Ep9.ง้อ

1136 Words
9. ง้อ เขาเดินออกไปนอกห้อง.....ส่วนฉันนอนสะอึกสะอื้นต่อไปกับความคิดตัวเองเกือบชั่วโมง เห็นเขาไม่กลับเข้ามาก็เลยตั้งสติ เดินออกไปดูก็พบว่าเขาสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง ไวน์ 1 ขวดกับเศษบุหรี่เต็มที่เขี่ยแก้วคริสตัสแสนสวย ที่เขาพูดมามันก็ถูก......เขาคอยตามฉันตลอดจริง ๆ เพราะฉันคงชินเลยมองไม่เห็นถึงความใส่ใจคิดว่ามันปกติ นอกจากเรื่องเซ็กส์ที่ฉันต้องตามใจเขาก็ไม่มีอย่างอื่นเลยที่ต้องทำให้ ฉันบ่นอยากกิน อยากทำ อยากได้อะไรเป็นเขาที่หามาให้ ไม่เคยบ่นสักคำฉันมันคนงี่เง่า ยายบื้อเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง แล้วค่อย ๆ อ้อมตัวมาอยู่ด้านหน้ามือยังกอดเอวผมแน่น ผมก้มหน้ามองเธอส่วนเธอก็ก้มหน้าก้มตาแต่หน้าอกหน้าใจมันเบียดอยู่กับหน้าท้องผมเนี้ย เอาจริง ๆ ผมไม่ได้โกรธผมน้อยใจมากกว่าที่เธอไม่เชื่อใจผม ไม่เคยอยากเอาผมไปอวดเพื่อนหรือใครเป็นเธอที่ทำเหมือนผมเป็นสิ่งของที่ต้องแอบซ่อน "ได้คำตอบแล้วหรอ" ผมเอ่ยถามมือก็ลูบหัวเธอเบา ๆ เสียวคำตอบเหมือนกันเกิดตอบว่าไม่คิดอะไรผมคงแย่ "............." "ว่าไง" ผมถามย้ำเธอดันตัวออก ดึงผมลงนั่งที่เก้าอี้นอนยาว นั่งหันหน้าเข้าหาผม เอามือเล็ก ๆ จับมือผมไว้รู้สึกได้ถึงอาการสั่นเทา น้ำเสียงยายบื้อจริงจังมากแบบไม่เคยเป็นมาก่อน "วิ้งค์จะพูดครั้งเดียว....พี่ฟังให้จบก่อนนะอย่าเพิ่งขัด วิ้งค์....วิ้งค์รักพี่รักมาตลอดน่าจะตั้งแต่ 14-15 วิ้งค์ไม่เคยมองใครเลย แต่เพราะวิ้งค์เป็นคนเดินเข้าไปหามาตลอด วิ้งค์ไม่รู้ว่าที่พี่อยู่ตรงนี้เพราะพี่สงสาร หรือ ชินกับการมีอยู่ของวิ้งค์ วิ้งค์ไม่รู้ว่าวิ้งค์มีอะไรดีพอให้พี่มารัก ถ้าวันนึงพี่ไปเจอคนที่ใช่แล้วพี่ไล่วิ้งค์ออกจากชีวิตพี่.........อึก วิ้งค์เลยคิดว่าถ้าเราอยู่ด้วยกันไม่ไปเจอคนอื่น วิ้งค์จะได้ไม่ต้องรับรู้ถึงสายตาคนอื่นที่มองพี่ วิ้งค์ไม่ชอบ วิ้งค์หวง...หวงมากจนกลัวว่าจะทำตัวไม่ดีออกไปแล้วพี่รำคาญ พี่จะเบื่อวิ้งค์เหมือนตอนเด็ก ๆ" ยายบื้อตอนนี้ตาบวม จมูกแดง แก้มก็เต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง เสียงขาด ๆ หาย ๆ ไปตามจังหวะสะอื้น มือยังคงจับมือผมแน่นเป็นครั้งแรกที่เธอบอกรักผม ผมเองก็ไม่เคยบอกรักเธอ เพราะแค่คิดว่าที่ทำอยู่เธอน่าจะเข้าใจได้ว่าผมรักเธอขนาดไหน "ยายบื้อ...ตั้งแต่เราเดินข้ามรั้วมาหาพี่ มีสักครั้งไหมที่พี่ไม่นั่งฟังเราพูดมีแต่เราที่บ่งครั้งปล่อยให้พี่นั่งรอในสวนอยู่เป็นวัน ๆ ไปไหนก็ไม่รู้" เธอหยุดร้องไห้แล้วช้อนตามองผม "แต่เราไม่เคยนัดกันนะคะ" "นั่นสิ....