TB : สรุปจะเอาอะไรมาแลก
SR : ไม่มี...กลับก่อนนะคะรุ่นพี่
ฉันตัดจบไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนแบบนี้แล้วก็หันไปยกมือไหว้รุ่นพี่คนอื่น ๆ ส่วนเขาฉันไหว้ลาเป็นคนสุดท้ายแบบไม่มองหน้า หรือเรียกว่าไหว้แบบขอไปทีจะเหมาะกว่า วันแรกฉันก็เหนื่อยแล้วห้องเฮดไม่ได้สกปรกแต่ของเยอะมาก พวกเข้าใช้ห้องทำงานส่งอาจารย์และงานส่วนกลางของมหาลัยเพราะฉะนั้นก่อนจะทิ้งอะไรก็ต้องถามก่อนเผื่อจำเป็นต้องใช้อยู่ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรพูดคุยกันอีก แอนนี่ขับรถมาแต่ฉันกลับ MRT เพียง 10 นาทีก็ถึงหน้าคอนโดพอดี ฉันจะกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์ไปสอนเปียโนสำหรับเด็ก แล้วก็อยู่กับพ่อแม่และคุณยายอีกคน เอาจริง ๆ ฉันชอบอยู่บ้านมากกว่ามีแม่ทำอาหารอร่อย ๆ ครบ 3 มื้อนั่ง ๆ นอน ๆ สบายจะตาย
AN : ถึงบ้านยัง
SR : แล้วแกล่ะ
AN : เพิ่งถึงวันนี้โคตรเหนื่อย
SR : พัก ๆ ขอบใจนะที่ีมาช่วย
AN : ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เจอกัน
ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงไถ IG ไปเรื่อยไปสะดุดกับรูปของเพื่อนคนหนึ่งที่มหาลัยเรียนอยู่วิศวะ เป็นรูปตอนรับน้องแล้วมันถ่ายภาพพวกรุ่นพี่ว๊ากมาลงด้วย น่าแปลกฉันมองไปที่คนงกโดยที่ไม่ต้องส่องหา ก็ต้องยอมรับว่าเขาหน้าตาดีเกินคนอื่นจริง ๆ แต่ยิ้มที่โลกไม่ละลายหรอกนะโลกพังซะมากกว่าคนอะไรไม่เห็นจะมีอะไรดีสักอย่างนอกจากหน้าตา และแล้วงานเมดของฉันก็จบสัปดาห์แรก ระหว่างกำลังจะหยิบกระเป๋าเพื่อจะกลับบ้าน รุ่นพี่ฮิวโก้ก็เดินมาดักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า
HG : ปกติเรากลับบ้านกันยังไง
SR : รักกลับ MRT ค่ะ
HG : ...
SR : รุ่นพี่มีอะไรรึเปล่าคะ
HG : เปล่ากลับดี ๆ ละ
SR : งั้นขอตัวนะคะ
ฉันไม่ค่อยเข้าใจในสีหน้าท่าทางรุ่นพี่คนนี้เท่าไหร่เขาถามฉันแต่หันไปมองแอนนี่ ส่วนแอนนี่ก็ไม่สนใจอะไรกำลังหัวเราะกับหน้าจอมือถือแถมยังใส่หูฟังทั้ง 2 ข้างอีกคงจะไม่ได้ยินที่รุ่นพี่ถาม ฉันก็ไม่ได้คิดว่าเขาถามแอนนี่ด้วยเลยบอกลาเขาแล้วลากแขนแอนนี่ออกมาจากห้องทันที วันนี้เรามีนัดไปกินขนมกันหลังมหาลัยแล้วค่อยกลับบ้าน พอกินเสร็จฉันก็โบกมือลาเพื่อนรักตัวจิ๋วแล้วเดินลงบันไดเพื่อลงไป MRT แต่ก็มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดังใกล้เข้ามาจอดเทียบที่ข้างตัว จนฉันตกใจถอยเท้าหนีจนเกือบล้มไปด้านหลัง ด้วยความโมโหฉันเลยยืนจ้องผู้ชายที่อยู่ภายใต้หมวกกันน็อคสีดำสนิท ถึงฉันจะไม่ต้องด่าออกเสียงแต่ฉันว่าเขาก็รู้ตัวละ
TB : ด่าฉันอยู่ใช่ไหมยัยลูกหนี้
SR : ...
TB : ลืม?
SR : ใคร?
แม่งเอ้ยท่าถอดหมวกกันน็อคนี่ประหนึ่งไอดอลดี ๆ คนหนึ่งเลย เสียงผู้หญิงเดินผ่านด้านหลังบ่งบอกว่าชื่นชมคนงกนี่ขนาดไหน ฉันอยากจะหันไปบอกเหลือเกินว่าอิตานี่สุนัขจิ้งจอก 9 หางชัด ๆ อย่าไปหลงหน้าตาเด็ดขาดแต่ก็ทำไม่ได้ได้แต่มองบนใส่แทน
TB : อย่ามองบนใส่
SR : นี่มันนอกเวลางานรุ่นพี่จะมาสั่งไม่ได้นะคะ
TB : บ้านอยู่ไหน
SR : แถวนี้
TB : ขึ้นมา
SR : ไม่เอาอะรุ่นพี่ไปเถอะฉันกลับเองได้
TB : ฉันสั่งให้ขึ้นมา
SR : เอ้าก็บอกว่าไม่ไง
TB : ถ้าขึ้นมาฉันจะลดหนี้ให้
เพียงเท่านั้นฉันก็หูกระดิกก้าวเท้าทำท่าจะขึ้นคร่อมทันที แต่เขาก็ยกมือห้ามไว้ก่อนที่เขาจะหยิบเอาหมวกกันน็อคอีกใบออกมาจากเป้ที่หลังส่งให้ฉัน หลังจากบอกทางจนมาถึงคอนโดเขากลับบอกว่าหนี้ที่ลดให้แค่ 500 บาทนะ หมวกกันน็อคในมือฉันนี่สั่นเลยอยากจะยกฟาดเขาแรง ๆ สักที แต่ก็ดันนึกแปลกใจว่าคนปกติเขาพกหมวกกันน็อค 2 ใบไปทำไมหรือเป็นของที่ไว้ให้เด็กสต๊อกใช้
SR : ขอบคุณนะคะแต่วันหลังรุ่นพี่ไม่ต้องมาส่งหรอกรักไม่ชอบใส่หมวกกันน็อคคนอื่น
TB : แล้วใครบอกว่าหมวกคนอื่น
SR : ไม่มีเจ้าของแล้วพี่พกทำไมแปลกคน
TB : ฉันพอใจจะพก
SR : งั้นลานะคะรุ่นพี่
TB : เดี๋ยว...หมวกนี่ไม่เคยมีใครใช้งั้นเธอก็เก็บไว้แล้วกัน
ฉันกำลังยืนงงกับสิ่งที่เขาพูดแต่หมวกก็ถูกยัดใส่ที่มือแล้ว เขาไม่รอให้ฉันตอบกลับก็ขี่รถออกไปเลย สุดท้ายฉันก็ต้องเอามือกอดเจ้าดำนี่กลับขึ้นห้องไปด้วยความไม่เข้าใจสักนิดแต่ก็ช่างเถอะ คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ คนรวยก็งี้อยากให้อยากทิ้งอะไรก็ได้ไม่สะเทือนเงินในแบงก์หรอก ฉันเปิดห้องเข้ามาก็มองหาที่เหมาะ ๆ จะวางเจ้าดำนี่ไว้เผื่อวันดีคืนดีมาทวงกลับจะได้อยู่ในสภาพไม่บุบสลายให้ฉันต้องซวยเป็นหนี้เพิ่มอีก อาบน้ำจนสบายตัวแล้วฉันเลยต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรแวบ ๆ ที่เจ้าดำ พอเดินไปดูใกล้ ๆ มันเป็นอักษรสีทองเล็ก ๆ เขียนว่า TB เขาคงสลักชื่อย่อกับทุกสิ่งทุกอย่างสินะ ไม่รู้ถ้ามีแฟน ๆ เขาจะโดนสลักชื่อแสดงความเป็นเจ้าของด้วยไหมนะ