ตอนที่ 8
คนที่คลั่งไคล้
“หือ ฉันนึกว่าผู้ปกครองแกจะไม่อนุญาตให้ทำงานพิเศษซะแล้ว ดีนะเนี่ยที่ยอมไม่งั้นโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับพี่โจ้สุดหล่อแบบนี้จะหาได้จากที่ไหน”
ต้นหอม เอ่ยแซวหลังจากเรียนเสร็จ ขณะที่ แพรไหม เก็บของลงกระเป๋าเพื่อจะเดินไปร้าน ทีน่าคาเฟ่ ข้างมหาลัย การได้ทำงานพิเศษครั้งแรกในชีวิตทำให้เธอตื่นเต้นมาก จนแทบจะไม่มีสมาธิเรียนด้วยซ้ำ
“แหมถึงจะหล่อยังไง ก็ยังน้อยกว่าคุณสิปผู้ปกครองยัยแพรอยู่ดีนะแหละ” จิว เอ่ยสมทบ ทำให้ต้นหอมชะงักเล็กน้อย ด้วยเพื่อนในกลุ่มทุกคนต่างทราบดีว่า ตอนนี้ แพรไหม อยู่ในความดูแลของ สิปปกร อัครเวทย์
“แต่นั่นผู้ปกครองไหมละ” ต้นหอมทำหน้ายู่ “ว่าแต่ คุณสิปเขามีแฟนบ้างหรือเปล่าอ่ะแพร หล่อรวยขนาดนั้น แกอยู่ใต้ปกครองไม่หวั่นไหวบ้างเลยหรือ”
แพรไหม นิ่งไปสักพัก
“บ้าน่า! คุณสิปเขาไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับฉันหรอก”
แม้วันนั้นเขาจะสัมผัสกับเธออย่างเร่าร้อน ทว่าวันต่อมาเขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คำถามเมื่อสักครู่เกี่ยวกับเรื่องแฟนของสิปปกร ก็ทำหน้าสวยครุ่นคิดเล็กน้อย
แพรไหม ไม่เคยทราบเรื่องส่วนตัวตรงนี้ของเขาเลย
ผู้ปกครองของเธอไม่เคยเอ่ยถึง และเธอยังไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนมาบ้านที่เธอพักอยู่เลยสักครั้ง นอกจาก สาลินีพี่สาวของเขากับ หยง ที่เป็นเลขาคนสนิทวัยสี่สิบกว่าปี
แต่ว่า เขาทำงานเกี่ยวกับอสังหาหลายที่รวมทั้งผับบาร์วีไอพีแบบนั้น
“ฉันว่าคงมีแล้วแหละหล่อขนาดนั้น”
จิว ยื่นหน้ามาใกล้ “พี่ฉันเคยไปฮิพผับบ่อยๆ บอกว่าเห็นคุณสิปควงสาวแต่ละคน ระดับนางงามนางแบบทั้งนั้น แต่หล่อรวยเลือกได้แบบนั้นเนาะ แล้ว....”
เหมือนความคิดของ แพรไหม จะหยุดชะงักเพียงแค่นั้น
เมื่อนึกตามคำพูดของเพื่อนสาว
สิปปกร ผู้ปกครองของเธอ อยู่ในวัยสามสิบสองย่างสามสิบสาม กำลังอยู่ในวัยฉกรรจ์ที่เพียบพร้อมด้วยหน้าตาและฐานะ ทั้งเธอก็ไม่ได้อยู่ในสถานะแฟนของเขา การที่อีกฝ่ายจะมีแฟนก็ไม่น่าจะใช่เรื่องผิดอะไร
...ทว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแปลกๆ
.
.
ความจริงแล้วร้านกาแฟ ทีน่าคาเฟ่ ข้างมหาลัยนี้ พี่โจ้ จิระวัฒน์ รุ่นพี่ที่แพรไหม แอบปลื้มนั้น มีหุ้นส่วนด้วยประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ หญิงสาวเพิ่งทราบเมื่อได้เริ่มงานในตอนเย็น เธอจึงตั้งใจฟังรุ่นพี่อธิบายอย่างตื่นเต้น หลังจากรับผ้ากันเปื้อนสีสุภาพมาคาดไว้กับตัวเรียบร้อยแล้ว
“ส่วนใหญ่ลูกค้าร้านเราจะเป็นเด็กในมอนี่แหละ แต่ก็จะมีขาจรด้านนอกบ้าง ช่วงใหญ่หนาแน่นจะประมาณเที่ยงถึงราวสองทุ่ม แต่ตอนเย็นๆส่วนใหญ่หมวดขายดีจะเป็นเบเกอรี่และพวกเครื่องดื่มเบาๆอย่างน้ำผลไม้และชาเขียวมากกว่า ช่วงสัปดาห์แรกแพรรับออเดอร์ เก็บโต๊ะและดูแลความเรียบร้อยละกัน”
พี่โจ้ หุ้นส่วนของร้านและบาริสต้ารูปหล่อ บรีฟงานกับเธอคร่าวๆ เพียงแค่นั้น แพรไหม ก็ตื่นเต้นจนหน้าบานแล้ว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้งานพิเศษหาเงินด้วยตัวเองจริงๆ แค่รับออเดอร์ลูกค้าและเก็บกวาดโต๊ะ ง่ายจะตายไป เพราะปกติอยู่ที่บ้านอัครเวทย์ เธอก็ช่วยป้าน้อยทำอยู่ประจำอยู่แล้ว
หญิงสาวจึงทำงานด้วยความสนุกและเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม และเวลาสี่ชั่วโมงนั้นก็เร็วเหลือเกิน จนเธอรู้สึกว่ามันสั้นเกินไป หลังเก็บผ้ากันเปื้อนแล้ว เธอจึงมายืนดู พี่โจ้ ทำนู่นนี่นั่นและชงกาแฟ อย่างสนใจ
“จบชั่วโมงทำงานแล้ว ทำไมยังไม่กลับ”
โจ้ หันมาถามอย่างสุภาพ มองหน้าเนียนใสผุดผาดของคนตัวเล็ก ที่มองเขาชงกาแฟด้วยสายตาวาววับ ทราบว่า แพรไหม เป็นเพื่อนสนิทของ ต้นหอม เด็กร้านอีกคนที่จะมาทำทุกวันอังคารกับพฤหัส
“เดี๋ยวค่อยกลับก็ได้ค่ะ แพรอยากดูพี่โจ้อีกหน่อย”
หากไม่ได้ทำงานพิเศษที่นี่ ป่านนี้เธอคงกำลังเป็น กระต่ายน้อยในกรงทองของอัครเวทย์ ที่แสนจะน่าเบื่อ หญิงสาวจึงจ้องมองกาแฟที่ชงแล้วเป็นรูปหน้าตาสวยงามอย่างใคร่รู้
“แปลกจัง เด็กคนอื่นมีแต่อยากจะกลับเร็ว”
“พอดีแพรรอรถมารับอยู่ค่ะ”
ตอนนี้รถของอัครเวทย์อาจจะจอดรออยู่ที่ใดที่หนึ่ง เพราะเธอสั่ง พิชัย ไว้ว่าไม่ต้องมาจอดหน้าร้านทีน่า ด้วยไม่อยากจะให้เพื่อนที่ทำงานมองเธอแปลกๆ
“ที่บ้านมารับเหรอครับ?”
“อ่า ใช่ค่ะ”
“ดีจัง ลูกคุณหนูเลยนะเนี่ย บ้านพี่นี่เลิกไปรับส่งตั้งแต่พี่ขึ้นมอปลายแล้ว แสดงว่าที่บ้านหวงมากเลยแน่ๆ”
โจ้ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ขณะที่ แพรไหม หน้าแดงซ่าน
หวงไหม? ไม่แน่ใจ เรียกว่า ผู้ปกครองเธอทำหน้าที่ได้ดี แบบชนิดที่ว่า “ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม” เลยทีเดียว
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ..พะพี่โจ้คะ ขอแพรลองทำหน่อยได้มั้ยคะ” แพรไหม ขยับเข้ามาใกล้จนชิดร่างของรุ่นพี่หนุ่ม เมื่อเห็นว่าลูกค้าในร้านเริ่มจะซาลง ด้วยอยากจะลองลากหยดให้กาแฟออกมาเป็นรูปดอกไม้ และหน้าแมวเหมียวแบบที่รุ่นพี่ทำ
เพราะเมื่อเห็นแล้ว ทำให้เธอนึกถึงแมวตัวโปรดของตัวเอง
“อะ ..ได้ซิ จับเบาๆนะ อย่าลงน้ำหนักมือเยอะ”
“ได้ค่ะ”
เสียงฝีเท้าหนักที่เดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่ร่างหนานั้นจะมาหยุดตรงหน้าเคาท์เตอร์ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเพ่งมองหนุ่มสาวทั้งคู่ที่ยืนเบียดเสียดจนใบหน้าแทบจะชิดติดกัน โดยไม่สนใจว่าเขายืนมองและเดินเข้ามาในร้านแม้แต่น้อย
ความขุ่นมัวปรากฏในดวงตาสีนิลเข้มคู่นั้น
“รับอะไรดีครับ? คุณลูกค้า”
คำทักของรุ่นพี่ ทำให้ แพรไหม หันไปมอง ก่อนจะชะงักเล็กน้อยจนแก้วกาแฟแทบจะหล่นออกจากมือ เมื่อเห็น สิปปกร ผู้ปกครองของเธอยืนหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า
เขามารับเธอหรืออย่างไร?
“คุณสิป!”
“เอสเพรสโซ่ไม่หวานแก้วนึง”
สิปปกร บอกเสียงราบเรียบ ก่อนจะชี้มือไปยังเบเกอรี่ที่อยู่ด้านข้าง “แล้วก็เอาเค้กมะพร้าวอ่อน กับเค้กบลูเบอร์รี่ด้วย”
“กี่ชิ้นดีครับคุณลูกค้า”
ใบหน้าหล่อเข้มครุ่นคิดเพียงครู่ เมื่อเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเข้ม
“อย่างละสี่ชิ้น ...เด็กที่บ้านผมชอบมาก”
************