พี่คงรักข้างเดียวตั้งแต่ 10 ขวบละมั้ง" ผมพูดออกไปตาเธอเบิกกว้าง น่าจะตกใจมากผมคิดว่ากับสิ่งที่ผมพูดออกไป "พะ พี่ รักวิ้งค์หรอคะ" เสียงใสเริ่มพูดเป็นประโยคไม่ขาด ๆ หาย ๆ "คิดว่าไงล่ะ....พี่หล่อพอให้วิ้งค์อวดคนอื่นได้ไหม" "พี่อ่ะ" เธอเอามือตบต้นแขนผมเบา ๆ "ตอนนี้ไม่อยากคุยแล้ว....อยากเอาคนรัก" "อ๊ะ" คนเจ้าเล่ห์พูดก่อนจะโน้มลงมาจูบแต่เดี๋ยวก่อนขอเคลียร์ก่อนไอ้คุณพี่ "เดี๋ยวค่ะ ..... ผู้หญิงคนนั้นคือใครคะ" "อ่อแฟนพี่คิงประธานนักศึกษาไง ชื่อ นุ่น วันนั้นเธอเดินมาขอให้พวกพี่ช่วยจะจัดเซอไพรเบิร์ดเดย์พี่คิง เลยมาขอยืมห้องโปรเจกใช้หน่อยแล้วเราก็เห็นจังหวะดีเนอะ ที่จังหวะอื่นดันไม่เห็น" "........." ฉันจะพูดไรต่อได้ล่ะ แหม๋ "เลิกคุยเรื่องของคนอื่นได้ไหมตอนนี้อยากกินนมอยากกินของคาวด้วย" "ไอ้พี่บ้า......ว๊ายยยย" ยังไม่ทันจะยินยอมพร้อมใจ ฉันก็ถูกอุ้มตัวลอยอยู่ในอ้อมแขนเขา "วันนี้เรางอแงจังพี่ว่าต้องโดนแส้ตีก้นสักหน่อย" ยอมค่ะเขาบอกรักฉันด้วยแส้ เจ็บอ่ะเจ็บ แต่เสียวมากกว่า คิคิ เพราะฉันยังรับงานถ่ายแบบสินค้ากับทำรีวิว เลยขอเขาไว้ว่าให้เรียนจบก่อนพอฉันจบปุบเดี๋ยวฉันประกาศบอกทุกคนเลย ตอนนี้อยากให้คนอื่นโฟกัสเรื่องงานก่อน ก็คนรัก...หล่อ รวยขนาดนี้ ขี้เกียจฟังขี้ปากชาวบ้านกลัวทนไม่ไหวนอยด์อีก ฉันนับถือไอ้ซัมเมอร์เลย ทนได้ไงเดินไปไหนมีแต่ปากหอยปากปูคนอยากได้ตินตั้งเยอะ ดีที่ตินรักเดียวใจเดียวเลยไม่มีปัญหา "เสาร์นี้กลับบ้านกัน" ฉันเอ่ยปากบอกเขาก่อนเป็นครั้งแรก "ได้...." เขาแอบขมวดคิ้วเล็ก ๆ แบบสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไร "คุณยายยยยยยยขาคิดถึงจังเลยคร่าาาาาาา" ฉันวิ่งไปกอดคุณยายอย่างอ๊อดอ้อน "มีอะไร มีพิรุธนะเราแล้วทำไมมาพร้อมกันได้ล่ะคราวนี้" "ก็คิดถึงคุณยายมากจนทนไม่ไหวต้องกลับมาหา" "ซื้ออะไรมากันเยอะแยะ หืมมมม" คุณยายกอดฉันกลับพร้อมตั้งคำถามเพราะเห็นคนตัวโตเดินเข้าบ้านมาด้วยกัน "พ่อแม่ล่ะคะวันนี้หนูบอกแล้วนะว่าจะกลับมา" "ไปงานด่วนที่เกาหลีเพิ่งบินเมื่อเช้าคงลืมบอกเรา เดี๋ยวกินข้าวเย็นที่นี่ไหมสกายกินกับน้องสิลูก" "ครับ...เดี๋ยวผมเดินไปบอกที่บ้านก่อนเดี๋ยวกลับมานะครับ" ผมยืนรออยู่ยายบื้อก็บื้อจริง ๆ จนผมต้องยกคิ้วให้เป็นคำสั่งว่าต้องเดินไปบ้านผมพร้อมกันด้วย "เอ่อออ...คุณยายงั้นเดี๋ยวนหนูไปสวัสดีคุณย่าก่อนนะคะ" ฉันปล่อยกอดคุณยาย แล้วเดินตามเขาไปเส้นทางเดินเล็ก ๆ ที่ฉันไม่เคยได้เดินคู่กันเขาเลยสักครั้ง ไม่เดินคนเดียวก็เดินตามหลังแบบมีระยะห่างมาตลอด "ยิ้มอะไรเดี๋ยวก็ล้มมองทางด้วยสิ" ภาพตรงหน้าเขาที่หันมาสะท้อนกับแสงแดดยามบ่ายยื่นมือส่งมาให้ฉันจับ วันนี้ฉันกำลังเดินจับมือเขาคนที่ฉันรักมาตลอดบนทางเดินของเรา 2 คนมีความสุขจัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD