จากนั้นเสียงหญิงสาวก็อ่านชุดตัวเลขออกมาชัดถ้อยชัดคำ นภาภัสรีบจดลงบนกระดาษโน้ตด้วยมือตัวเองที่สั่นจนแทบจับปากกาไม่ถนัด (“ขอบคุณมากค่ะ”) เธอกล่าวจบแล้วรีบกดวางสาย มือที่ถือโทรศัพท์สั่นจนต้องวางลงบนโต๊ะ เธอนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ใบหน้าซีดเผือดเหมือนถูกใครกระชากเอาลมหายใจไป ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น น้ำตาคลอเบ้าโดยไม่รู้ตัว “ถ้าคุณอนุสรณ์คือพ่อของฉันจริง…ถ้าอัญญาวดีคือฉันจริง ๆ ฉันก็ควรจะไปหาท่านก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ไม่ใช่ปล่อยให้เวลามันผ่านไปอย่างไร้ความหมายแบบนี้” หัวใจของเธอสั่นไหวเหมือนใบไม้กลางลมพายุ ความหวาดกลัวและความหวังปะปนกันวุ่นวายไปหมด เธอค่อย ๆ หยิบกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์ของเลขาฯ ขึ้นมา มองตัวเลขเรียงรายนั้นด้วยสายตาสั่นพร่า ก่อนจะวางมันลงอีกครั้งเพราะยังไม่กล้าโทรต่อ ความจริงใกล้เพียงปลายนิ้ว แต่ก็หนักเกินกว่าหัวใจบอบบางจะเผชิญหน้าทันที ความเงียบภายในห้องเล็กของคอนโดเ

