ตอนที่ 6 : ดื่มเป็นเพื่อน
เที่ยงคืนตรง
รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนมาจอดด้านหลังของผับดังใจกลางเมือง ตามมาด้วยรถคุ้มกันสีดำสนิท ก่อนที่คนในรถยนต์คันหรูจะลงจากรถ ลูกน้องหลายสิบคนต้องคอยเช็คความเรียบร้อยก่อนเสมอ เมื่อทุกอย่างปกติทำให้ส่งสายตาไปยังลูกน้องที่คอยเปิดประตูรถยนต์คันหรูให้เปิดประตูได้
ชายหนุ่มร่างกายกำยำก้าวขาลงจากรถยนต์คันหรู ที่รายล้อมไปด้วยลูกน้องนับสิบที่คอยคุ้มกัน การแต่งกายคุมโทนสีดำสนิท เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมลงจนเผยแผงอกแกร่ง ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก สายตาคมกริบจ้องมองทางที่เดินไปด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา เท้าแกร่งก้าวเป็นจังหวะสม่ำเสมอและมุ่งตรงไปยังพื้นที่ประจำของตัวเอง
“เด็กที่นายต้องการเตรียมพร้อมอยู่ในห้องแล้วครับ” ธนินลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้น
“ดี”
ประตูห้องรับรองในผับหรูเปิดออกทำให้ชายหนุ่มร่างกายกำยำก้าวเข้ามาในห้อง สายตาคมกริบมองหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างโซฟาหนังราคาแพง สายตาคมมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าโดยที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไร สายตาคมหยุดมองที่หน้าอกอวบอิ่มอยู่สักพักก่อนจะตวัดสายตาไปมองอย่างอื่นแทนพร้อมกับนั่งลงที่โซฟา
รูปร่างหน้าตาเธอไม่ต่างจากในรูปที่ได้เห็นก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะมีเครื่องสำอางแต่งแต้มบนใบหน้าแต่แววตาใสซื่อของเธอทำให้เขาสนใจ ภายนอกอาจดูใสๆไร้เดียงสา ไม่แน่ข้างในอาจพรุนหมดแล้ว การที่รับงานพวกนี้ต้องเป็นผู้หญิงก้านโลกประมาณหนึ่ง ส่วนชื่อเธอไม่จำเป็นต้องถามเพราะรู้ตั้งแต่ต้องการเด็กคนนี้แล้ว
ทันทีที่พริกหวานเห็นคนที่เดินเข้ามาใหม่ทำเอาตัวเธอแข็งทื่อคล้ายกับโดนสาปให้แข็งเป็นหิน ไม่คิดว่าเขาจะน่ากลัวขนาดนี้ ถึงแม้รูปร่างหน้าตาจะหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่งราวกับเทพบุตรแต่สายตาคมคู่นั้นทำเอาเธอเสียวสันหลังวาบ แต่เมื่อมันเป็นงานที่ต้องทำทำให้เธอเลือกที่จะนั่งลงข้างๆเขาตามที่เจ๊เทรนด์งานให้ และจัดการหยิบน้ำแข็งเพียงหนึ่งก้อนใส่แก้วคริสตัลราคาแพง จากนั้นเทเหล้าสีเข้มลงในแก้วโดยที่ไม่ต้องมีอย่างอื่นผสม เป็นแบบที่ถูกเทรนด์มาทุกอย่าง
“ของคุณโรมันค่ะ”
“พึ่งเคยทำงานครั้งแรก?” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงคำถาม ตอนแรกไม่มั่นใจว่าเธอจะใสซื่อจริงหรือแกล้ง แต่เห็นอาการสั่นเทาตอนที่เธอรินเหล้าและอาการเก้ๆกังๆทำให้เขาเริ่มมั่นใจ งานอาจเคยทำครั้งแรก แต่เรื่องอย่างว่าคงผ่านมาบ้างแล้ว ด้วยที่เด็กสมัยนี้เร็วแรงยิ่งกว่าจรวด อีกอย่างเด็กคนนี้หน้าตาค่อนข้างดีไม่มีทางรอดพ้นผู้ชายไปได้
