‘เฮอะ แต่งงานกับผู้หญิงเกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะอย่างนั้นเหรอ เราไม่ยอมเด็ดขาด’
ร่างสูงคิดในใจอย่างหัวเสียตอนที่ทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องนอนของตน ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมา ริมฝีปากหยักลึกบิดนิดๆ เมื่อนึกไปถึงผู้หญิงที่มีลักษณะดังกล่าว
“อาโซ่ไง อาโซ่เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะ อีต้องยอมช่วยเราแน่”
ต่อให้ยัยเด็กนั่นยอมช่วยจริงๆ เขาก็ไม่เอาด้วยหรอก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าตัวน่ะมีใจให้เขา มีเวลาเมื่อไรเป็นต้องตามวอแวเขาจนน่ารำคาญ แล้วแบบนี้จะให้เขาไปแต่งงานกับคนแบบนั้นน่ะหรือ รอให้ฟ้าถล่มตรงหน้าก่อนเถอะ
ร่างสูงส่ายหน้าอย่างเอือมๆ อีกครั้งเมื่อนึกถึงใบหน้าของนิฏฐา เด็กผู้หญิงข้างบ้านที่คอยตามกวนใจเขาแทบจะตลอดเวลา ชายหนุ่มสลัดเรื่องของเธอออกจากสมอง ก่อนจะลุกจากเตียง ขยับเท้าเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย และตั้งปณิธานเอาไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมแต่งงานกับหญิงสาวเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่การสะเดาะเคราะห์ก็ตามที
สามวันต่อมา
วันนี้เป็นวันเกิดของนฤบดินทร์และวันนี้ก็เป็นวันที่เจ้าตัวอายุครบสามสิบปีเต็ม เช้านี้ครอบครัวมีทรัพย์อนันต์ต่างมาร่วมใส่บาตรอยากพร้อมหน้าพร้อมตากัน โดยมีคนนอกครอบครัวอย่างนิฏฐามาร่วมทำบุญครั้งนี้ด้วยตามคำเชื้อเชิญของอาม่ากันทรา
ทุกคนต่างมีสีหน้าแช่มชื่น ยกเว้นอาม่ากันทราที่กังวลเรื่องของนฤบดินทร์ เนื่องจากวันนี้ครบรอบวันเกิดสามสิบปีเต็มของเจ้าตัว และถ้าเป็นอย่างที่ซินแสกำธรว่าเอาไว้ นับจากนี้เป็นต้นไปเคราะห์กรรมก็จะเริ่มวิ่งเข้าใส่หลานชายของท่านแน่ แต่ไม่รู้ว่าจะมาในรูปแบบใดก็เท่านั้น และท่านก็อดที่จะกังวลใจไม่ได้ เรื่องที่ซินแสบอก อาม่ากันทรายังไม่ได้บอกใคร แม้แต่นิฏฐาท่านก็ไม่ได้บอก เพราะไม่อยากให้คนอื่นๆ กังวลใจไปด้วย และเรื่องที่เคยคิดจะให้นิฏฐามาเป็นหลานสะใภ้เพื่อกำจัดคนรักของนฤบดินทร์ให้พ้นทาง ต้องกลายมาเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะต้องช่วยให้หลานชายพ้นเคราะห์หนักในครั้งนี้ไปให้ได้ แต่ท่านคงต้องคุยกับนิฏฐาเป็นการส่วนตัวก่อน
ทุกคนเริ่มทยอยเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน หลังจากรับพรจากพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว นิฏฐาที่เตรียมของขวัญวันเกิดเอาไว้ ตั้งใจจะเอาของขวัญกล่องเล็กที่อยู่ในกระเป๋าสะพายไปให้เขาเป็นคนแรก แต่นฤบดินทร์เดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังงาม เขาไม่แม้แต่จะทักทายเธอเลยด้วยซ้ำ ทำอย่างกับว่าโกรธเธอมาสิบชาติ ช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยได้ตามไปตอแยเขานะเพราะยุ่งๆ อยู่กับงาน แต่ก็อย่างว่า นั่นคงเป็นอาการปกติของเขานั่นแหละ ชอบทำหน้าเบื่อโลกเวลาเจอหน้าเธอ ซ้ำยังถามคำตอบคำ แต่เธอไม่สนใจหรอก ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก
ร่างเล็กรีบจ้ำอ้าวหมายใจจะสาวเท้าตามนฤบดินทร์ไปให้ทัน แต่ทว่าต้องหยุดเท้าเสียก่อนเพราะอาม่ากันทราเรียกเอาไว้
“อาโซ่ มานี่ก่อน”
นิฏฐาเดินประคองอาม่ากันทรามาที่ศาลาไม้สักสีน้ำตาลเข้มที่ตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ร่างเล็กประคองอาม่ากันทราให้นั่งลงบนม้านั่งก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ ท่าน
“อาม่ามีอะไรจะคุยกับโซ่หรือคะ”
“เรื่องที่ลื้อรับปากว่าจะช่วยน่ะ อั๊วอยากให้ลื้อช่วยคิดหาวิธีการหน่อย อาซินแสกำธรบอกกับอาดินทร์แล้วว่าอีมีเคราะห์หนัก และวิธีการที่จะแก้ไขได้มีหนทางเดียวนั่นก็คือต้องแต่งงานกับลื้อ แต่อาดินทร์อีไม่ยอม ตอนนี้อั๊วจนปัญญาจริงๆ”
นิฏฐาไม่ได้แปลกใจเลยที่อาม่ากันทราบอกมาแบบนั้น คนอย่างนฤบดินทร์น่ะไม่มีทางยอมง่ายๆ แน่ แต่นิฏฐาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกับกำลังตกเคราะห์หนักจริงๆ คิดเพียงว่าอาม่ากันทราวานให้ซินแสกำธรบอกกับนฤบดินทร์ตามแผนการของตน คิ้วสวยขมวดเข้าหากันนิดๆ ก่อนจะดีดนิ้วดังเป๊าะ
“เอาอย่างนี้ไหมคะอาม่า อาม่าลองแกล้งป่วยดู โซ่ว่าพี่ดินทร์ต้องทำตามที่อาม่าขอร้องทุกอย่างแน่ๆ เลยค่ะ”
อาม่ากันทราพยักหน้ารับ หลังจากที่ชั่งใจอยู่พักใหญ่ว่าจะทำตามแผนการของนิฏฐาดีหรือไม่ แต่ก็นั่นละ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นหนทางเดียวที่หลานชายของท่านจะยอมทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข
นฤบดินทร์เพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องนอน ยังไม่ทันสาวเท้าถึงเตียงนอนเลยด้วยซ้ำ เสียงเอะอะโวยวายที่ดังขึ้นมาจากข้างล่างทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ ก่อนจะสาวเท้าออกไปนอกห้อง มือหนาจับที่ราวกั้นทางเดินแล้วชะโงกหน้าลงไปมองเบื้องล่างว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ภาพที่เห็นทำให้ร่างสูงตาเบิกกว้างก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงไปยังห้องโถงใหญ่ แทรกตัวผ่านหลายคนที่กำลังมะรุมมะตุ้มร่างของอาม่ากันทราที่หน้าซีดเหมือนคนใกล้เป็นลมเต็มที สะโพกสอบหย่อนลงบนโซฟาตัวเดียวกับท่าน ก่อนจะคว้าพัดจากนิฏฐาที่กำลังพัดวีให้อาม่ากันทราเอาไปพัดให้ท่านเอง โดยมีนฤดล กิ่งดาว นุ่มคนสนิทของอาม่า และสาวใช้อีกสองคนคอยสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่าง
“เกิดอะไรขึ้นครับอาม่า”
อาม่ากันทราพยายามปรือตามองหน้าหลานชายอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงขาดห้วง
“อาดินทร์ วันนี้ลื้ออายุครบสามสิบปีเต็มแล้วใช่ไหม”
“ใช่ครับอาม่า” ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้ารับ
“ลื้อยังจำที่อาซินแสกำธรบอกเอาไว้ได้ไหม”
เป็นอีกครั้งที่นฤบดินทร์ต้องพยักหน้ารับ เขาจำคำทำนายของซินแสกำธรได้แม่นยำเชียวละ และคำทำนายนั่นก็ทำให้เขาหันไปสบตากับนิฏฐาที่นั่งคุกเข่าอยู่ใกล้อาม่ากันทราเพียงแวบเดียว ก่อนจะเบนสายตากลับมาหาท่าน แต่เพียงแค่นั้นกลับทำให้นิฏฐาเกิดอาการร้อนตัวเพราะเกรงว่าจะถูกจำได้ แต่เจ้าตัวพยายามทำตัวนิ่งไว้
“จำได้ครับ”
“ตอนนี้อั๊วรู้สึกใจคอไม่ดีเลย อั๊วกังวลว่าลื้อจะเป็นอะไรไป ลื้อช่วยทำตามที่อาซินแสบอกเพื่ออั๊วทีได้ไหม”
เสียงที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความเว้าวอน และนฤบดินทร์ก็รับรู้ดีว่าในกระแสเสียงนั้นมีความวิตกกังวลและความห่วงใยเขาอยู่เต็มเปี่ยม แต่เรื่องที่ท่านขอมันยากเกินที่เขาจะทำให้ได้จริงๆ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ลูก”
กิ่งดาวไม่เข้าใจในบทสนทนาระหว่างอาม่ากันทรากับนฤบดินทร์จึงโพลงถามออกมา ซึ่งนฤดลเองก็มีความอยากรู้ในเรื่องนี้เช่นกัน
“นั่นสิอาดินทร์ ลื้อกับอาม่าของลื้อคุยอะไรกัน” นฤดลเอ่ยออกมาบ้าง
ร่างสูงพ่นลมหายใจแรงๆ ก่อนจะตอบคำถามของมารดาและบิดา
