ตอนที่ 7
คนที่เหมาะสม
หลังมื้อเที่ยง สิปปกร เข้าไปในห้องทำงานของเขาด้านล่าง แพรไหม สังเกตเห็นว่าช่วงนี้เขาค่อนข้างจะเคร่งเครียดกับโปรเจคใหม่ที่ต้องการจะเปิดโครงการร่วมกับกลุ่มดอกแก้วทอง ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ นั่นเป็นอีกเหตุผลว่าช่วงหลังเขาจึงไม่ค่อยเวลาคุยกับเธอเท่าใดนัก
แพรไหม เคาะประตูสองครั้ง ก่อนจะถือวิสาสะโผล่หน้าเข้าไป ร่างหนานั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ โดยมีแพลนโครงการกางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าหล่อเข้มเงยขึ้นมามองเธอ หญิงสาวยิ้มหวานให้กับเขาก่อนจะเดินเข้ามา
“มีอะไร?”
“แพรเข้าไปช่วยป้าน้อยทำบัวลอยน้ำขิงแบบไม่หวานมากค่ะ คุณสิปทานหน่อยซิคะ”
สิปปกร หรี่ตามองมือขาวที่วางถ้วยเล็กๆลงบนโต๊ะ
“หายดีแล้วเหรอ?ทำไมไม่พักผ่อน”
“แพรเป็นแค่ไข้หวัดเองค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย”
แม้เมื่อวันก่อนจะไข้ขึ้นจนเกือบช็อค แต่ตอนนี้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก จนอยากจะทำโน่นทำนี่ เพราะขืนให้เธอนอนอยู่เตียงในห้อง คงจะเบื่อแย่
“ดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้เป็นหนักอีก”
ถ้อยคำนั้น เหมือนจะเป็นคำสั่ง ทว่าก็แฝงด้วยความห่วงใยอยู่ในที จนสองแก้มของหญิงสาวผ่าวร้อนขึ้น
“ขอบคุณมากค่ะ แต่แพรดีขึ้นแล้วพรุ่งนี้ก็ไปเรียนได้ หลังเลิกเรียน แพรทำงานที่ทีน่านะคะ”
เธอย้ำบอกเขาอีกรอบ ด้วยเกรงว่าคนตรงหน้าจะลืม
“อืม”
ดวงตาคู่สีนิลหลุบต่ำลง เมื่อมองบัวลอยน้ำขิงในมือ ขณะที่คนตัวเล็ก ขยับตัวไปมาและมองหน้าเขาคล้ายต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง
“.....”
“สงสัยอะไร?”
“คือเมื่อกี้ ขอโทษนะคะพอดีแพรได้ยินคุณสาพูดถึงเรื่องของลูกชายเจ้าของเหมือง ใช่คุณดนัยคนที่เคยเจอในงานเลี้ยงของอัครเวทย์เมื่อเดือนที่แล้วรึเปล่าคะ?”
น้ำเสียงของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
สิปปกร นิ่งไปเพียงครู่
“ใช่”
ดนัย รัตนโสภณ ลูกชายคนโตของตระกูลรัตนโสภณ เจ้าของเหมืองและโรงโม่หินรายใหญ่ของประเทศ และตอนนี้น่าจะเป็นพันธมิตรสำคัญของ ไพสันต์ อนันตวงศ์ ลุงของเธอ ผู้ที่พยายามจะเข้ามาแทรกแซงทุกอย่างในชีวิตของแพรไหม
แม้กระทั่งการหาคู่หมั้นหมายให้เธอ
“.....”
ใบหน้าสวยเจื่อนลง แล้วก้มมองมือเล็กของตัวเองที่ประสานกันไว้ด้วยความรู้สึกสับสน
เธอรู้ว่าแม้เธอจะเป็น เด็กในปกครองของ สิปปกร
ทว่าอีกไม่นานเขาก็จะไม่มีสิทธิ์ในตัวเธออีกต่อไป ทั้งในพินัยกรรมได้ระบุไว้ว่า หลังอายุยี่สิบสองเธอสามารถที่เลือกคู่ครองและทางเดินของชีวิตตนได้อย่างอิสระ
“เธอมีสิทธิ์เลือกคนและสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองนะแพร”
ถ้อยคำของเขาราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
“คุณสิปอยากให้หนูเลือกอย่างที่ลุงไพสันต์แนะนำเหรอคะ? คุณสิปเห็นว่าแบบนั้นดีและเหมาะสมใช่ไหม?”
หน้าสวยเงยขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลไหวระริกเมื่อสบตาคมเข้มของเขา เธอเคยเจอ ดนัย อยู่สองครั้ง และทุกครั้งที่เจอจะเป็นงานเลี้ยงของอัครเวทย์ จึงไม่แน่ใจว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของการมาของอีกฝ่าย เกิดจากผู้ปกครองของเธอหรือไม่?
“เธอบรรลุนิติภาวะแล้วนะแพรไหม อีกไม่นานก็จะจบปริญญาตรี ต้องรู้จักวิเคราะห์ความต้องการตัวเอง และคนรอบข้างด้วย เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว สักวันเธอต้องคิดอะไรด้วยตัวเอง อย่ายอมให้คนอื่นมาจูงจมูกง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมา”
คิดอะไรด้วยตัวเองงั้นเหรอ?
แพรไหม อึ้งไปเพียงครู่
ตั้งแต่เธอมาเป็น เด็กในปกครองของเขา เธอก็แทบจะไม่ได้คิดในส่วนนี้เลย หากอันไหน เรื่องใดที่ สิปปกร มองว่าดีและเหมาะสม เธอก็จะเห็นดีด้วยแทบทุกอย่าง
ไม่แน่ใจว่ารวมถึงเรื่องนี้ด้วยหรือไม่?
“หนูยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น”
น้ำเสียงเธออ่อนลง รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับประโยคที่ราบเรียบดุจฉาบไว้ด้วยน้ำแข็งของเขา
“ตอนนี้เธอเริ่มชอบใครรึยัง?”
ชอบใครรึยังเหรอ?
ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าชอบได้ไหม แพรไหม รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา รู้สึกอบอุ่นใจที่เขาใส่ใจและดูแลเธอเป็นอย่างดีมาตลอด
ถ้าบอกไป
เขาจะถอยห่างออกจากเธอยิ่งกว่าเดิมหรือเปล่า
“ยังค่ะ แพรสนใจแต่เรื่องเรียนเท่านั้น”
เหมือนจะได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของอีกฝ่าย
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอ แพรไหม ถ้าใจเธอต้องการแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเธอไม่ชอบ ไม่ต้องการ ใครก็มาจับคู่ให้เธอไม่ได้ทั้งนั้น"
ปึก!
ถ้วยเปล่าถูกวางลง บัวลอยน้ำขิงหมดเกลี้ยงแล้ว
“ค่ะ”
เสียงมือถือของเขาดังขึ้น
สิปปกร หรี่ตามองหน้าจอ เห็นว่าเป็นเบอร์ของ อคิณ ราชวัตร เพื่อนสนิทจึงกดรับสาย ขณะที่สายตาคมเข้มยังจับจ้องคนตัวเล็กที่นั่งตรงหน้าไม่ลดละ
“ว่าไง?”
(เรื่องโกดังที่โคราช ถ้าได้ทำเลนั้นกูโอเคตามที่มึงบอกเลย แต่อีกที่ตรงกำแพงเพชรน่าจะเจอตอนิดหน่อย กูว่ามึงอ่อนลงหน่อยดีกว่า นัดรับคุณอ้อมดาวสักครั้งสองครั้งเหอะเขาสนมึงขนาดนั้น เผื่อเขาจะได้คุยกับพ่อเขาให้บ้าง)
เสียงจากปลายสายของ อคิณ ดังเพียงพอ ที่จะทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ในห้องได้ยิน เพราะหน้าสวยที่มองเขาอยู่เบี่ยงหลบและเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะโน้มตัวเอื้อมมือมาหยิบถ้วยเปล่าที่วางไว้บนโต๊ะ และลุกขึ้นออกจากห้องอย่างระมัดระวัง
ทุกอากัปกริยาอยู่ในสายตาของ สิปปกร โดยตลอด
หน้าหล่อเหลา ผ่อนลมหายใจเล็กน้อย เมื่อร่างของ แพรไหม เดินพ้นไปแล้ว และประตูห้องทำงานถูกปิดลง
“ก็ได้ ....นัดอ้อมดาวให้กูได้เลย”
***************