เขาไม่เคยถือว่าผู้หญิงคนนั้นเคยผ่านชายใดมาก่อน เพราะสุดท้ายแค่ถูกใจก็เอาได้ทั้งนั้น แต่เรื่องลีลาค่อยว่ากันอีกที ถ้าดีก็ซ้ำ แต่ถ้าไม่ดีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่คนแบบเขาไม่ชอบซ้ำ เพราะมันไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นในเมื่อเห็นหมดแล้ว
“ค่ะ”
“ไหนของเธอ”
พริกหวานจัดการรินเหล้าให้ตัวเองโดยที่ปริมาณน้อยกว่าของชายหนุ่ม และในจังหวะที่เธอรินเหล้าเสร็จท่อนแขนแกร่งของเขาเข้ามาโอบรัดเอวของเธอและดึงตัวเธอให้เข้าไปใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ
“แค่มาดื่มเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอคะ”
“คนแบบฉันไม่ชอบมีเพื่อนตอนดื่ม”
ใบหน้าหวานหันไปมองใบหน้าคมคายอย่างลืมตัว ทำให้ใบหน้าของเขาและเธอห่างกันไม่ถึงคืบจนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน โดยเฉพาะของเขาที่ลมหายใจปนกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ
“หมายความว่าไงคะ”
โรมันไหวไหล่และยกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับกระดกเหล้าสีอำพันที่เย็นเฉียบลงคอจนหมดแก้ว
ปึก
เสียงแก้วเหล้าวางลงบนโต๊ะกระจกจนเกิดเสียงดังพร้อมกับปรายตามองแก้วของหญิงสาวที่ยังไม่มีการดื่มเลยแม้แต่นิดเดียว
“ทำหน้าที่เธอสิ”
พริกหวานหยิบเหล้าราคาแพงมาจิบเล็กน้อย อาการร้อนท้องก่อนหน้านี้หายไปแล้ว และคิดว่าอีกไม่นานคงจะเกิดขึ้นอีก เพราะดูเหมือนเขาจะจงใจให้เธอดื่มหนักเพราะตอนนี้สายตาคมคู่นั้นจ้องมองแก้วเหล้าในมือเธอไม่วางตา
“พริกอยากดื่มเป็นเพื่อนคุณไปเรื่อย ๆ ค่ะ ถ้ารีบดื่มกลัวจะเมาก่อนแขก”
“หึ” โรมันหัวเราะในลำคอกับความฉลาดและเอาตัวรอดของเธอ
“ฉันสั่ง”
พริกหวานสะดุ้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงเข้มชวนขนลุกออกคำสั่ง ทำให้เธอเลือกที่จะกระดกเหล้าราคาแพงจนหมด ความขมบาดลึกลงคอ อาการร้อนวูบวาบแผ่ซ่านไปทั่วท้อง ใบหน้าหวานต้องนิ่งเฉยเหมือนคุ้นชินกับรสชาติของเหล้าราคาแพง
“อายุเท่าไหร่”
“ยี่สิบค่ะ”
“ใช้ได้”
“คะ?” ใบหน้าหวานหันไปหาชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่เคียงข้างแต่เขาไม่ได้มองเธอ เธอเห็นรอยยิ้มที่มุมปาก แต่สุดท้ายความสงสัยกับคำพูดของเขาได้ถูกเก็บไว้ในใจ เธอเลือกที่จะรินเหล้าให้เขาและนั่งอยู่ในอ้อมแขนแกร่งอยู่แบบนั้น ถึงแม้มือหนานั้นจะไม่ได้ยุ่มย่ามกับร่างกายเธอแต่การถูกโอบกอดด้วยผู้ชายที่พึ่งเจอกันครั้งแรกไม่มีทางชิน ได้แต่บอกว่าขอให้จบงานเร็วๆ หวังว่าการที่เปลืองเนื้อเปลืองตัวพร้อมกับดื่มในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบจะได้เงินตามที่ตกลงกันไว้ ถ้าไม่ต้องทำเพื่อครอบครัวเธอคงไม่ตัดสินใจรับงานแบบนี้