เด็กอุปถัมถ์

1302 Words
ตอนที่ 1 เด็กอุปถัมถ์ วิณณ์ ศรีพิพัฒน์ เป็นคนชัดเจนและเด็ดขาดในทุกเรื่อง แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ชอบอะไรที่คลุมเครือและซับซ้อน ทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์ส่วนตัว นั่นเป็นสิ่งที่คนรอบด้านทราบดี ด้วยเขาเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลศรีพิพัฒน์ที่มีธุรกิจหลากหลายทั้งอาหารทะเลและไวน์ชั้นดีส่งออกทั่วโลก รวมทั้งแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์อันดับต้นๆของประเทศ แม้ดั้งเดิมของตระกูลศรีพิพัฒน์จะเน้นการดำเนินธุรกิจด้านอาหารเป็นหลักและให้ลูกหลานแต่ละคนรับผิดชอบในแต่ละส่วนตามความเหมาะสม แต่ระยะหลังมาธุรกิจแพลตฟอร์มที่บริหารโดย วิณณ์ ทายาทคนเล็กของศรีพิพัฒน์กลับทำกำไรแซงทะลุกว่าทุกธุรกิจในกลุ่มกว่า 50 บริษัทในเครือ “ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เราเติบโตทั้งยอดขายและกำไรทะลุเป้าไปเกือบห้าเท่าตัว อย่างไงผมต้องขอบคุณทีมงานทุกคนของ SS Online ด้วย” โอภาส ศรีพัฒน์ ประธานใหญ่ของกลุ่มศรีพิพัฒน์เอ่ยขอบคุณทุกคน โดยมี วิณณ์ ศรีพิพัฒน์นั่งอยู่ด้านข้าง ทุกคนต่างทราบดีว่า การเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ หลักๆมาจากรองประธานคนเก่งที่มุ่งมั่นผลักดันจนมาถึงวันนี้ได้ “เราจะก้าวต่อไป เพื่อเป็นผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สะดวก เข้าถึงง่ายและปลอดภัย ไม่เพียงแต่ได้การยอมรับในประเทศเท่านั้น แต่เราจะก้าวไปสู่อีกขั้นสู่ระดับเอเชียและระดับโลกต่อไป” เพียงคำเอ่ยของ วิณณ์ ศรีพิพัฒน์ ประธานของ SS Online เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องห้องประชุม สายตาคมเข้มของวิณณ์กวาดตามองทุกคน ก่อนจะเหยียดการลุกขึ้นด้วยความสูงกว่า 185 เซ็นติเมตรนั้นทำให้เขาดูสูงสง่าราวกับมีเชื้อสายลูกครึ่งแม้พ่อกับแม่จะเป็นคนไทยแท้ การประชุมสรุปผลงานไตรมาสล่าสุดผ่านไปได้ด้วยดี “มีเอกสารจากเวนเดอร์รอคุณวิณณ์เซ็นห้าฉบับค่ะ” เอกสารถูกวางไว้บนโต๊ะโดย แก้วกัลยา เลขาคนเก่งวัยสี่สิบปีกว่าๆที่ทำงานร่วมกับเขามาตั้งแต่แยกมาเปิดบริษัทใหม่ๆมีพนักงานในทีมไม่กี่สิบคน และมีรายได้ไม่เท่าไหร่ และอยู่ด้วยกันมาจนตอนนี้บริษัทมีพนักงานหลายร้อยคนและรายได้พุ่งไปหลักหลายพันล้านต่อปี “คุณวิณณ์จะรับกาแฟเพิ่มมั้ยคะ” “ได้” ไม่นานนักกาแฟดำหอมกรุ่นก็ถูกนำมาเสริ์ฟบนโต๊ะ ดวงตาคู่สีถ่านเข้มของวิณณ์ฉายแววครุ่นคิดเล็กน้อย เมื่อเหล่มองเลขาคู่บุญของตน “เหลือเวลาอีกกี่เดือนถึงจะคลอด” “เดือนกว่าค่ะ คุณวิณณ์ไม่ต้องห่วงค่ะแก้วจะทำงานจนวันผ่าคลอดเลยแหละตอนนี้ยิ่งจะมีการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มร่วมกับทีมการตลาดและโปรแกมเมอร์ด้วย” ถ้ามีโล่ห์พนักงานดีเด่นสักสิบใบเขาก็อยากจะมอบให้เธอทั้งสิบเลยนะ แต่ปกติบริษัทเขาไม่ค่อยทำอะไรไร้สาระพวกนั้น ด้วยมีโบนัสรายสามเดือนนั่นก็จูงใจให้ทุกคนไม่อยากจะหนีไปทำงานที่ไหนแล้ว “ผมอาจจะหาคนมาแทนให้ช่วงคุณไม่อยู่ อย่างไงฝากเตรียมถ่ายเทงานช่วงนั้นด้วยละกัน อ้อฝากบอกคุณนุชฝ่ายHRนะว่า เลขาผมจะเป็นคนคัดเลือกเองคัดกรองประวัติเบื้องต้นและส่งมาให้ผมดูก่อน” “ได้ค่ะ” แม้ปากจะบอกว่าจะคัดเลือกเอง แต่นั่นก็เป็นประเด็นที่สร้างความหนักใจให้กับประธานเอสเอ็มอยู่พอควร อาจจะยากยิ่งกว่าการคิดนวัตกรรมใหม่ๆร่วมกับทีมวิจัยด้วยซ้ำ เพราะการคัดเลือกคนให้มาทำงานในตำแหน่งเลขาที่ถูกใจเหมือน แก้วกัลยา ไม่ใช่หาง่ายๆ และเขาเองก็พยายามมองคนในองค์กรหลายคน แต่ก็ยังไม่มีใครเข้าตาที่จะมารับหน้าที่นี้ได้เลยแม้แต่น้อย “ประวัติของผู้สมัครล่าสุดค่ะคุณวิณณ์” เอกสารหนาปึกอยู่วางบนโต๊ะ วิณณ์หรี่ตามองมันเล็กน้อย แม้บริษัทเขาจะเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย ทว่าเขาก็ยังชอบอ่านงานที่ต้องใช้ความคิดผ่านเอกสารอยู่ นั่นทำให้ฝ่ายHR ต้องพริ้นท์ข้อมูลให้อย่างละเอียด ปึก!!! “ไม่ผ่าน!” ทำไมการถูกชะตากับคนมาเป็นเลขามันยากแบบนี้วะ!! RRRR เสียงมือถือของเขาดังขึ้น คิ้วหนาเข้มของวิณณ์ ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นเบอร์โทรเข้าคือโอภาสผู้เป็นบิดา ด้วยเมื่อกี้หลังจากเสร็จการประชุมสรุปผลงานประจำไตรมาส ก็น่าจะเดินทางกลับไปยังบริษัทใหญ่แล้ว “ครับพ่อ” (บ่ายนี้ไม่มีงานและประชุมต่อกับแวนเดอร์ใช่มั้ย) “ไม่มี ..พ่อมีอะไรครับ” เขาเอ่ยถามเสียงสูง มืออีกข้างยังไล่ดูประวัติของผู้สมัครอย่างตั้งใจ ความจริงมีแวนเดอร์สองเจ้าที่ขอเข้าพบในช่วงบ่ายนี้ แต่เขาปฎิเสธไป ด้วยอยากทำหัวให้โล่งที่สุดและอยากมาใส่ใจกับการหาข้อมูลผู้สมัครเลขาให้เรียบร้อยก่อน “พอดีพ่อมีประชุมต่อที่ศรีพิพัฒน์” “ครับ” “ช่วยไปรับหนูขนม ที่หอพักให้หน่อยพอดีแม่แกไม่ว่าง” ขนม!! ขนมไหนวะ? กิ๊กสาวของพ่อหรือยังไง...ชื่อยังกับเด็กแปดขวบ แล้วมันเกี่ยวกับอะไรกับเขา คนขับรถของศรีพิพัฒน์มีเป็นสิบ ทำไมต้องคนระดับเขาต้องมาสละเวลางานอันเมื่อค่าเพื่อไปรับใครที่ไหนด้วย “ขนมไหน? ผมไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะ” เห็นเขาเป็นคนขับรถหรือยังไง “เด็กทุนอุปถัมถ์ของศรีพิพัฒน์ไง คนที่แกให้ทุนทุกปีวันนี้เขาเรียนจบก็ต้องไปหน่อย พ่อกับแม่ไม่ว่าง” เขาให้ทุนแต่ละมหาลัยและมีเด็กทุนในรายชื่อเป็นร้อย เพื่อเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการทำประชาสัมพันธ์ด้าน CSR ของบริษัท จะไปจำชื่อแต่ละคนได้ยังไงกัน “ปกติผมไม่เคยไปรับนี่ แล้วเด็กคนนี้พิเศษอย่างไงเราต้องไปเทคแคร์ขนาดนั้น ทุนก็ให้ไปแล้วจนเรียนจบ แค่จะกลับจากหอพักต้องให้คนให้ทุนไปรับเลยเหรอ มันจะเกินไปละ!” เสียงของ วิณณ์ แค่นสูงขึ้น “แกรับปากเด็กมันไว้เองไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าน้องเขาได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จะไปรับน้องด้วยตัวเองพร้อมของขวัญที่ยากได้ แกเป็นคนพูดเองในเวทีมหาลัย” วะ..ว่าไงนะ!!! คุ้นๆคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นสคริปต์ ตอนไปมอบทุนเพื่อมาถ่ายรูปสร้างภาพลงโซเชียลมีเดียเท่านั้น “....” “เป็นผู้บริหารระดับสูง พูดอะไรไปก็ต้องรักษาคำพูดด้วยเหล่าอาจาย์และสื่อเขาจับตามองดูอยู่ ไปรับน้องให้เรียบร้อยเตรียมของขวัญไปด้วย” ติ๊ด!!! มันเรื่องบ้าบออะไรกัน!! “คุณวิณณ์จะกลับแล้วเหรอคะ” แก้วกัลยา เอ่ยถามประธานเอสเอ็มเมื่อเห็นร่างหนาของเจ้านาย เดินออกจากห้องและเตรียมเดินไปที่ลิฟต์ หน้าหล่อเหลาพยักหน้าเล็กน้อย และหันมาบอก “ครับ เอกสารแวนเดอร์ผมเซ็นแล้ววางไว้บนโต๊ะละ พอดีผมมีธุระนิดหน่อย มีอะไรคุณแก้วโทรหาผมละกัน” “ไม่น่ามีอะไรแล้วค่ะคุณวิณณ์ จัดการธุระสำคัญให้เสร็จเถอะค่ะ” แก้วกัลยายิ้มหวาน เตรียมลุกขึ้นเพื่อเดินเข้าไปเอาเอกสารให้ห้องนาย “สำคัญบ้าบออะไรกัน!” วิณณ์ แค่นเสียงเบาๆในลำคอ ขณะกดลิฟต์ ธุระให้ไปรับยายขนมเนี่ยนะ!ว่าแต่คนบ้าอะไรชื่อขนม! ***********
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD