บทที่ 6
ยอมแล้วเหรอว่าตัวเองเป็น....
ขอแค่ฉันได้ปั่นประสาทเขาหน่อยเถอะ พี่พายุก็เป็นเหมือนพายุลูกใหญ่ พอโมโหก็กลายเป็นอีกคน แต่ถ้าไม่มีใครไปจี้จุดหรือพูดอะไรแทงใจดำ พี่พายุก็เป็นผู้ชายนิ่ง ๆ คนหนึ่ง
อาจจะขี้บ่นไปบ้าง แต่รวม ๆ ก็เป็นคนที่เข้าถึงยากอยู่ดี เหตุผลนี้แหละมั้งพี่พายุถึงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน
ผิดกับพี่สายฟ้าที่เป็นคนขี้อ้อน ขี้เอาใจ ดูนุ่มนวลพูดจากับผู้หญิงคะขา สาว ๆ ถึงได้ติดอกติดใจจนแทบจะถวายชีวิตให้เลย
ด้านพายุหลังจากที่เขานั่งทานข้าว รอสายโทรเข้าจากเพื่อน ๆเขาก็ขับรถออกมาที่ผับของเพื่อนสนิท มาถึงเพื่อน ๆ ของเขาก็มานั่งรออยู่แล้ว แต่เขามองไปรอบ ๆ กลับไม่เห็นคู่แฝดของตนเองเลย
"ไอ้สายฟ้าไปไหนยังไม่มาอีกหรือไง มันออกมาตั้งแต่เย็นแล้วนะ"
ไม่ทันขาดคำสายฟ้าก็เดินเข้ามาพร้อมกับน้องจินนี่คนสวยประจำคณะนิเทศ ทั้งสองเดินจับมือเข้ามานั่งพูดคุยกันกะหนุงกะหนิงราวกับว่าเป็นแฟนกัน
"นี่มึงเปิดตัวแล้วใช่ไหม?"
พายุหันไปถามพี่ชายของตัวเอง แต่เหมือนสายฟ้าไม่สนใจ ยังคงพูดคุยหยอกล้อไม่สนใจใคร ที่สำคัญบริเวณต้นคอของสายฟ้ามีรอยเล็บข่วน ที่มาช้าคงจะไปถึงพริกถึงขิงกันมาแล้ว
จินนี่กลายเป็นสมาชิกใหม่ในกลุ่มของสายฟ้ากับพายุ เธอเป็นคนง่าย ๆ คุยเก่ง ฐานะก็ร่ำรวยใครบ้างจะไม่ชอบ ที่สำคัญเธอสวยน่ารัก ใครเห็นก็ต่างชื่นชม
วันนี้พายุคงไม่ได้หิ้วสาวไปกิน เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยสบาย อาจจะเป็นตั้งแต่เมื่อคืนจนป่านนี้เขายังรู้สึกปวดหัวไม่หาย ส่วนสายฟ้าไม่ต้องสืบ ยังไม่ทันเที่ยงคืนก็พาจินนี่ออกไปแล้ว
พายุขับรถมาจอดที่บ้านในเวลาตีหนึ่ง เขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับอาการปวดหัวจึงแวะหายาในตู้ยาสามัญประจำบ้าน ได้ยาพารามาเขาก็รีบเปิดกระปุกเทใส่มือแล้วทานยาดื่มน้ำตาม
เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ขนมกำลังนั่งทานผลไม้อยู่ในมุมมืด เสียงเคี้ยวจ๊อบแจ๊บของเธอทำให้พายุหยุดชะงัก เขามองซ้ายมองขวาจนเผลอเพ่งตามองไปตรงมุมเสา
"เหี้ย!! ผีหลอก!!!!"
"กรี๊ดดดด ขนมกลัวผี!!!"
ทั้งสองวิ่งขึ้นมาบนบ้านต่างคนต่างตกใจ พายุคิดว่าขนมคือผีสวนขนมก็คิดว่าพายุเห็นผีที่ไหน ขึ้นมาชั้น 2 ไฟสีส้มสลัวจึงทำให้พายุเริ่มมีสติขึ้นมา เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จนเห็นขนมวิ่งขาสั่นๆ ตามขึ้นมา ในมือยังถือผลไม้เต็มสองมือ
"ทำไมเธอไม่เปิดไฟวะ ไปยืนอยู่ในมุมมืด ๆ แบบนั้นฉันก็คิดว่าเป็นผี!"
"ฮืออ ไอ้พี่พายุบ้า! ฉันก็ลงมากินแบบนี้ทุกคืน พี่มากล่าวหาว่าฉันเป็นผีได้ยังไง ปกติพี่เคยกลับบ้านเวลานี้เสียเมื่อไหร่ เกินเที่ยงคืนพี่ก็ไม่เคยกลับมาอยู่แล้ว!"
"ก็ฉันไม่สบายรู้สึกปวดหัว เลยกลับมานอนที่บ้าน"
"แล้วทำไมพี่สายฟ้าไม่มาด้วยล่ะ รายนั้นหนีเที่ยวอีกแล้วใช่ไหม"
"พาเพื่อนเธอเข้าโรงแรมแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเช้ามันก็คงมา"
"เพื่อนที่ว่าคงเป็นยัยจินนี่ใช่ไหมคะ?"
"เธอคิดว่ามันจะหิ้วไอ้โจ้ไปกินหรือไง"
"โจโจ้ค่ะ ไม่ใช่ไอ้โจ้!"
ฉันเดินถือกล่องผลไม้อีกมือหนึ่งก็ถือชมพู่เข้าห้อง ปล่อยให้พี่พายุดูแลตัวเองไป ทานยาแล้วเดี๋ยวครึ่งชั่วโมงก็คงดีขึ้น
เช้าวันนี้ฉันตื่นมาพร้อมกับความสดใส แต่ที่ไม่สดใสก็คงจะเป็นพี่พายุนี่แหละ วันนี้ฉันไม่มีเรียนส่วนพี่พายุฉันไม่รู้ ปกติแล้วพี่พายุจะเป็นคนตรงต่อเวลามากนี่ก็แปดโมงกว่ายังไม่ลงมาจากห้อง
บรื้นนน
พี่สายฟ้ากลับมาแล้วแต่กลับมาพร้อมกับอาการเพลีย ๆ เมื่อคืนคงจะไม่ได้นอนถึงได้มีสภาพแบบนี้ เห็นแล้วหงุดหงิดน่าเบื่อ
"มองอะไร?"
"ก็มองพี่นั่นแหละ กลับจนป่านนี้ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยล่ะ"
"ถ้าสาวไม่ติดธุระก็คงอยู่ต่อ ไอ้พายุล่ะ มันบอกว่าจะไปทำธุระทำไมยังไม่ลงมาอีก"
"ไม่รู้เหมือนกันฉันไม่ได้เป็นเงาตามตัวพี่พายุ อีกอย่างเมื่อคืนพี่พายุบอกว่าไม่สบายเห็นบ่นว่าปวดหัวกินยาไปเมื่อคืน ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"
พี่สายฟ้ารีบเดินขึ้นไปเคาะห้องพี่พายุ ข้อดีของพี่น้องคู่นี้คือไม่ค่อยทะเลาะกัน ใครเป็นอะไรอีกคนก็จะคอยถามไถ่ดูแล
เมื่อพี่พายุเดินลงมาฉันก็เดินไปตักข้าวต้มมาให้ ส่วนพี่สายฟ้าคงนอนหลับพักผ่อน ชีวิตหนุ่มเพลย์บอยมันต้องลำบากขนาดนี้เลยเหรอ อดหลับอดนอนต้องหิ้วสาวไปกินทุกคืน
"พี่เป็นยังไงบ้าง ยังปวดหัวอยู่ไหม"
"มีไข้แต่คงไม่เป็นอะไรมากหรอก"
"เดี๋ยวนี้มันอันตรายนะ ต่อให้พี่เป็นไข้ก็ควรจะไปตรวจให้รู้เรื่อง บางทีพี่อาจจะเป็นไข้เลือดออกก็ได้ช่วงนี้ยุงเยอะ พี่ชอบพาผู้หญิงไปกินในห้องน้ำตามผับตามร้านอาหาร บางทียุงพวกนั้นมันอาจจะกัดพี่จนเป็นไข้เลือดออกก็ได้นะ"
"ไปเอามาจากไหนว่าฉันชอบพาผู้หญิงไปกินในห้องน้ำ"
"ไม่ต้องมีใครบอกฉันก็รู้ ดีแล้วล่ะอย่างน้อยก็มิดชิดดีกว่าลากผู้หญิงไปกินในน้ำ ถ้าแบบนั้นฉันคงคิดหนัก"
"นี่เธอหาว่าฉันเป็นเหี้ยเหรอขนม!"
"ฉันไม่ได้พูดนะ พี่พูดออกมาเอง พี่ยอมรับแล้วเหรอ"
"เดี๋ยวเถอะ! ถ้าไม่ติดว่าฉันป่วยอยู่นะฉันจะลากเธอลงน้ำแล้วกดให้ตายเลย"
"ฉันไม่ใช่ไก่นะพี่พายุ ฉันเป็นคนนะ"
"___"