ตอนที่ 5 : ผู้หญิงที่เลือก
เสียงของสาวสองดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากการสนใจสิ่งอื่นรอบตัวและหันไปมองตามเสียง ปรากฏหญิงสาวประเภทสองที่แต่งตัวจัดจ้านกว่าพริกทั้งสวนยืนยิ่งอยู่ไม่ไกลและเดินตรงเข้ามาหา
“สวัสดีค่ะ”
“เรียกว่าเจ๊ก็พอไม่ต้องรู้ว่าเจ๊ชื่ออะไร”
“อ่อค่ะ” เธอตอบรับแบบงงๆ แต่ไม่ได้สนใจส่วนนั้นเพราะเธอสนใจเรื่องงานมากกว่า
“เดินตามเจ๊มาคุยในห้อง ตรงนี้เสียงดัง”
พริกหวานเดินตามสาวประเภทสองและเข้ามาในห้องห้องหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ พอเข้ามามีเพียงชุดโซฟาหนังตั้งอยู่กลางห้อง และพอมองออกไปจากห้องกระจกสามารถเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาได้อย่างชัดเจน แต่ก่อนหน้านี้ถ้าเธออยู่ด้านนอกจะมองไม่เห็นข้างในต่อให้ห้องเปิดไฟสว่าง
“งั้นเริ่มคุยกันเลยนะ ก่อนอื่นเลยถ้าอยากทำงานชุดนี้เจ๊ว่าไม่เหมาะ แล้วการแต่งหน้าแบบนี้เจ๊ก็ว่าเฉิ่มเกินไป ส่วนเรื่องหน้าตาและหุ่นเจ๊ให้ผ่าน”
“งานที่ว่าเป็นแค่นั่งดื่มเป็นเพื่อนใช่ไหมคะ”
“ใช่จ้ะ นั่งดื่มเป็นเพื่อนลูกค้า แต่หลังจากนั้นฟรีสไตล์ถ้าอารมณ์พาไป” สาวประเภทสองยิ้มกริ่มเพราะไม่เคยมีเด็กที่ตนเองส่งคนไหนไม่ไปต่อกับแขก สุดท้ายเสร็จทุกราย
“เอ่อ...ขอถามได้ไหมคะ หนูเห็นเจ๊โพสต์มีผู้หญิงเยอะมากที่สนใจ แต่ทำไมถึงเลือกหนู”
“เจ๊ไม่ได้เลือก ลูกค้าเลือกเอง”
พริกหวานพยักหน้ารับรู้แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี ด้วยที่เธอไม่ค่อยคุ้นชินกับพื้นที่และการทำงานแบบนี้สักเท่าไหร่
“เงินส่วนแบ่งของเจ๊ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ สมมติถ้าลูกค้าให้หนึ่งหมื่นเราเอาไปแปดพัน เจ๊สองพัน แต่ถ้านอกเหนือจากนั้น อย่างเช่นเราไปกับแขกข้างนอก เราจะได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มไม่ต้องแบ่ง”
ประโยคสุดท้ายเป็นอะไรที่ทำให้เธอตาลุกวาว แต่ต้องยับยั้งความคิดเพราะการออกไปข้างนอกนั่นแปลว่าต้องนอนกับลูกค้า เธอแค่อยากนั่งดื่มเฉยๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ชอบดื่มเหล้า แต่ด้วยงานที่มันยุ่งเกี่ยวกับของพวกนี้และได้เงินที่น่าสนใจเธอเลยตัดสินใจมาทำงานแบบนี้
“ดื่มเป็นไหม”
“พอได้นิดหน่อยค่ะ” เป็นคำโกหกที่ปั้นหน้ายิ้มแหยๆ
เหล้าสีอำพันรินใส่แก้วด้วยฝีมือของสาวประเภทสอง และจัดการเลื่อนมาตรงหน้าเด็กสาวทันที พร้อมกับส่งสายตาให้ลองดื่ม
พริกหวานหยิบแก้วเหล้ามาถือไว้และมองสีของเหล้าที่อยู่ในแก้ว รอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนจะจิบมัน แต่แล้วใบหน้าหวานเหยเกกับรสชาติที่ได้รับ ความร้อนแผ่ซ่านตั้งแต่คอไปจนถึงท้อง
“ถ้าไม่ไหวประตูอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวเจ๊ให้แขกเลือกเด็กใหม่ได้”
เพราะคำพูดของสาวประเภทสองทำให้พริกหวานจัดการกระดกเหล้าจนหมดแก้วในคราวเดียว ร่างกายเหมือนทุรนทุรายแต่ต้องทำนิ่งเฉย ตอนนี้ภายในท้องเธอกำลังมีไฟลุก กลิ่นที่ชวนอ๊วกตีขึ้นมาที่จมูก
“หนูทำได้ค่ะ เดี๋ยวคงชินไปเอง”
“ถือว่าใช้ได้ เสื้อผ้าแขวนอยู่ในห้องน้ำ เลือกเอาว่าจะใส่ชุดไหน มีเครื่องสำอางอยู่ในนั้นพร้อม เจ๊ว่าเราควรทาปากสีแดงน่าจะสดใสมากกว่า” สาวประเภทสองส่งสายตาไปที่ห้องน้ำที่อยู่ในตัวห้องกระจกให้เด็กสาวได้รับรู้
พริกหวานลุกขึ้นเมื่อได้คำสั่งแต่เกิดอาการมึนนิดหน่อยแค่เพียงชั่ววินาทีอาจเพราะเธอลุกเร็วเกินไป แต่แล้วร่างบางได้เดินเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด
“คุณโรมันนี่ตาถึงจริงๆ ใสๆซื่อๆดูโง่ แต่น่าจะเด็ดไม่น้อย” สาวประเภทสองพูดเบาๆกับตัวเองหลังจากเด็กสาวหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว
หนุ่มหล่อขาประจำของผับ ที่วันนี้อยากได้สาวใสซื่อไร้เดียงสาพอพริกหวานส่งรูปมาทำให้เธอส่งหาคนสนิทของคุณโรมันทันที และไม่ถึงหนึ่งนาทีเสร็จสิ้นการดีลเด็กคนใหม่ให้ ทำให้เธอส่งข้อความหาเด็กสาวเพื่อนัดมาคุยรายละเอียดทันที
แล้วแต่ว่าวันนี้โจทก์จะอยากได้ผู้หญิงแบบไหน เธอสามารถหาให้ชายหนุ่มได้ทั้งนั้นเพราะเม็ดเงินค่อนข้างสูงทำให้เธอเฟ้นหาผู้หญิงมาให้ และสุดท้ายก็ไม่รอดแค่นั่งดื่มสักราย สาวๆหลายคนอยากนอนกับผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น หวังว่าเด็กใหม่จะทำให้คุณโรมันพึงพอใจ
พริกหวานมองชุดตรงหน้าได้แต่ถอนหายใจออกมา มีอยู่ด้วยกันสามชุดให้เธอเลือก ทุกชุดล้วนแล้วแต่โชว์เนื้อหนังทั้งนั้น ความสั้นไม่ต้องพูดถึง ชีวิตนี้ไม่เคยใส่เสื้อผ้าแบบนี้เลย สุดท้ายเธอเลือกหยิบชุดสีดำมาเพราะคิดว่าโป๊น้อยที่สุดแล้ว
ใช้เวลาไม่นานเดรสเกาะอกสีดำรัดรูปได้อยู่บนร่างอรชร ไม่มีส่วนไหนที่สามารถปกปิดได้อย่างมิดชิดเลย
“ให้ตายเถอะ คิดถูกแล้วใช่ไหมพริกหวาน” เธอมองตัวเองผ่านกระจกเงา ด้านบนหน้าอกทะลักออกมาเกือบครึ่งเต้า จะดึงสูงมากก็ไม่ได้เพราะด้านล่างแทบปิดไม่มิด ถ้าดึงลงล่างมากด้านบนได้โผล่พ้นจนเห็นจุกสวาทเป็นแน่
หน้ากระจกมีเครื่องสำอางที่สภาพเหมือนผ่านการใช้งานมานักต่อนัก เธอเลือกลิปสติกสีแดงตามคำบอกกล่าวของเจ๊ และบรรจงทาลงบนปาก ลองแบบบางเบาและค่อยๆเกลี่ยให้ฟุ้งกระจาย และย้ำให้เข้มขึ้นอีกครั้งทำให้ตอนนี้ใบหน้าหวานเธอดูเป็นสาวมั่นเพียงเพราะเปลี่ยนสีลิปสติก เติมที่ปัดแก้มเบาๆก่อนออกจากห้อง มองไปยังสาวประเภทสองที่นั่งอยู่ที่เดิม
“เลิศ แต่ถ้าดีกว่านี้ต้องใส่ส้นสูง ใส่ส้นสูงเป็นหรือเปล่า”
“พอได้อยู่ค่ะ” พริกหวานตอบไปตามตรงเพราะตอนเรียนมักได้เป็นตัวแทนถือป้ายบ้าง ตัวแทนเชียร์บ้าง หรือแม้แต่นางนพมาศ ล้วนแล้วแต่ต้องใส่ส้นสูงทำให้เธอคุ้นชิน
“เท่าที่ดูเท้าน่าจะเบอร์สามสิบหก”
“ค่ะ”
รองเท้าส้นสูงสีดำถูกหยิบออกมาจากกล่องที่ตั้งไว้บริเวณมุมห้อง ไม่คิดว่าห้องนี้จะมีอุปกรณ์แต่งตัวครบขนาดนี้ นั่นแปลว่าคงมีคนทำงานอยู่เรื่อยเลยมีของสำรองไว้เสมอ
เท้าเรียวเล็กยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงท่ามกลางสายตาของสาวประเภทสองที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“คุณโรมันนี่ตาถึงจริงๆ มองแค่รูปยังรู้เลยว่าพริกหวานเด็ด”
“คุณโรมัน” พริกหวานทวนชื่อที่ไม่คุ้นหูอีกครั้ง
“แขกวันนี้ชื่อคุณโรมัน จะมาผับเราประมาณเที่ยงคืน และเขาเป็นคนเลือกพริกหวานด้วยตัวเอง นั่งดื่มเป็นเพื่อนแขกหวังว่าจะไม่หนักเกินไป คุณโรมันเป็นคนง่ายๆถ้าคุยกันถูกคอ เดี๋ยวเจ๊จะเทรนด์ฉบับรวบรัดให้ แต่ที่สำคัญงานพวกนี้อย่าผูกมัดก็พอ จบงานคือจบ ไม่มีเร้าหรือแขก ถ้าแขกต้องการจะติดต่อมาเอง”
“ค่ะ ขอให้งานแรกผ่านไปด้วยดี”
“อ้อนเข้าไหว จะบอกว่าคุณโรมันกระเป๋าหนัก”