“คืออย่างนี้ครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนซินแสกำธรมาที่บ้าน แล้วพูดถึงเรื่องดวงชะตาของผม ซินแสบอกว่าหลังจากที่ผมอายุครบสามสิบปีจะตกเคราะห์หนัก อาจจะมีเลือดตกยางออกและอาจถึงชีวิตได้”
นฤบดินทร์พูดมาถึงตอนนี้เล่นเอาคนฟังหลายคนถึงกับตาเบิกกว้าง สองสาวใช้ยกมือขึ้นทาบอก แววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ส่วนกิ่งดาวร่างเซถลาเข้าสู่อ้อมแขนของนฤดลผู้เป็นสามี มีเพียงนิฏฐาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ลอบยิ้มเพราะไม่รู้ว่าคำทำนายนั้นคือเรื่องจริง แค่คิดว่าทุกอย่างกำลังจะเป็นไปตามแผนเพียงเท่านั้น
“แล้วซินแสบอกวิธีแก้เอาไว้ไหม” กิ่งดาวใบ้กินไปชั่วขณะ จนนฤดลต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามเสียเอง
ชายหนุ่มยังไม่ตอบคำถามในทันที ดวงตาคู่คมตวัดมาทางนิฎฐาที่กำลังลอบยิ้ม เล่นเอาเจ้าตัวหุบยิ้มแทบไม่ทัน ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้ากันแน่น ดวงตากลมโตเฉไฉมองไปทางอื่น ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้อะไรด้วยทั้งนั้น นฤบดินทร์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เพราะเดาว่าอาม่ากันทราคงบอกเรื่องนี้กับนิฏฐาแล้ว และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยินดีช่วยเขาในการแก้เคราะห์หนักในครั้งนี้เสียเหลือเกิน
“ซินแสบอกว่าวิธีแก้มีอยู่ทางเดียวนั่นก็คือ...”
ยามที่พูดดวงตาคู่คมก็ไม่ได้ละไปจากดวงหน้าของนิฏฐาเลย แต่เจ้าตัวทำเป็นแกล้งไม่สนใจ ทั้งที่ในใจเต้นตึกตักจนยากเกินจะควบคุมเมื่อถูกชายหนุ่มจ้องมากๆ เข้า
“ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่เกิดวันเสาร์ เดือนแปด ปีเถาะ และอยู่กินฉันท์สามี-ภรรยาเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี ถึงจะพ้นเคราะห์หนักในครั้งนี้ไปได้ครับ”
“ซึ่งผู้หญิงที่มีลักษณะแบบนั้นก็คืออาโซ่”
เมื่อได้จังหวะอาม่ากันทราจึงช่วยเสริม สายตาทุกคู่จึงหันมามองนิฏฐา ซึ่งเจ้าตัวก็ทำท่ากระมิดกระเมี้ยนแต่พองาม ราวกับว่ารอจังหวะอยู่ก่อนแล้ว
“ถ้าทุกคนอยากให้ช่วย โซ่ก็ยินดีค่ะ”
“แต่ผมไม่ยินดี”
นฤบดินทร์โพล่งออกมาก่อนที่ทุกคนจะเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย เล่นเอาคนที่เสนอตัวอยากจะช่วยหุบยิ้มฉับ ตวัดสายตามองอีกฝ่ายอย่างเคืองๆ แต่แน่ละ นฤบดินทร์ไม่เห็นเพราะตอนนี้ชายหนุ่มหันมาหาอาม่ากันทราแล้ว
“อาม่าทำใจให้สบายเถอะนะครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้เป็นอะไร อาม่าไม่ต้องกังวล ผมสัญญาว่าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี”
“แต่ว่า...” อาม่ากันทราพยายามจะค้าน แต่นฤบดินทร์ส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงปฏิเสธ
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันครับอาม่า ถ้าเกิดว่าผมดูแลตัวเองไม่ดี จนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างที่อาม่ากังวลใจ ผมจะยอมแก้กรรมตามที่ซินแสบอกเอาไว้ก็ได้ครับ”
“ลื้อสัญญาแล้วนะ”
แววตาของอาม่ากันทราดูมีความหวังขึ้นมาทันที แต่คนที่ผิดหวังก็เห็นจะเป็นนิฏฐาที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว เพราะคิดว่าเรื่องดวงของนฤบดินทร์เป็นเพียงเรื่องที่ตัวเองกุขึ้นเท่านั้น และเรื่องอุบัติเหตุอะไรนั่นคงจะไม่เกิดขึ้นกับนฤบดินทร์ง่ายๆ แน่เพราะเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังพอสมควร พูดง่ายๆ ก็คือนฤบดินทร์เป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เห็นทีสิ่งที่เธอหวังเอาไว้คงจะไม่สมหวังเสียแล้วกระมัง