เหตุการณ์เดิมๆ ก็เกิดขึ้นเช่นเคยนั่นคือไอ้ธีมและไอ้เคก็เป็นผู้ดูแลผมตลอดการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นครั้งที่ 3 มันสองคนไม่เคยทิ้งผมเลยจนผมรู้สึกผิดกับการกระทำที่โง่เคล้าของตัวเองเพียงเพื่ออยากให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ผมแอบรักให้เขาหันมาสนใจผมบ้าง มันกลับสร้างความเดือดร้อนให้ตัวผมเองและเพื่อนรักอีก 2 คน ผลจากการกระทำของผมมันตกไปถึงเพื่อนรักของผมทั้งสองคนที่ต้องขาดเรียนเพื่อมาดูแลผมสลับกันอยู่ 2-3 วันเห็นจะได้แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกเกลียดหรือโกรธรุ่นพี่สุดหล่อของผมเลยแม้แต่น้อย หัวใจของผมยังคงภักดีและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีความสุขถึงแม้จะเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายมีความสุขฝ่ายเดียวก็ตามแต่ผมคิดว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกเพราะผมได้ยินถึงคู่รักหลายต่อหลายคู่ที่ใช้หลักการนี้และความรักของพวกเขาก็สุขสมหวังตามความต้องการ
หลังจากที่ผมหายดีจากการเป็นลมหมดสติ เรา 3 คนก็กลับเข้าสู่รั้วมหาลัยอีกครั้งจิตใต้สำนึกของผมก็ยังคงสั่งงานให้หัวใจได้ทำตามความเรียกร้องที่ยังคงมีความหวังอยู่บ้างแม้จะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจต่อไปโดยไม่ฟังคำห้ามปรามของเพื่อนรักเลย
"สรุปว่ามึงจะไม่เข็ดใช่ไหมตันตัน มึงก็รู้ว่าเขาทำกับมึงขนาดนี้แล้ว ทำไมมึงไม่จำ ทำไมมึงไม่หยุด ทำไมมึงไม่ลองเปิดใจให้คนอื่นดูบ้าง มึงอาจจะได้เจอคนที่รักและจริงใจกับมึงจริงๆ ก็ได้" คนที่พูดประโยคนี้กลับไม่ใช่ไอ้ธีมอย่างที่ผมคิดไว้ มันเป็นคำพูดจากไอ้เคซึ่งผมก็รู้สึกแปลกๆ จากคำพูดที่ออกมาจากปากของมันเหมือนกับว่ามันกำลังพูดแทนใครอีกคนอยู่ จากคำพูดของไอ้เคก็ถูกส่วนหนึ่งที่ผมต้องเจออะไรมากมายจากการปฏิเสธของพี่ไรเฟิลไม่ว่าผมจะทำดีกับเขายังไงก็ไม่เคยถูกใจพี่ไรเฟิลเลย หนำซ้ำผมกลับถูกเขาเหยียดหยาม ดูถูกโดยใช้คำพูดที่หยาบคายกับผมต่อหน้าเพื่อนๆ ของเขาอย่างไม่ไว้หน้าจนผมฉุกคิดขึ้นมาพักหนึ่งว่าสิ่งที่ผมทำอยู่นี้ผมทำไปเพื่ออะไร มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างถ้าผมยังทำแบบนี้ต่อไป
เหตุผลพร้อมความคิดที่เพิ่งผุดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ถูกลบเลือนหายไปเมื่อหัวใจของผมกลับสั่งสมองของผมให้ทำทีเป็นหูทวนลมและจัดการกับกล่องขนมต่อไป สิ่งที่ผมทำก็เพื่อความหวังถึงแม้จะเป็นความหวังที่ดูริบหรี่ลงเรื่อยๆ อย่างน้อยผมก็ยังมีความหวัง ไม่ว่าผลจากนี้จะเป็นยังไง ผมก็จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมคิดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้และก้าวขาออกจากห้องเรียนไปโดยไม่มีปากเสียงอะไรกับเพื่อนรักที่ยังคงพูดจาห้ามปรามผมตลอดแม้กระทั่งผมเดินพ้นประตูห้องไปแล้วก็ตาม
ผมยังไม่ออกมาจากบริเวณนั้น ผมรู้สึกว่ากำลังทำผิดต่อเพื่อนรักมากที่สุดเรารู้จักกันมากกว่า 10 ปี พวกเราเป็นเพื่อนเล่นกันมาโดยตลอดมันสองคนไม่เคยทิ้งผมให้อยู่โดดเดี่ยวเลยแม้แต่ครั้งเดียวไม่ว่าผมจะทำผิดซ้ำซากแค่ไหนมันสองคนก็ยังยืนเคียงข้างผมเสมอ ใจหนึ่งก็รู้สึกผิดแต่อีกใจผมก็ต้องทำตามคำเรียกร้องของหัวใจผมเช่นกัน ผมค่อยๆ เดินถอยหลังยืนพิงประตูห้องโดยที่มันสองคนไม่รู้ มันยังคุยกันถึงเรื่องผม
"กูไม่รู้จะบอกมันยังไงแล้วว่ะไอ้ธีม แม่งกูพูดอะไรไปมันไม่เคยฟังกูเลย มันยังเห็นพวกเราเป็นเพื่อนมันอยู่หรือเปล่าวะ"
"กูเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันถึงแม้ว่ากูจะพูดอะไรออกไปเดี๋ยวแม่งก็ทะเลาะกันอีก กูทำใจไม่ได้นะเว้ยถ้ามันไม่คุยกับกูอ่ะ"
"มึงไม่ต้องพูดเลย มึงอ่ะไม่เคยคิดจะพูดไม่เคยคิดจะห้ามอะไรมันมากกว่า เห็นว่ามันทำแล้วมีความสุขมึงก็ตามใจมัน แล้วเป็นยังไงล่ะพอมันถูกไอ้รุ่นพี่หน้าจืดนั้นด่ากลับมาหรือไม่ก็เป็นลมล้มหมดสติกลับมาใครล่ะที่คอยอยู่เคียงข้างมันตลอดไม่ใช่พวกเราเหรอวะ ไอ้รุ่นพี่หน้าจืดนั่นน่ะสนใจอะไรมันที่ไหน ถ้าให้กูพูดถึงไอ้รุ่นพี่หน้าจืดนะ ไอ้นั่นก็เหลือเกินแม่งคิดว่าตัวเองหล่อมาจากไหนวะ คงคิดว่าตัวเองฮอตที่สุดในมหาลัยเลยล่ะสิ คิดจะพูดจะทำอะไรกับใครก็ได้อย่างนั้นเหรอ กูเองก็รู้สึกหมั่นไส้มันเหมือนกัน สักวันเถอะกูจะจัดแม่งให้มันรู้ไปเลยว่าอย่ามาทำให้เพื่อนของกูเสียใจ มึงจะเข้าร่วมกับกูเปล่าวะไอ้ธีม"
"อย่าให้มันถึงขนาดนั้นเลยว่ะ กูว่าปล่อยให้ไอ้ตันตันมันมีความสุขแบบนั้นแหละดีแล้ว กูชอบนะเว้ยทุกครั้งที่กูเห็นรอยยิ้มของมัน มันทำให้ชีวิตของกูมีค่ามากขึ้นนะเว้ย ที่กูอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะรอยยิ้มและคำพูดดีๆ จากมันนี่แหละที่ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจกูให้เข้มแข็ง แต่ถ้าจะให้กูบอกรักมันกูไม่กล้าหรอกว่ะ กูรู้ว่ามันไม่ได้คิดและรู้สึกอะไรกับกูเกินคำว่าเพื่อน ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้แหละ ส่วนผลที่เกิดขึ้นกูจะขอยืนเคียงข้างมันเพื่อคอยช่วยเหลือมันต่อไปเอง ถ้ามึงไม่เห็นด้วยกูก็ไม่ว่าอะไรแต่ถ้าวันหนึ่งมึงได้รู้จักความรักมึงจะเข้าใจ ขอแค่คนที่กูรักมีความสุขกูก็มีความสุขแล้วเว้ย รูปลักษณ์ภายนอกมันก็แค่เปลือกเปล่าวะ กูใช้หัวใจสัมผัสกับความรู้สึกในใจของมันมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกว่ะกูถึงได้รักมันตั้งแต่วันแรกที่กูเข้าเรียนที่โรงเรียนเดียวกับมันพร้อมมึงนี่แหละ ไปแดกข้าวกันเหอะกูหิวแล้วแต่มึงต้องรับปากกูนะว่ามึงจะไม่บอกมัน ไม่อย่างนั้นนะถ้ามันรู้ความจริงมันอาจจะเลิกคบกูเลยก็ได้ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ กูคงอยู่อย่างไม่มีความสุขแน่ๆ ว่ะ มึงรับปากกูก่อนว่ามึงจะไม่บอกมัน"
"เออๆ กูไม่บอกมันหรอกกูสัญญาแต่ถ้ามันรู้เองก็ไม่เกี่ยวกับกูนะเว้ย ไปเหอะกูก็หิวข้าวเหมือนกัน" ผมยืนฟังไอ้เพื่อนสองคนคุยกันภายในห้องเรียนจนจบบทสนทนายิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดต่อเพื่อนทั้งสองมากขึ้นแต่จะทำยังไงได้เมื่อเสียงเรียกร้องของหัวใจผมมันสำคัญกว่าเรื่องอื่นจริงๆ ตอนนี้ผมอาจจะกลายเป็นคนหน้ามืดตามัวหลงงมงายรุ่นพี่สุดหล่อคนนี้ตามที่เพื่อนของเขาพูดก็เป็นได้ จนผมอาจลืมไปว่าตัวเองก็เป็นเพียงหมีควายที่ให้เขาเรียกต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นเอง เมื่อผมได้ยินเสียงเหมือนพวกมันกำลังเลื่อนเก้าอี้ผมจึงรีบวิ่งลงบันไดไปทันทีเพื่อไม่ให้พวกมันรู้ว่าผมแอบฟังการสนทนาของพวกมันอยู่
"กูขอขอบใจมึงสองคนมากนะ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกูเสมอแม้ว่ากูจะผิดพลาดสักกี่ครั้งก็ตาม" ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่รู้สึกตื้นตันกับน้ำใจของเพื่อนทั้งสองขณะที่กำลังยืนแอบข้างเสาใต้อาคารคณะและทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นเมื่อไอ้เคทำเรื่องย้ายคณะมาเรียนห้องเดียวกันกับผมและไอ้ธีมด้วย มันสองคนไม่เคยทอดทิ้งผมจริงๆ ยิ่งผมได้ฟังคำพูดพวกนั้นมันก็ยิ่งตอกย้ำความผิดของผมที่เกินจะให้อภัยได้แต่พวกมันก็ไม่เคยพูดทำร้ายจิตใจผมเลยสักครั้ง จนพวกมันเดินเลยไปยังโรงอาหารของมหาลัยผมจึงเดินออกมาจากมุมเสาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่รุ่นพี่สุดหล่อของผมเดินลงมาจากอาคารเช่นกันจึงเป็นเหตุให้ผมและเขาต้องยืนประจันหน้ากันยังเลี่ยงไม่ได้
"อ้าวน้องหมีควายมายืนรอให้ช็อกโกแลตพี่ไรเฟิลหรอ" เสียงรุ่นพี่สาวที่ดังแหลมสูงดังแทรกกลางระหว่างผมและพี่เขา
"ครับ พี่ช่วยเรียกชื่อผมดีๆหน่อยได้ไหมครับ ผมก็มีชื่อเรียกเหมือนพี่ ผมชื่อตันตันไม่ใช่หมีควาย"
"แล้วทำไมพี่จะเรียกไม่ได้ ไรเฟิลเองก็ยังเรียกน้องว่าหมีควายเลยอีกอย่างหมีควาย ก็เป็นสัตว์สงวนที่ทรงคุณค่าไม่ใช่เหรอ สาระรูปของน้องเองก็ไม่ต่างจากหมีควายสักเท่าไหร่หรอกนะอนุญาตให้พี่เรียกแบบนี้แหละดีแล้วน้องหมีควาย" จากน้ำเสียงบวกกับท่าทางของรุ่นพี่คนนี้มันช่างเรียกอารมณ์โกรธผมได้ดีเลยทีเดียวไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วผมขอสักทีเถอะ
"ผัวะ!!...โอ๊ยย...นี่แกกล้าตบฉันเหรอ" ผมฟาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าของรุ่นพี่สาวคนนั้นไปเต็มแรงจนหล่อนกระเด็นล้มลงไปกับพื้นโดยไม่มีใครช่วยประคองรับ
"มากกว่าตบผมก็ทำได้หรือพี่จะลอง อยู่ดีๆไม่ว่าดีหาเรื่องเจ็บตัวเองช่วยไม่ได้นะครับ" ผมพูดพลางจะเดินตรงเข้าไปหาหล่อนแต่ก็ถูกฝ่ามือของใครคนหนึ่งจับแขนผมดึงกระชากมาที่เดิมแล้วฟาดหมัดใส่แก้มผมเต็มแรงจนผมต้องเซถอยหลัง ผมยกมือขึ้นจับที่แก้มข้างที่ถูกต่อยพลางหันหน้าไปมองใครคนนั้นที่ผมคาดไม่ถึงว่าจะเป็นรุ่นพี่สุดหล่อที่เป็นผู้ลงมือต่อยผมเมื่อครู่นี้
"มึงถือดียังไงทำเพื่อนกูแบบนี้ มึงจะไปไหนก็ไปเลยนะไอ้หมีควาย แล้วมึงก็ไม่ต้องคิดว่าจะได้เจอหน้ากูอีก มึงนี่มันตัวหายนะชัดๆ ไล่ยังไงก็ไม่ไปหน้าด้านหน้ามึนที่สุดเท่าที่กูเคยเจอ ไปไหนก็ไปเลยนะกูไม่อยากเห็นหน้ามึงอีก บิวตี้เป็นไงบ้างเจ็บมากไหมเดี๋ยวเราพาไปห้องพยาบาลนะ มึงเตรียมตัวตอบคำถามคณบดีได้เลยกูจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุดไอ้หมีควาย" ผมถึงกับหน้าชากล่องช็อกโกแลตร่วงหลุดมือไปตรงหน้า นี่ผมทำอะไรลงไป ผมยืนมองรุ่นพี่สุดหล่ออุ้มรุ่นพี่สาวปากดีคนนั้นตรงไปยังห้องพยาบาลของมหาลัยโดยมีกลุ่มนักศึกษาอีกหลายสิบชีวิตเดินไปพร้อมๆ กับพวกเขาด้วย ปล่อยให้ผมยืนอย่างคนรู้สึกผิดเพียงตามลำพังภายใต้อาคารคณะนิเทศศาสตร์
ผมยืนทบทวนถึงผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ว่าผมจะไม่ได้เจอหน้าพี่เขาจริงๆ เหรอ ผมทำเกินไปหรือเปล่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเขาพูดดูถูกผมเหมือนผมไม่ใช่มนุษย์และสิ่งที่ผมทำก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองแท้ๆ ทำไมพี่เขาไม่เข้าใจผมบ้างว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้ก็เพราะว่าผมรักพี่เขามาก รักมากจริงๆ
จากคำพูดของรุ่นพี่สุดหล่อเมื่อสักครู่ มันสั่งให้ผมเดินคอตกหมดสภาพไปยังห้องคณบดีเองโดยที่เขาไม่ต้องลำบากมาเอาเรื่องผมถึงที่