“คุณป้า!” สิตางคุ์คอหดเหมือนเต่า หลบสายตาพิฆาตของป้าด้วยการแสร้งทำเป็นหยิบข้าวของต่างๆ นานาใส่กระเป๋าสะพายเพื่อเตรียมตัวเผ่น
ยลดาเหลือบมองหลานสาวด้วยสีหน้าขัดอกขัดใจ หากถือไม้เรียวมาด้วยคงฟาดให้
“มีเวลามั้ยคะคุณเหนือ อาอยากคุยด้วยหน่อย”
“ครับคุณอา” เขาพอจะรู้ว่ายลดาอยากคุยเรื่องอะไร ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องงาน “เชิญในห้องทำงานดีกว่าครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุยแป๊ปเดียว” ยลดาไม่ได้พอใจนักหรอก ที่สุดท้ายแล้ว เธอต้องเสียทุกอย่างให้เหนือเมฆ แต่เมื่อเหนือเมฆคือทายาทเพียงคนเดียวของเมฆินทร์ เธอก็ต้องยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข กระนั้น เธอจึงแก้เกมเรื่องนี้ด้วยการส่ง สิตางค์ผู้เป็นหลานสาวสุดที่รักมาเป็นเลขาของเหนือเมฆ เพื่อให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกัน แต่วันนี้ เธอกลับได้ยินข่าวเรื่องการแต่งงานของเหนือเมฆกับขวัญมาไปทั่วทั้งตึก
“อาพลาดข่าวไปได้ยังไงนะ ได้ยินว่าคุณเหนือกำลังจะแต่งงานเหรอคะ?”
สิตางคุ์แทบอยากจะมุดลงใต้โต๊ะ คุณป้าของเธอไม่คิดจะอายพวกพนักงานปากมากเลยรึไง
“ครับคุณอา”
“แล้วน้อง...”
สิตางค์รีบจับมือป้าของเธอไว้ เพื่อไม่ให้ป้าพูดในสิ่งที่หน้าอายออกไป สีหน้าของเธอพูดว่า...ขอร้องเถอะป้า !
“กับ...แอร์ของเรา?” ยลดาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ แผนการเรือล่มในหนองทองจะไปไหนถูกสั่นคลอนเพราะผู้หญิงคนนั้นเอง ผู้หญิงที่เธอรู้สึกชังน้ำหน้าตั้งแต่แรกเห็นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ยิ่งพอเจ้าหล่อนสร้างผลงานจนเป็นที่พอใจของกรรมการบริหารทุกคนในบริษัท และทำให้ได้เลื่อนตำแหน่งรวดเร็ว เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ “ขวัญมา...น่ะเหรอ?”
“ใช่ครับ...ขวัญมา...นางฟ้าสายการบินของเรา” เหนือเมฆตอบเสียงดังฟังชัด เพื่อให้ทุกคนในออฟฟิศได้ยินด้วย
“โอวเซอร์ไพรซ์สุด ๆ เลยค่ะ!!” และเสียหน้าสุดๆ เลยด้วย จากนี้ไปเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ทุกคนในบริษัทต่างก็รู้กันดีว่าเธออยากได้เหนือเมฆเป็นหลานเขยจนตัวสั่น แสดงออกและบอกกับทุกคนว่าเหนือเมฆกับสิตางคุ์เป็นคู่หมั้นคู่หมาย แล้วคอยกีดกันผู้หญิงทุกคนไม่ให้เข้าใกล้เหนือเมฆ โดยเฉพาะเหล่าแอร์โฮสเตสที่อยากยกระดับตัวเอง ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังนำเรื่องนี้ไปพูดคุยปรึกษาหารือกับเจ้าสัวชาญชัยมากกว่าสามครั้ง เพื่อให้การแต่งงานเกิดขึ้นจริง แต่สุดท้าย ความพยายามของเธอก็สูญเปล่า!!
“ว่าแต่ คุณพ่อท่าน...อนุญาตแล้วหรือคะ?”
“ท่านไม่เพียงแค่อนุญาตเท่านั้นครับ” ทั้งที่ไม่ได้ชอบพูดเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง แต่ในเมื่อแม่เลี้ยงของเขาอยากรู้เสียขนาดนี้ เขาก็คงต้องพูดสินะ “แต่ยังเร่งเร้าให้แต่งโดยเร็วที่สุดอีกด้วยครับ ท่านอยากอุ้มเหลนน่ะครับ ผมก็เลยจะจัดงานแต่งแบบเรียบง่าย เชิญเฉพาะคนในครอบครัวและคนพิเศษสำคัญเท่านั้น...ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ มีเอกสารที่ต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จวันนี้”
เขาค้อมศีรษะให้ยลดาตามมารยาท ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องทำงานแล้วปิดประตูจนสนิท ยลดาเจ็บใจหน้าชา หันมองหน้าหลานสาวด้วยสายตาพิฆาต
“ไปคุยกับฉันที่ห้องทำงาน!!!!”
ยลดาเดินฟึดฟัดออกไปเหมือนช้างตกมัน ขณะสิตางคุ์หน้าจ๋อย เพราะรู้ว่าต้องโดนด่าชุดใหญ่แน่นอน เธอควรเตรียมสำลีสำหรับอุดหูไปด้วยใช่มั้ย