เมื่อเหนือเมฆกับแทนไทแยกตัวออกไปแล้ว ขวัญมาก็รีบไปยังออฟฟิศส่วนงานของตัวเองซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นสิบของตึก เพื่อสะสางเกี่ยวกับงานเอกสารและเตรียมตัวจะบินในช่วงเย็นของวันนี้
สี่ปีที่เธอทำงานอยู่ที่นี่ในฐานะแอร์โฮสเตส เธอถือเป็นดาวเด่นของสายการบิน ความทุ่มเทและตั้งใจทำงานอย่างหนักของเธอ ทำให้เธอได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว ด้วยอายุงานแค่สองปีเท่านั้น เธอได้เป็น Purser หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งแน่นอนว่า ต้องสร้างความไม่พอใจให้ใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะแอร์โฮสเตสรุ่นเดียวกัน อย่างแก๊งลูกคุณหนูสายแบ๊ว ลิ่วล้อของสิตางคุ์
แต่เธอก็ไม่เคยสนใจคนพวกนั้น เธอมุ่งมั่นทำงานโดยไม่หวั่นไหวต่อคำดูถูกนินทา ไม่อ่อนแอขี้แพ้กลายเป็นเหยื่อให้รุ่นพี่ที่ไม่ชอบขี้หน้ากลั่นแกล้ง
และอาจจะเป็นเพราะความเก่งเกินมาตรฐานของเธอนั่นเอง ที่ทำให้คนอื่นดูด้อยไปเสียหมด จึงทำให้เธอแทบไม่มีเพื่อนร่วมงานเป็นเพื่อนในชีวิตเลย ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของเธออยู่แล้ว ด้วยเชื่อว่าที่นี่คือสนามแข่งขันต่างหาก ไม่ใช่ที่สำหรับการผูกมิตรสร้างสัมพันธ์
การที่เธอไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และค่อนข้างไว้ตัวกับเพื่อนร่วมงาน จึงทำให้เธอถูกมองว่าเป็นคนจองหอง ทะเยอทะยาน เป็นวัวลืมตีน เป็นคนลืมกำพืช
ใช่แล้ว เธอตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น เธอก่อกำแพงหนาหนักขึ้นมาเพื่อกันคนภายนอกไม่ให้เข้ามาในชีวิตของเธอ ถึงแม้จะมีใครบางคนที่ดูจริงใจและอยากเป็นเพื่อนกับเธอ แต่เธอก็ไม่เคยเปิดใจยอมรับ...
และการที่วันนี้ ความลับที่เธอเก็บซ่อนมาเกือบปี ได้ถูกเปิดเผยออกมาให้ทุกคนรับรู้ ว่าเธอคือว่าที่ภรรยาของท่านประธานสุดที่รักของทุกคน จึงไม่มีใครอยากยินดีกับเธอด้วยความจริงใจแม้แต่คนเดียว เพราะทุกคนต่างคิดกันว่า บริษัทกำลังจะมีแม่มดคนที่สองถือกำเนิดขึ้น แม่มดที่อาจจะร้ายกว่าคนแรกหลายเท่า แม่มดยลดาซึ่งเป็นผู้จัดการอาวุโสของฝ่ายที่กำลังจะหมดฤทธิ์หมดเดชในไม่ช้า
“ยินดีด้วยนะมา” แอร์โฮสเตสรุ่นพี่นามว่านีรนุช นางฟ้าสายการบินที่เธอล้มแชมป์นั่นเอง นีรนุชแสดงความยินดีอย่างเสียมิได้ เมื่อเผชิญหน้ากันในออฟฟิศ
“ยินดีด้วยนะ” ถ้อยคำยินดีหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แม้สายตาจะพูดคำตรงข้ามกัน แต่เพื่อหน้าที่การงานในอนาคต ก็ต้องเอาใจว่าที่ภรรยาของ CEO เสียหน่อย
“ขอบคุณนะทุกคน” เธอตอบรับคำยินดีจอมปลอมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร แต่ก็ยังไว้ตัว ไม่ยอมพูดเล่นกับใคร
“ได้แต่งงานกับท่านประธานแบบนี้ ต่อไปมาก็ไม่ต้องมาทำงานแล้วสิ” ปุ๊กลุกหัวหน้าแก๊งลูกคุณหนูสายแบ๊ว ตั้งใจตั้งคำถามเหยียดหยามเพื่อประจานอย่างแนบเนียน
“ถ้าฟ้าใสเป็นมา ฟ้าใสก็ไม่อยากมาทำงานให้เหนื่อยหรอก สู้เป็นคุณนายสายการบิน ใช้เงินอย่างมีความสุขดีกว่า มาเป็นไอดอลของฟ้าใสเลยนะคะ!”
“โชคดีสุด ๆ ไปเลยนะ จ๊ะจ๋าดีใจด้วยนะมา ยังไงก็อย่าลืมจ๊ะจ๋านะ”
ขวัญมายิ้มหยันแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา เพราะรู้จักสันดานของสามคนนี้ดี พวกเธอกำลังยัดข้อหาจับคนรวยให้เธออยู่น่ะสิ คงหวังให้เธออับอายขายขี้หน้า จนไม่กล้าสู้หน้าทุกคน แต่คิดผิดแล้ว...
