สายของวันด้านหน้าประตูเมืองก็ได้ต้อนรับขบวนของอ๋องชินเหลียนซึ่งพึ่งเดินทางมาถึง ผู้ที่ออกไปรับในครานี้ก็คือเสนาซ้าย เพราะทั้งคู่ติดต่อกันมาตลอด “ถวายพระพรท่านอ๋องพะย่ะค่ะ” “มิต้องมากพิธีหรอกใต้เท้าหลง” ชินเหลียนส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างรู้กัน ก่อนจะขึ้นรถม้าตามขบวนเข้าวังไปยังตำหนักรับรอง ความทะเยอทะยานและมักใหญ่ใฝ่สูงทำให้เขาอดมิได้ที่จะอยากได้แผ่นดินนี้ไปด้วย แต่มันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สำเร็จในเร็ววัน “ช่างเป็นบ้านเมืองที่อุดมสมบูรณ์เสียจริง” อ๋องต่างแคว้นเอ่ยกับคนของตนเมื่อเข้าห้องพักมาแล้ว “หากได้ครอบครององค์หญิงแล้ว คงมิใช่เรื่องยากที่จะกำจัดทางนี้เพื่อชิงบัลลังก์มาเป็นของพระองค์นะพะย่ะค่ะ” “เงียบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้ตงไห่ ที่นี่มิใช่บ้านเมืองเราจำมิได้หรือ หากมีผู้ใดได้ยินถึงความคิดนี้เราคงมิมีชีวิตรอดต่อไปถึงวันพรุ่งเป็นแน่” “กระหม่อมขออภัยพะย่ะค่ะ ว่าแต่พระองค์จะทรงไปเข้าเฝ้