ตอนที่ 7 : ยอมรับข้อเสนอ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
แก้วคริสตัลวางกระทบพื้นกระจกจนเกิดเสียง ดวงตากลมโตมองเหล้าราคาแพงที่พ่องไปเกินครึ่งขวดแล้ว แต่คนข้างๆเธอยังดูปกติเหมือนกับดื่มน้ำเปล่า เขาบังคับให้เธอดื่มไปเพียงสองแก้วเท่านั้น แต่แค่สองแก้วก็ทำให้เธอเริ่มมึนหัว แต่พยายามควบคุมสติให้ได้มากที่สุด เธอพยายามชวนคุยแต่ดูเขาจะถามคำตอบคำ แต่เธอก็อยากสร้างบรรยากาศให้ดีกว่านั่งตัวเกร็ง
“คุณมาที่นี่บ่อยไหมคะ”
“อืม”
“งั้นแสดงว่าคุณคงเรียกสาวๆมานั่งดื่มเป็นเพื่อนด้วยกันตลอดเลยเหรอคะ”
“ฉันไม่ชอบมีเพื่อนดื่ม”ร่างสูงยัดกายลุกขึ้นหลังจากตอบคำถามสาวข้างกายจบ สายตาคมปรายตามองเธอที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ค่อนข้างแปลกใจที่เธอไม่ยื้ออะไรเขาเลยต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่แทบกอดแข้งกอดขาและใช้มารยาออดอ้อนขอไปต่อด้วย
“ตกลงกันไว้เท่าไหร่”
“หมายถึงอะไรคะ? หรือว่าหมายถึงค่าตัวที่นั่งดื่มเป็นเพื่อนคุณ”
ไม่มีการตอบกลับจากโรมันแต่ใช้สายตากดดันเธอแทน
“หนึ่งหมื่นค่ะ ยังไม่ได้หักเปอร์เซ็นต์” ก่อนจะเข้ามาทำงานเจ๊คนที่รับเธอเข้ามาได้บอกรายได้ที่นั่งกินแขกไว้แล้ว ซึ่งค่อนข้างเยอะสำหรับเธอ แต่รู้ว่าพอหักเปอร์เซ็นต์แล้วไม่พอกับที่แม่ต้องการ แต่เธอพอมีเงินที่ก่อนหน้านี้เหลือติดบัญชีไว้ คงรวบรวมและโอนกลับไปให้ที่บ้าน
“อยากได้มากกว่านั้นหรือเปล่า” เป็นคำถามที่ไม่เคยออกจากปากโรมัน แต่เพราะความใสซื่อของเด็กคนนี้ตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ได้สังเกตพฤติกรรมของเธอ มีบางอย่างที่น่าค้นหาและน่าลิ้มลอง ความรู้สึกของตัวเองค่อนข้างแม่น และเชื่อว่าเด็กคนนี้คงมีเรื่องน่าเซอร์ไพรส์ซ่อนอยู่
“พริกขอถามได้ไหมคะว่าต้องทำอะไรถึงได้เงินมากกว่านี้” ความรู้สึกของเธอบอกบางอย่าง แต่อยากถามให้แน่ใจว่าสิ่งที่คิดเป็นไปตามคำพูดของเขา และเธอไม่อยากไปถึงขั้นนั้น แต่ดูท่าทางเขาไม่ใช่คนบีบบังคับเธอ
“หึ ถ้าอยากรู้แค่เดินตามฉันออกไป”
“ถ้าคุณจะกลับแล้ว พริกขอตัวเก็บของนะคะ แค่อยากมานั่งดื่มเป็นเพื่อนคุณเท่านั้นไม่ต้องการเกินเลยไปมากกว่านี้” พริกหวานตอบกลับและมองใบหน้าคมคายด้วยสายตาเรียบนิ่ง สิ่งที่คิดไว้ไม่มีผิด เพราะฟังจากเจ๊พูดกำกวมมาตั้งแต่พูดคุยรายละเอียด เขาคงพาผู้หญิงทุกคนที่นั่งดื่มด้วยไปข้างนอกและจบลงที่เตียงสินะ
“เติมศูนย์ไปอีกตัวและไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์นั่นคือสิ่งที่เธอจะได้ แต่ถ้าเธอไม่...ก็แล้วแต่”
เป็นครั้งแรกที่โรมันพูดยาวเหยียดกับหญิงสาว ยิ่งเธอปฏิเสธเขายิ่งต้องการ ร้อยทั้งร้อยผู้หญิงแพ้เงินทั้งนั้น เชื่อว่าเธอก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงพวกนั้น แค่เล่นตัวเพื่อเรียกเงิน
พริกหวานกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่สมองคิดตามคำพูดของเขา ‘หนึ่งแสน’ แลกกับการนอนกับผู้ชายคนนี้ ดวงตากลมโตยังคงจับจ้องไปที่ใบหน้าคมคาย
ครืด ครืด...
เสียงโทรศัพท์ของพริกหวานดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เธอหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วยและวางอยู่ไม่ไกลเพราะกลัวว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นอย่างน้อยยังมีโทรศัพท์โทรหาคนอื่นให้มาช่วยเหลือ ใบหน้าหวานหันไปมองโทรศัพท์และหันมามองชายหนุ่มร่างสูงแต่เขากำลังเดินออกไปโดยที่ไม่สนใจเธอ ทำให้เธอตัดสินใจกดรับโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แม่ แม่ไม่เคยโทรหากลางดึกทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจ
(ฮือ ฮรือ...ช่วยแม่ด้วย แม่เครียดจนนอนไม่หลับ ไม่รู้จะหาเงินจากไหนไปคืนพวกมัน แม่ขอโทษที่เมื่อตอนกลางวันแม่พูดจาไม่ดี แต่แม่เครียดเลยพลั้งปากพูดออกไปแบบนั้น ฮือ ฮรือ...แม่กับพ่อไม่มีตังสักบาท ต้องไปขอข้าวเขามากินคลุกกับน้ำปลา ติดต่อผักหวานก็ไม่ได้ มีแค่พริกหวานที่ช่วยแม่)
แค่เพียงเธอกดรับสายเสียงสะอื้นไห้ของปลายสายดังมาก่อนแล้ว
“.....” เธอนิ่งอึ้งไปกับคำพูดร่ายยาวของแม่ เสียงร้องไห้ของแม่ยังคงดังเล็ดลอดออกมาเรื่อยๆ
(พริกไม่สงสารแม่เลยเหรอ ฮรือ ฮือ แม่ไม่มีเงินไปคืนพวกมัน ที่ซุกหัวนอนกำลังจะไม่มี อย่าว่าแต่ที่ซุกหัวนอนเลยพรุ่งนี้จะมีลมหายใจหรือเปล่าก็ไม่รู้)
ดวงตากลมโตมองบานประตูที่ถูกปิดไปสักพักแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงเดินออกไปโดยที่เธอไม่ได้กล่าวคำร่ำลา แต่คำพูดของเขาทำให้เธอนึกถึง
“หนึ่งหมื่นใช่ไหมจ๊ะ”
(ตอนนี้ดอกมันเพิ่มขึ้นเป็นสองหมื่นแล้ว)
“หะ ดอกเบี้ยอะไรขนาดนั้น”
(ฮือ ฮรือ...เตรียมตัวมางานศพพ่อกับแม่ด้วยละกัน)
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พริกโอนให้จ้ะ” ทันทีที่พูดจบเธอรีบตัดสายทันทีและรีบวิ่งไปหาคนที่พึ่งเดินออกไป นัยส์ตาเห่อร้อนแต่พยายามทำให้เป็นปกติ เสียงสะอื้นไห้ของแม่ยังดังก้องอยู่ในหู น้ำตาที่เกือบจะไหลออกมาถูกไล่ออกไปจนหมด
เท้าเรียวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนเห็นกลุ่มชายชุดดำกำลังเดินออกจากผับ ซึ่งไม่ใช่ทางที่เธอเดินเข้ามา และมองไกลออกไป เห็นชายร่างสูงกำลังก้าวขาขึ้นรถยนต์คันหรู
“เดี๋ยวก่อนค่ะ” พริกหวานตะโกนเสียงดังลั่นและรีบวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มที่รถแต่ถูกลูกน้องนับสิบคนคว้าตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว
“ขอคุยกับคุณโรมันก่อนได้ไหม” พริกหวานพยายามอ้อนวอนชายชุดดำแต่พวกเขายังรั้งแขนเธอไว้จนขยับตัวไม่ได้ ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มที่อยู่ในรถต่อให้ตอนนี้ประตูรถจะถูกปิดไปแล้ว และฟิล์มกระจกรถยังดำสนิทจนมองไม่เห็นคนข้างใน เธอไม่รู้ว่าเขาเห็นหรือเปล่า แต่เธอต้องการคุยกับเขา
สายตาคมกริบปรายตามองหญิงสาวผ่านกระจก แผ่นหลังแกร่งยังคงเอนพิงกับเบาะหนังราคาแพง
“ปล่อย” น้ำเสียงเข้มออกคำสั่งให้ลูกน้องคนสนิทที่นั่งอยู่เบาะหน้าได้รับรู้
ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่งและเปิดประตูเพื่อไปบอกลูกน้องคนอื่นด้านนอก
“ปล่อยเธอ”
พริกหวานมองชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่ออกคำสั่ง โดยที่ไม่ใช่คุณโรมัน แต่เมื่อตัวเธอได้เป็นอิสระทำให้เท้าเรียวเล็กรีบก้าวไปหาเขาที่รถยนต์คันหรู และยืนจ้องผ่านกระจกอยู่สักพักก่อนที่กระจกจะเปิดออก แต่เปิดออกเพียงนิดทำให้เธอเห็นแค่ส่วนตาเท่านั้น และเขาไม่ได้หันมามองเธอ
“ฉันยอมรับข้อเสนอของคุณ ขอฉันไปด้วยนะคะ”
“มั่นใจ?” สายตาคมกริบปรายตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่นอกรถ
“ค่ะ ถ้าคุณพูดจริงที่จะให้พริกหนึ่งแสนเพื่อแลกกับนอนด้วย พริกยอมค่ะ”
“หึ” โรมันหัวเราะในลำคอและมองใบหน้าของเด็กสาวอีกครั้ง สุดท้ายผู้หญิงพอเอาเงินมาล่อก็ขายศักดิ์ศรีทั้งนั้น