รสหวานในคืนฝนพรำ

1203 Words
ตอนที่ 4 รสหวานในคืนฝนพรำ คืนนั้น....ที่เขาเกือบจะเผลอทำสิ่งที่เกินจะหักห้ามใจลงไป ร่างเล็กนั่งคูดคู้อยู่ริมศาลาท้ายสวน ไม่สนใจสายฝนที่ตกโปรยปรายและสาดกระเซ็นเข้ามาด้านในจนเปียกปอนไปทั้งตัว ทว่า แพรไหม กลับกอดเข่าตัวเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก หยาดน้ำใสไหลอาบสองแก้มของเธอ เสียงสะอึกสะอื้นร่ำให้นั้น ทำให้ร่างหนาที่เดินถือร่มผ่าสายฝนเข้ามาผ่อนลมหายใจเล็กน้อย “เปียกหมดแล้ว หยุดร้องให้เถอะเข้าไปในบ้านก่อน เดี๋ยวให้คนช่วยกระจายกำลังหาให้ มันคงยังไปไหนไม่ไกลหรอก ฝนตกหนักแบบนี้” “.....” ไม่มีเสียงตอบรับ มีเพียงเสียงสะอื้น “แพร” น้ำเสียงของ สิปปกร อ่อนลง ขณะย่อกายลงนั่ง “เพราะคุณสิปไม่ปิดประตู แพรก็บอกแล้วว่าเจ้ากุหลาบอยู่ในห้องนั้น” เพียงเผลอไม่ทันไร เจ้าเหมียวส้มตัวอ้วนสุดที่รักก็วิ่งออกมาด้านนอกรั้วบ้าน และไม่รู้ตอนนี้มันเป็นตายร้ายดียังไง นี่เป็นความสะเพร่าที่ทำร้ายจิตใจเธอพอสมควร แม้จะเคยสูญเสียสิ่งที่รักมาครั้งหนึ่งแล้ว “ฉันขอโทษ เดี๋ยวฉันจะรีบหาให้เจอ และถ้าไม่เจอจะหาตัวใหม่มาให้” “ตัวใหม่ยังไงก็ไม่เหมือนตัวเดิม ไม่มีตัวไหนทดแทนกุหลาบได้! ทำไมคุณสิปพูดง่ายจัง” แพรไหม มองเขาอย่างตัดพ้อ ถึงอธิบายไปคนอย่าง สิปปกร ก็ไม่มีวันเข้าใจ และเขามองว่าเธอเป็นแค่เด็กที่ไม่รู้จักโต ตั้งแต่รู้จักและใกล้ชิดกับเขามา เธอยังไม่เคยเห็นเขาร้องให้หรือเสียน้ำตากับเรื่องอะไรเลยสักครั้ง เขาเย็นชากับทุกสิ่ง เหมือนคนไม่มีหัวใจ “แล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อมันหายไปแล้ว” “.....” “ลุกขึ้น เข้าบ้านได้แล้วเดี๋ยวไม่สบาย” สิปปกร เอ่ยเสียงเข้ม ขณะพยักหน้าให้ พิชัย กับลุงแช่ม กระจายกำลังออกไปตามหาด้านนอก แต่คนตัวเล็กก็ยังงอแงไม่ยอมจนเขาต้องย่อตัวอุ้มเธอขึ้นแนบอก “คะ คุณสิป” “หยุดงอแงได้แล้วแพร ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนไปมากกว่านี้” “ปล่อยแพร! แพรเดินเองได้” มือเล็บทุบเข้ากับอกกว้างอย่างขุ่นเคือง ขณะที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด เธอโกรธสิปปกร โกรธที่เขาละเลย ตอนเดินออกจากห้องเธอ จนแมวตัวโปรดของเธอต้องมาหายไปแบบนี้ โกรธ! จนไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ “ตัวเย็นเฉียบหมดแล้ว ต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” สิปปกร ไม่สนใจกริยาเธอด้วยซ้ำ เขาวางร่างของเธอลงกับโซฟาเมื่อถึงห้อง หยิบผ้าขนหนูมาคลุมซับให้ ริมฝีปากของเธอสั่นระริกอาจเพราะนั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนหลายชั่วโมง เธอกอดเขาไว้แน่น บดเบียดร่างตัวเองเข้ากับแผงอกกว้างของชายหนุ่มเพื่อหาไออุ่นจากร่างกำยำ จนเสื้อผ้าของเขาเปียกปอนไม่ต่างจากเธอ โดยไม่สังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มจะร้อนระอุสวนทางกับอากาศภายนอกที่หนาวเย็นเพราะละอองฝน “ปล่อยก่อน” “หนูหนาว” “ต้องถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกก่อน” น้ำเสียงของเขาราบเรียบไม่แสดงอาการใดๆ สิปปกร ถอดเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของเธอออกอย่างใจเย็น ตั้งแต่กางเกงผ้าเสื้อลินินสีขาวจนเหลือเพียงชั้นในสองชิ้น เขาลังเลอยู่เพียงครู่ก่อนที่จะถอดมันออกทั้งหมด “อื้อ...คุณสิป” ไม่ใช่ว่าเธอกับเขาไม่เคยใกล้ชิดสัมผัสตัวกัน ทว่า สิปปกร ก็ไม่ล่วงล้ำเธอมากกว่าการโอบกอด และนี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเปิดเปลือยเนื้อตัวต่อหน้าเขา “เช็ดตัวให้แห้งแล้วใส่เสื้อผ้าซะ” ผ้าขนหนูผืนใหญ่ถูกโยนให้ ก่อนที่เขาจะหันหลังให้ เพื่อจะเดินออกจากห้อง ทว่า แพรไหม ดึงมือของเขาไว้ ร่างหนาหยุดชะงักเพียงแค่นั้น “หนูขอโทษที่เอาแต่ใจ แต่หนูสงสารเจ้ากุหลาบ” แพรไหม ไม่อยากให้เขามองเธอเป็นเด็ก เมื่อไหร่ที่สายตาคู่นี้จากใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะมองเธอเหมือนผู้ชายมองผู้หญิงเสียที กว่าสามปีที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกับเขา สิปปกร ไม่เคยล่วงล้ำเธอมากกว่าการโอบกอดประโลม ทั้งที่เธออยากให้เขาสัมผัสมากกว่านั้น เธอเบียดร่างเข้าไปแนบชิดเขา แม้เมื่อสักครู่จะโกรธจนไม่อยากให้เขาสัมผัสตัว แต่ตอนนี้เธอต้องการไออุ่นจากร่างกำยำแน่นเครียดนี้ สองแขนเรียวโอบกอดเขาจากด้านหลัง ก่อนจะซุกหน้าสวยยังแผ่นหลังกว้าง “ใส่เสื้อผ้าและพักผ่อนซะ ฉันจะออกไปข้างนอก” อุ้งมือหนาแกะมือเธอออก “แต่แพรหนาว แพรขอกอดคุณสิปอีกหน่อย” น้ำเสียงเธอออดอ้อน ขณะที่ใจเต้นระส่ำ เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสโอบกอดเขาด้วยเรือนร่างเปล่าเปลือยแบบนี้ หน้าหล่อเหลาเอี้ยวกลับมามอง แพรไหม เหมือนจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นระส่ำเหมือนมีกลองหลายร้อยใบตีอยู่ภายใน “รู้จักมีจริตมารยาแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ ดวงตาคู่สีนิลเข้มมองเธออย่างลุ่มลึก ไม่ทันจะเอ่ยต่อริมฝีปากของเขาก็บดจูบยังเรียวปากอิ่มชื้นของเธอ “อื้อ...” เธอครางอยู่ในลำคอ เมื่อลิ้นสากร้อนสอดเข้ายังโพรงปากนุ่ม ดูดรัดรึงเรียวลิ้นเล็ก ขณะที่อุ้งมือหยาบโอบกุมทรวงอกอิ่มของเธอและบีบเคล้นเบาๆ จนความซ่านสยิวแผ่ไปยังท้องน้อยจนหดเกร็ง ความวาบหวามทำให้เธอหูอื้อไปชั่วขณะ “แพร” สิปปกร คำรามต่ำในลำคอ เมื่อเพิ่มการบดเคล้าจูบหนักหน่วงขึ้น จนเหมือนเธอถูกดูดกลืนลมหายใจลงไปด้วย ร่างของเธอถูกดันไปด้านหลัง และกดลงยังเบาะโซฟา เขาผละจากริมฝีปากเธอ ไล้จูบพรมยังข้างแก้มและดูดเข้มเนื้ออ่อนข้างลำคอ ก่อนจะกลับมาจูบริมฝีปากเธออีกรอบอย่างหนักหน่วงบดเคล้าเนิ่นนาน จนความซ่านกระสันแผ่ไปทั่วร่างของเธอ ..เป็นครั้งแรกที่เธอกับเขาสัมผัสกันแบบนี้ “อื้อ..” ทว่าเธอกลับรู้สึกดีจนเผลอครางออกมา เมื่อเขากดริมฝีปากยังเนินอกอวบอิ่มทรงหยดน้ำที่พุ่งชูชัน ปลายถันไหวระริกเพราะไอเย็นของอากาศ สิปปกร ดูดและโลมเลียมันอย่างนุ่มนวล ก่อนจะย้ายไปดูดอีกข้าง ขณะที่มืออีกข้างไล้ต่ำยังเนินเนื้ออวบอูม ชั่วขณะเธอรู้สึกกังวลในใจ จึงร้องปรามเขา “ยะ ...อย่า อย่าทำแพร” สิปปกร ชะงักเพียงแค่นั้น และเหมือนจะได้สติ ร่างหนาผละออกห่างจากเธออย่างรวดเร็ว ใบหน้าหล่อเหลากลับมาเรียบเฉยดังเดิม ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่แล้วโยนมาคลุมร่างเธอ “ใส่เสื้อผ้าซะ!” ************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD