อ้าวคิดว่าใคร วันนี้ทำไมมาเร็วจังเลยล่ะครับคิดถึงพี่เหรอ เพิ่งเปิดร้านเองนะ" ผมทักทายลูกค้าวัยละอ่อนขาประจำ บ้านน้องเขาคงจะมีเงินถุงเงินถังสินะอายุแค่ 15-16 ปีริอาจมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ มีเหรอที่ผมจะปล่อยให้หลุดมือกรุบๆกรอบๆวัยกำลังน่าขบ แต่ละครั้งผมจะได้เงินจากลูกค้าวัยมัธยมคนนี้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นบาท มันก็สมเหตุสมผลดีนะผมว่า ที่ผมคอยสร้างความสุขให้น้องเขาครั้งละไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ได้เงินใช้เป็นหลักหมื่นแล้ว "เพราะคิดถึงไงครับผมถึงมาหาพี่ พี่รู้ไหมผมหาพี่ทุกวันเลยนะครับ ถึงจะมีใครบอกว่าพี่มาทำงานแค่ 3 วันต่อสัปดาห์ก็เหอะผมก็มาเหมือนเดิมเผื่อฟลุคน่ะครับ แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะครับผมไม่เคยสนใจใครเลยนะครับนอกจากพี่คนเดียว เพราะผมต้องการแค่พี่ อีกอย่างผมก็เคยพูดกับพี่ไปหลายครั้งแล้วนี่ครับว่าผมอยากให้พี่เลิกอาชีพนี้ ผมอยากให้พี่ไปอยู่กับผมที่คอนโด พี่ก็ไม่ยอม ที่พี่ไม่อมไปอยู่กับผมเพราพี่มีคนอื่นใช่ไหม พี่มีใจให้คนอื่นหรือเปล่าบอกผมมาเถอะ ถึงยังไงผมจะไม่ยอมเสียพี่ไปง่ายๆหรอก ผมจะมาหาพี่ทุกวันจนกว่าพี่จะใจอ่อนและรับรักผมอย่างที่ผมรักพี่" เด็กหนุ่มวัยละอ่อนพยายามพูดความในใจกับผมด้วยคำพูดต่างๆนาๆที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเขาแต่คำพูดเหล่านี้ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลยผมกลับรู้สึกสงสารและเห็นใจน้องเขามากกว่า  "ฟังพี่ดีๆ นะ เราเป็นนักเรียน พี่ขายบริการมันไม่เหมาะสมหรือคู่ควรกันหรอกนะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่เราพยายามพูดมาเพื่อให้พี่เข้าใจ พี่เองเข้าใจเรานะว่ารู้สึกยังไง คิดยังไงกับพี่แต่พี่ก็อยากจะให้เราเข้าใจในความรู้สึกของพี่เหมือนกัน พี่ทำงานแบบนี้มันเป็นอาชีพที่คนในสังคมส่วนมากรับไม่ได้ ซ้ำเรายังเป็นนักเรียนอยู่ ยังมีอนาคตอีกยาวไกล ยังต้องเจอคนดีๆ อีกมากมายแล้วทำไมเราต้องมาจมปลักหรือเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่พี่คนเดียว หากพูดถึงว่าเราชอบความสุขแบบฉาบฉวยแบบนี้ในร้านยังมีคนอื่นอีกมากมายที่น่ารัก กว่า ดูดีกว่าพี่ก็หลายคนไม่แน่นะเราอาจจะเจอคนที่ใช่มากกว่าพี่ก็เป็นได้ ทำไมเราไม่ลองเปิดใจดูพวกเขาบ้างล่ะ พี่เห็นว่ามีหลายคนที่เขาชอบเรา มาขอคำปรึกษากับพี่เลยนะว่าจะทำยังไงถึงจะทำให้เราไปสนใจพวกเขาบ้าง ฟังพี่ดีๆและชัดๆอีกครั้งนะ คืนนี้พี่จะนอนกับเราเป็นคืนสุดท้ายและเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะมีอะไรกับเราด้วยเพราะพี่ไม่อยากให้เราต้องมาทิ้งอนาคตของตัวเองไว้ที่พี่ เรามีพร้อมทุกอย่างอย่ามาสนใจหรือหยุดที่พี่เลย พี่ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เราคิดหรอกนะ อยากให้เราเข้าใจไว้ว่าชีวิตคนเรามันสั้นนะ จงรีบทำในสิ่งที่อยากทำอย่ามัวมาใส่ใจอะไรที่ซ้ำซากจำเจแบบนี้อยู่เลย ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดเชื่อพี่นะ พี่ก็รักเราเหมือนกันแต่พี่รักเราเหมือนน้องชายคนหนึ่งของพี่เท่านั้นหรือจะให้พูดจริงๆ เราก็เปรียบเสมือนลูกชายของพี่เลยก็ว่าได้ จงเดินตามทางที่พ่อแม่หรือคนที่เรารักวางไว้เถอะนะ พี่มันคนไม่มีอนาคต พี่เป็นแค่คนขายตัว เข้าใจพี่นะ อย่ามายุ่งกับพี่อีกเลย" คราวนี้เขาได้ฟังความรู้สึกของผมบ้าง เขากลับร้องไห้มีน้ำตาแล้วทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นต่อหน้าผมก่อนจะก้มกราบแทบเท้าของผมช้าๆ ผมเองก็รู้สึกตกใจกับการกระทำนั้นที่จู่ๆมีคนมาก้มกราบเท้าตัวเองและคำพูดของเขาที่พูดออกมาทั้งน้ำตา มันทำให้ผมรู้สึกดีใจมีความสุข ขณะที่เขากำลังเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาขอบคุณ "พี่เตผมขอขอบคุณพี่มากครับที่พี่พูดเตือนสติผม ให้ผมได้รู้ ได้คิด ได้เห็นถึงความจริงที่ผมต้องเจอ ต่อจากนี้ผมจะเริ่มชีวิตตัวเองใหม่ ผมจะไม่กลับมาให้พี่เห็นหน้าอีก ก็เพื่อที่ผมจะได้เริ่มอะไรใหม่ๆในชีวิตแต่ถ้าพี่คิดถึงผมก็โทรมาหาผมได้นะครับ ขอบคุณจริงๆ นะครับพี่เต" จากที่ผมได้ฟังความรู้สึกของน้องเขา ก็พลอยทำให้ผมดีใจแล้วก้มลงไปประคองตัวน้องเขาลุกขึ้นมาแล้วโอบกอดด้วยความปลื้มใจ "พี่ดีใจนะที่เราเข้าใจในสิ่งที่พี่พูด เราอย่าบอกพี่เลยว่าจะไม่มาหาพี่อีกดีกว่านะ วันไหนเราคิดถึงพี่ก็มาหาพี่ได้ตลอดถ้าพี่มาทำงานหรือจะโทรนัดก่อนก็ได้ ตกลงตามนี้นะครับ" ที่ผมพูดไปทั้งหมดไม่ใช่เพียงแค่ว่า อยากจะให้เขาไปพ้นๆ จากชีวิตผมหรอกเพราะผมคิดว่าน้องเขายังต้องเจออะไรอีกมากมายในอนาคต ผมอยากให้เขาเจอสิ่งเหล่านั้นแทนที่จะต้องมาเจอคนอย่างผม เมื่อการบอกความในใจจบลงจึงเอื้อมมือเรียวของตัวเองไปจับข้อมือข้องน้องดึงเข้ามาสวมกอดอีกครั้งแล้วจูบที่หน้าผากเบาๆ ด้วยความเอ็นดู  "ได้ครับพี่เตตกลงตามนี้ครับ ส่วนเช็คนี้ผมให้พี่ครับ ถึงแม้คืนนี้เราไม่ได้มีความสุขกันแต่สิ่งที่ผมได้ฟังจากพี่กลับทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด ขอบคุณนะครับพี่เตผมไปละ" เด็กหนุ่มวัยละอ่อนกล่าวลาพร้อมทั้งเอาแผ่นกระดาษสีขาวใส่มือผมแล้วชี้ที่หัวใจตัวเองว่าสิ่งที่เขาได้รับฟังในวันนี้ทำให้เขาสุขใจมากมายก่อนที่น้องเขาจะเดินกลับออกไปขึ้นรถเบนซ์ที่มีคนขับสตาร์ทรถนั่งรอเขาอยู่ทันทีเด็กหนุ่มวัยละอ่อนปิดประตูรถหรูคนขับก็ทำหน้าที่ของตนในการขับรถจากไป ผมเองก็รู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่ผมพูดเหมืนกันว่าทำไมเราคิดอะไรแบบนั้นได้แต่ก็ถือว่าดีไปอย่างที่ได้ช่วยชีวิตเล็กๆของเด็กหนุ่มคนหนึ่งให้เขาได้กลับไปมีอนาคตที่สดใสต่อไป จากนั้นผมจึงกลับเข้าร้านเพื่อไปทำงานในตำแหน่งบริการความสุขตามเดิม ผมตกใจกับตัวเลขในเช็คที่น้องเขาใส่มือให้มามากหลังจากที่ยกกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน "หนึ่งล้านบาท!!..." ผมรีบวิ่งออกมาหน้าร้านเพื่อจะคืนเช็คใบนั้นให้น้องเขาไปแต่ก็ไม่ทันแล้ว 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD