ตอนที่ 5
อดกลั้น
นับตั้งแต่คืนนั้น สิปปกร ก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ และหลังจากนั้นสองวัน เจ้ากุหลาบ แมวส้มสุดที่รักของเธอก็กลับมาที่บ้านเอง จนวันนี้เธอไปนั่งรอเขาที่ Hit pub และมานั่งอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้
“ฉันไม่ได้กลัว”
ชายหนุ่มเอ่ยย้ำอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มือหนาเกาะเกี่ยวเอวคอดไว้ไม่ยอมปล่อย แพรไหม จ้องใบหน้าหล่อเข้มที่มองมา ก่อนจะเบี่ยงหน้าหันมองไปทางอื่น
“งั้นให้แพรไปทำงานที่ทีน่าได้ใช่ไหมคะ?”
“ขอฉันคิดดูก่อน”
น้ำเสียงของ สิปปกร อ่อนลง ทว่าหน้าสวยกลับย่นขึ้นเล็กน้อย เขาต้องคิดอะไรอีก ทำเหมือนต้องพิจารณาโครงการมูลค่าหลายพันล้าน ทั้งที่เธอแค่ขอทำงานพิเศษสัปดาห์ละสามวันเท่านั้น
“......”
“ไม่พอใจ?”
เขาดันปลายคางเธอขึ้น แล้วจ้องลึกลงมายังนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวย ทุกอย่างที่เธอพูดหรือแสดงความรู้สึกใดๆออกมา เขาจะพยายามค้นหาคำตอบให้ได้อยู่เสมอ
แพรไหม สบตาเขา หัวใจของเธอไหวระริก
“ที่คุณสิปไม่กลับมาค้างที่บ้านเกือบสองสัปดาห์ เพราะไม่อยากมาเจอหน้าแพรใช่ไหมคะ?”
เพราะคืนนั้น ที่เธอสวมกอดเขาจากด้านหลังด้วยเรือนร่างเปลือยเปล่า เขาก็ไม่กลับมาอีกเลย
มีวันนี้ที่เขากลับมาสัมผัสเธออีกครั้ง
ทว่าหน้าหล่อเหลานั้นก็ยังคงดูเรียบเฉย
“ฉันมีงานหลายอย่างที่ต้องเคลียร์”
เสียงของชายหนุ่มเรียบนิ่ง ทว่าแววตาดำมืดลง
“.....”
“อย่าคิดมาก”
นิ้วเรียวเคาะยังหน้าผากมนเบาๆ ก่อนที่คิ้วหนาเข้มจะขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อสัมผัสถึงความผ่าวร้อนจากร่างกายของหญิงสาว “ไม่สบายนี่นา! แล้วก็ยังแต่งตัวแบบนี้ไปนั่งรอฉันในที่แบบนั้นนานสองนาน”
“ก็กลัวไม่ได้คุยกับคุณสิป”
“เด็กบ้า! ถ้าสำคัญจริงๆโทรหาฉันก็ได้ มีสักครั้งไหมที่ฉันจะไม่รับสายเธอหรือโทรกลับ”
ไม่มี ไม่มีสักครั้ง
หากเธอโทรหา ไม่ว่า สิปปกร จะคุยธุระสำคัญอะไรกับใครก็ตาม เขาจะกดรับสายเธอเสมอ หรือหากจำเป็นจริงๆ เขาจะโทรกลับภายหลังจากนั้น ไม่นานนัก
“หนูอยากจะคุยกับคุณสิปแบบต่อหน้า”
แพรไหมเสียงอ่อนลง ก่อนจะไอเบาๆ ใบหน้าของเธอเริ่มแดงก่ำ ความจริงเธอไม่สบายตั้งแต่ตากฝนในวันนั้น แต่ได้กินยาและนอนพักไปหลายวันแล้วเหมือนจะดีขึ้น แต่วันนี้เหมือนอาการไข้จะกลับมากำเริบอีกครั้ง
สิปปกร ผละออกห่าง เดินไปด้านหลัง ตะโกนเรียก ป้าน้อย เพื่อให้เตรียมยามาให้เธอ ยาลดไข้ถูกนำมาให้หลังจากนั้นไม่นาน ก่อนที่มือหนาจะยื่นเม็ดยาจ่อตรงปากหญิงสาว
“แพรกินเองได้”
“ให้มันจริง! ป้าน้อยบอกว่าเพราะไม่กินยานี่เองถึงไม่หายเสียที ถ้ายังดื้อฉันจะไม่อนุญาตให้ไปทำงานพิเศษนะ”
ถ้อยคำนั้นทำให้ คนตัวเล็กตาลุกวาว
“มะ ...หมายความว่าคุณสิปจะยอมให้แพรไปทำงานที่ร้านทีน่าใช่ไหมคะ? ถ้าหากแพรหายป่วย”
“อืม”
มีสักครั้งไหม ที่เขาจะไม่ตามใจเธอ
แม้ครั้งนี้จะหงุดหงิดใจ กับชื่อรุ่นพี่บาริสต้าคนนั้น และท่าทีที่เธอเอ่ยถึง ทว่าเขาก็ไม่อยากให้กระต่ายน้อยในกรงทองของเขาต้องวางสีหน้าเศร้าสร้อยผิดหวังแบบนี้
“คุณสิปน่ารักที่สุดในโลก”
แพรไหม โผเข้ากอดเขาอีกครั้งอย่างลิงโลด หน้าสวยซุกเข้ากับอกกว้างที่แสนอบอุ่น “งั้นคืนนี้แพรจะรีบนอนพักจะได้หายไวๆ มะรืนหลังเลิกเรียน จะได้ทำงานเลย ขอบคุณนะคะๆ”
จะดีใจอะไรขนาดนั้น!
“แต่ต้องให้พิชัยไปรับส่งเหมือนเดิม และห้ามทำเกินกว่าเวลาที่ระบุไว้”
“ไปรับส่งทุกวันเลยหรือคะ?”
“ใช่”
“....”
“มีปัญหาอะไร?”
“ไม่มีค่ะ”
รับปากไปก่อนดีกว่า ด้วยไม่อยากต้องมานั่งอธิบายอะไรมากมายกับเขาตอนนี้ เพราะอย่างน้อยเขาก็มีท่าทีอ่อนลง แลอนุญาตให้เธอทำงานพิเศษแล้ว
แค่นั้น แพรไหม ก็โล่งใจ
“แพร?”
เหมือนคนตัวเล็กจะนิ่งไปสักพักในอกกำยำของเขา เสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังจากหน้าสวยผุดผาดที่หลับตาสนิท ทว่าวงแขนเรียวก็ยังคงโอบกอดเขาไว้แน่น
“น่าจะเพลียและไม่สบายนั่นแหละค่ะ หลายวันที่ผ่านมาคุณแพรบ่นกับป้าตลอด ว่าคุณสิปไม่กลับบ้านเป็นเพราะคุณแพร บางวันข้าวปลาไม่กินและไม่ยอมพักผ่อน”
ป้าน้อย เอ่ยบอกเบาๆ ขณะเดินเข้ามาเก็บจานชามที่อยู่บนโต๊ะ และเห็น แพรไหม หลับทั้งอย่างนั้น
สิปปกร ผ่อนลมหายใจออกมา
“ผมบอกแล้วไง ช่วงที่ผมไม่อยู่ให้ดูแลอาหารการกินคุณแพรให้ดี อย่าให้ขาดตกบกพร่อง และยังกินไม่ได้นอนไม่หลับหลายวันแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะหายสักที”
ชายหนุ่ม ตำหนิป้าคนเก่าแก่อย่างไม่จริงจังนัก ด้วยรู้ดีว่า คนอย่าง แพรไหม บทที่จะดื้อเงียบขึ้นมา ใครๆก็ต้านทานไม่อยู่ แม้กระทั่งกับเขาเองในบางครั้ง
ร่างหนาย่อลง ช้อนวงแขนแข็งแรงอุ้มคนตัวเล็ก พาขึ้นไปชั้นสองของตัวบ้านยังห้องนอนใหญ่ของเธอที่อยู่ติดกับห้องนอนของเขา ก่อนจะวางเธอยังเตียงนอนคิงไซส์อย่างระมัดระวัง
“ตัวร้อนจี๋เลย”
สิปปกร บ่นอย่างหงุดหงิด เขาค่อนข้างเป็นพะวงในทุกครั้งที่ แพรไหม ไม่สบาย จนบางทีหากเป็นมากๆ เขาแทบจะยกเลิกงานทุกอย่างเพื่อให้เธอหายดี แต่นี่ว่าเห็นเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาเลยวางใจแบบนี้
“อื้อ..คุณสิป”
หน้าสวยส่ายไปมา เอ่ยพึมพำทั้งที่เปลือกตายังคงปิดสนิท คล้ายกำลังเข้าสู่ห้วงอะไรบางอย่าง “คุณสิปรังเกียจแพรใช่ไหม? รังเกียจแพร?”
คิ้วหนาเข้มของ สิปปกร เลิกสูงขึ้น
มือหนาเอื้อมไปปัดปรอยผมเล็กๆที่ระข้างแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา แล้วดึงผ้าห่มนวมขึ้นคลุมร่างของหญิงสาวจนถึงช่วงอก หน้าหล่อเหลาโน้มลงใกล้ ก่อนจะกดริมฝีปากหยักยังหน้าผากมนของเธอ แล้วกระซิบเสียงแหบพร่า
“เด็กดี ...ฉันไม่เคยรังเกียจเธอ”
ไม่ได้รังเกียจ .....ไม่เลยสักนิด
**************