รักเอยทำหูทวนลมเพราะไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับชายหนุ่มตรงหน้า เธอรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะปากร้ายขนาดนี้ ตอนคบกันเป็นแฟน เขาไม่เคยปากจัดขนาดนี้เลย เอาเข้าจริงเขาแทบไม่ค่อยพูดอะไรกับเธอ นอกจากจะให้ทำงาน ทำการบ้านให้ เอ๊ะ! หรือตอนนั้นเขาหลอกใช้เธอ นี้ซินะ สันดานของเขา ‘ต้องโอบเอว กอดกับมันด้วยหรอ ผู้หญิง หึ !’ ตฤนยังหาเรื่องไม่เลิก สายตาคมๆนั้นจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ ‘นายเป็นอะไร กินยาผิดมารึงัย หรือโดนหมาบ้ากัด ถึงไล่อาละวาดไปทั่ว ฉันจะมากับใคร กอดใคร มันเรื่องของฉัน มันไปหนักส่วนไหนของนายไม่ทราบ’ สาวเจ้าแหวใส่กลับบ้าง เพราะเขาเริ่มจะพูดจาให้ร้ายเธอมากไป ตฤนไม่พูดอะไร แต่กลับลุกขึ้นกระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้นตามเขาไป ‘นะ นายยยย จะพาฉันไปไหน ปล่อย ฉันจะรอน้ำหอมข้างล่าง’ เขาไม่ตอบ แต่กลับลากเธอเข้าไปในลิฟต์แล้วกดไปยังชั้นที่เขาพักอยู่ รักเอยสะบัดมือออก แล้วลูบแขนตัวเองที่มีรอยแดงจากการที่โดนเขาลากมา ‘เจ็บไปหมด เป็นบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย’ รักเอยอดบ่นพึมพำไม่ได้ อีกฝ่ายไม่ตอบแต่มองด้วยสายตาคมกริบ เหมือนจะสำรวจเธอให้ทะลุทั้งตัวซะอย่างงั้น พอลิฟต์เปิด เขาก็ดันเบาๆ ให้เธอออกจากลิฟต์ แต่รักเอยไม่ยอมออก ‘เธอจะออกมาดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้มออกมา’ เขาทำท่าปรี่เข้าหาเป็นเชิงบอกว่าไม่ใช่แค่ขู่แต่ทำจริง จนเธอต้องยอมแพ้และเดินตามหลังเขาออกมา หลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาในห้องเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็เอ่ยถามขึ้นมา
‘คนที่มาส่งเธอมันเป็นใคร แฟนใหม่เธอรึงัย’
‘เจ้าของร้านคาเฟ่ที่ฉันไปทำงานพาร์ตไทม์ นะ กรี๊ดดดดด!!!’ รักเอยตกใจที่พอหันไปมองเขา ตฤนกลับถอดเสื้อและทำท่าจะถอดกางเกงพอดี ขาเธอสั่น ใจก็หวิวๆ เพราะเห็นกล้ามหน้าท้องขาวจั๊วะที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายผ่านการออกกำลังกาย ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ แถมเขายังมีรอยสัก รูปหมาป่าที่ชายโครงด้านขวาด้วย ‘นะ นาย ถอดเสื้อทำไม จะทำอะไรฉัน ที่นายพาฉันขึ้นมา เพราะแบบนี้ใช่มั๊ย’ฉันทำท่าจะวิ่งออกไปจากห้อง แต่ปรากฏว่ามันเปิดประตูไม่ได้ มันต้องใช้ลายนิ้วมือแสกนประตูเปิดออก รักเอยยืนตัวสั่น พิงประตูอยู่แบบนั้น ‘ฮ่า ฮ่า เธอคิดอะไรลามกอยู่หรอ หืมมมม แบบเธอ ฉันทำอะไรไม่ลงหรอก’ตฤนพูดด้วยน้ำเสียงติดขำ ‘ฉันจะอาบน้ำก่อน รอพวกนู้นมา เธอก็เปิดคอม ทำงานพลางๆซิ นั่งรอข้างล่างเสียเวลาอยู่ ถ้าไม่ทำวันนี้ให้เสร็จ วันอื่นฉันไม่ว่างแล้วนะ’ พูดจบก็เดินผิวปากเขาห้องน้ำ ปล่อยให้เธอยืนเข่นเขี้ยวอยู่ ไอบ้า รู้อยู่ว่าหวั่นไหวมายั่วกันอยู่ได้ รักเอยจึงเปิดคอมทำงานเพื่อไม่ให้โฟกัสอีกคนที่อยู่ในห้อง สักพักยัยน้ำหอมส่งข้อความมาบอกว่า รถที่เธอนั่งมากเกิดเสีย น่าจะมาทำงานไม่ได้แล้ว เธอถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เพราะวันนี้น่าจะมาเสียเวลาเปล่าๆ เนื่องจากข้อมูลงานส่วนใหญ่อยู่ที่น้ำหอม เธอจึงปิดคอม รอเจ้าของห้องออกมาจากห้องน้ำ เพื่อเปิดประตูให้เธอกลับ ร่างสูงแต่งตัวด้วยชุดวอร์มสบายๆ กลิ่นหอมสะอาดส่งออกมาจากคนที่เพิ่งอาบน้ำ เขาเดินผิวปากออกมาอย่างสบายใจ ‘นาย น้ำหอมส่งข้อความมาบอกว่า รถเสีย วันนี้น่าจะมาไม่ได้แล้วนะ งั้นนายบอกสายฟ้ากับเดย์ด้วยนะ ค่อยนัดกันใหม่วัน..’ ตื๊ดดด ตืด ก่อนที่เธอจะพูดจบเสียงสั่นโทรศัพท์มันก็ดังขึ้น ‘ค่ะ พี่เสือ’ สิ้นเสียงรับสายของร่างบาง ดวงตาคมกริบของชายหนุ่ม ก็วาววับฉายแววไม่พอใจขึ้นมาทันที
‘อ่ะ’ ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดดี ร่างสูงก็คว้าโทรศัพท์จากมือไปกดวางหน้าตาเฉย
‘ตฤน นายจะบ้ารึงัย เอาโทรศัพท์คืนมานะ’ ฉันพยายามเขย่งเพื่อเอาโทรศัพท์คืน แต่ด้วยความสูงที่ต่างกันแค่ระดับหน้าอกของเขาแน่นอนว่า ฉันเอื้อมสุดแล้วก็ไม่ถึงแน่นอน
‘มันเเป็นใคร เป็นพี่แท้ๆเธอรึงัย ถึงต้องเรียกมันว่าพี่’ เอ้าาาา กรูจะบ้า
‘แล้วนายให้ให้เรียกเขาว่า ไอ้ รึงัย เขาเป็นเจ้านายฉันนะ เอาโทรศัพท์คืนมาาาา’ แม้ว่ายังไม่ถึงแต่ฉันก็พยายามอย่างไม่ลดละ กลายเป็นว่า ฉันอยู่ในอ้อมกอดแกร่งเรียบร้อยแล้ว กลิ่นตัวหอมๆ ทำให้ฉันรู้สึกว่า เราใกล้กันเกินไปแล้ว
‘อยากได้คืนก็จูบฉันก่อนซิ’ หึ๊ยยยย แล้วนี้มันเรื่องอะไรล่ะเนี่ย
‘จะเอาไม่เอาเอา’ ร่างสูงพลางยกยิ้มยียวน ฉันอยากเอามือข่วนหน้าหล่อๆ ขาวๆ ให้แหกกระจุยนัก
‘ไม่เอาอ่ะ ถ้าต้องจูบนาย ฉันยอมซื้อ เครื่องใหม่ อยากได้ก็เอาไป ฉันยกให้’ ทั้งๆที่แค่คิดจะยั่วโมโหคนตรงหน้าแท้ๆ แต่พอเธอพูดแบบนี้เขาก็อดหัวเสียไม่ได้ ทำไม จูบเขามันแย่รึงัย เธอถึงทำท่ารังเกียจขนาดนี้ รักเอยทำท่าจะออกไปจากอ้อมแขนเพื่อจะไปเก็บกระเป๋ากลับ ตฤนกระชากแขนเธอกลับพร้อมประกบเรียวปากหนาบนปากเรียวบางของเธอ เขาจูบเธอแทบจะสูบวิญญาณ รักเอยสะลึ่มสะลือเคลิ้มไปกับจูบของตฤน เขามีประสบการณ์มากพอที่จะล่อให้เธอหลงกลเขา มือบางกำหมัดในตอนแรก เปลี่ยนเป็นคล้องคออีกฝ่ายเฉย ‘เธอเข้ามาในถ้ำเสือแล้ว เธออีกจะออกไปง่ายๆอย่างงั้นหรอ’ รักเอยลืมตาขึ้นมาผวากับคำพูดอีกฝ่าย ‘อ๊อยยย อั้นนนน(ปล่อยฉัน) ร่างบางพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่อีกฝ่ายก็ประกบริมฝีปากลงมาอีกจนได้ ลิ้นหนาสอดเข้ามาหาความหอมหวานจากในปากของอีกฝ่าย ฝ่ามือก็ลบไปตามเอวบาง ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณหน้าอกที่เขาเคยจับมาแล้ว ว่ามันเต็มไม้เต็มมือแค่ไหน กว่าเธอจะรู้ตัว เสื้อครอปยืดของเธอก็ปลิวหลุดไปตามมือของเขา เขาเคล้นหน้าอกเธอเหมือนจะลงโทษที่เธอยั่วโมโหเขา น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากตาสวย จนเขาสัมผัสได้ถึงความเค็มที่ไหลลงมาจนถึงปากของรักเอย เขาผละตัวออกมาเล็กน้อย จับคางของอีกฝ่ายไว้ รักเอยเม้มปากจนห้อเลือด เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้น ตฤน ค่อยๆปาดน้ำตาออกจากหน้าสวยอย่างช้าๆ สายตาบอกว่าเขารู้สึกผิดไปแล้ว เขาค่อยๆ จูบบนเปลือกตาของฉันอย่างเบาๆ ฉันสับสนไปหมด ทำไมต้องทำเหมือนถนุถนอมกันแบบนี้ แขนเรียวบางยกขึ้นปิดหน้าอกที่ตอนนี้มีเพียงชั้นในสีขาวห่อหุ้ม น้ำตาที่ไหลของเธอทำให้เขามีสติ แต่เขาก็ไม่อยากหยุดไว้ตรวนี้อีกแล้ว ‘ฉันขอโทษ อย่าร้องไห้เลย ฉันไม่อยากเห็นน้ำตาเธอ’ ไม่เคยอยากเห็นและที่บอกเลิกเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาเจ้าหล่อนยังงัยล่ะ ขึ้นยังคบกัน ไม่แคล้วเขาต้องทำให้เธอเสียใจแบบนี้
‘ ฮือ ฮึก ฮืออ นายเห็นฉันเป็นอะไร ของเล่นรึยังงัย มาทำแบบนี้กับฉันได้ยังงัย’ ฉันพูดด้วยเรียวปากสั่นระริก ฉันกลัวเขา กลัวที่เขาเป็นแบบนี้ กลัวใจตัวเองด้วย ‘ฉันขอโทษ’ คราวนี้เขาก้มลงมาใหม่ จูบอ้อนหวาน เว้าวอน เหมือนจะทำให้ฉันขาดใจตายในอ้อมแขนเขา เหมือนมีผีเสื้อนับร้อยบินอยู่ในท้องฉัน กว่าจะรู้ตัว เสื้อชั้นในสีขาวก็ปลิวไปตามมือเขาเรียบร้อยแล้ว โดยที่ฉันก็เต็มใจบิดตัวให้เขาถอดมันอย่างง่ายดาย ร่างสูงพาฉันไปนอนบนเตียง ฉันบิดตัวอย่างเสียวซ่าน มันทำตัวไม่ถูกไม่รู้ต้องทำยังงัย ตฤนซุกหน้าลงซอกคอฉัน แล้วฉันก็เอียงให้เขาอย่างเต็มใจ ลงจะไล่ลงไปบริเวณหน้าอก ดูดบริเวณจุดสีชมพูอย่างหิวกระหาย ฉันรู้สึกเหมือยหายใจไม่ทัน มือก็กระสับกระส่ายป่ายไปตามตัวเขา แม่เจ้า!!! เขารุกเธอแบบรุนแรงมาก เธอไม่เคยแนบชิดกับใครขนาดนี้มาก่อน เธอเหมือนจะขาดใจกับความเสียวที่เขามอบ มือหนากำลังจะถอดกระโปรงยีนส์ของเธอ เธอยกสะโพรงให้เขาแบบเงอะๆงะๆ มือก็ยันไว้ด้านหลัง มันสอดเข้าไปใต้หมอน แต่เอ๊ะ!!! เธอจับอะไรได้ บราลูกไม้สีดำ!!!