“อย่าห่วงไปเลย ฉันไม่มีวันลาออกจากแอร์โฮสเตสหรอก เราทุกคนจะได้เจอกันอีกยาวเลย แต่อาจจะเจอฉันในรูปแบบใหม่ ที่เลิศกว่านี้!!”
คำว่าเลิศของเธอ หมายถึงร้ายกาจกว่านี้อีกร้อยเท่า ทุกคนหน้าซีด เลิ่กลั่ก แต่ยังพยายามปั้นหน้ายิ้ม เพื่อกลบเกลื่อนความกลัวในใจ ยกเว้นดาวใจ เพื่อนแอร์โฮสเตสร่วมรุ่นซึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดจากทางใต้เหมือนกัน ดาวใจมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วงลึกๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดาวใจนั้นเคยพยายามจะเข้ามาสานสัมพันธ์เป็นเพื่อนกับเธอหลายครั้งหลายครา แต่เธอก็ไม่เคยยอมเปิดใจให้ ไม่เคยยอมรับรอยยิ้มของสาวใต้จริงใจคนนี้
“หรือไม่ก็...เจอกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง ไม่ใช่แค่หัวหน้ากับลูกน้อง ก็เท่านั้น แต่รับรองเลยว่า สายการบินของเราจะต้องสนุกกว่าเดิมหลายเท่า !!”
“หมายความว่ามาจะมาเป็นผู้จัดการฝ่ายของเราแทนคุณยลดาหรือคะ!!” ปุ๊กลุกแสร้งพูดเสียงดัง เพื่อให้ทุกคนในออฟฟิศได้ยิน ตั้งใจจะหางานให้เธอชัด ๆ เพราะหากเรื่องนี้รู้ถึงหูยลดาล่ะก็ เธอโดนเล่นงานหนักแน่
“เราว่าอย่ามัวแต่เม้าท์มอยด์กันเลย” ดาวใจพูดแทรกขึ้นมา เพราะอยากจะหยุดประเด็นอ่อนไหวนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดได้ “ไปเตรียมตัวทำงานกันดีกว่านะ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะงานจะทำให้เรามีคุณค่า ถ้าอยากมีคุณค่าก็จงสนใจงานของตัวเอง โอเค๊!”
ขวัญมาพยักหน้าให้ดาวใจเพื่อแทนคำขอบคุณ ดาวใจคงรู้ว่าเธอกำลังอึดอัดเต็มทน
เมื่อแยกออกมาจากแอร์โฮสเตสกลุ่มใหญ่นั้นแล้ว เธอก็เข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะทำธุระส่วนตัว โดยเลือกห้องน้ำด้านในสุด ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด เพื่อจะโทรศัพท์หาใครบางคน แต่ไม่ทันที่เธอจะกดเบอร์นั้นด้วยซ้ำ
“ยัยขวัญมานี่ร้ายไม่เบาเลยนะ!” น้ำเสียงเย้ยหยันมั่นใจของหญิงสาวคนนั้น ทำให้เธอรู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นใคร ยัยปุ๊กลุกปากสว่างยังตามมาหลอกหลอนเธอถึงในห้องน้ำไม่เลิก “มันไปยั่วท่านประธานอีท่าไหน ท่านถึงได้ตกหลุมมันได้!!”
“ท้องชัวร์! ถ้าไม่ป่องคงไม่แต่ง!” ฟ้าใสฟันธงด้วยความมั่นใจอย่างคนรู้ลึกรู้ดี “เห็นได้ชัดว่ามันตั้งใจจะจับท่านประธาน มันเลยปล่อยให้ท้อง ท่านประธานก็เลยต้องรับผิดชอบ จำต้องประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแล๊บ!!”
“ท่านประธานตาต่ำชะมัด!!” จ๊ะจ๋าอดแค้นใจแทนเพื่อนรักไม่ได้ วิจารณ์เจ้านายแบบไม่ยั้งปากยั้งคำ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง “ยัยสิตางคุ์สวยกว่าตั้งเยอะ แถมตระกูลดี เกื้อหนุนกันสุด ๆ แต่ท่านประธานกลับโง่เง่าไปคว้าวัยบ้านนอกมาเป็นเมีย คิดได้ยังไง เอาสมองไปไหนหมด ไม่เห็นรึไงว่ายัยนั่นนิสัยโคตรแย่ ต่อไปถ้ามันมีอำนาจมากกว่านี้ล่ะก็ ฉันว่าพวกเราเตรียมตัวลาออกเลยดีกว่า!!!”
ขวัญมาฟังแล้วของขึ้น แทบอยากจะออกไปกระชากสามสาวมาตบให้หนำใจ แต่เธอไม่อยู่ในฐานะที่จะลงไปแลกกับคนขี้อิจฉาหน้าไหว้หลังหลอกพวกนี้อีกแล้ว การใช้กำลังไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่การทำให้คนพวกนี้รู้ซึ้งถึงอำนาจของเธอต่างหาก คือหนทางที่จะเอาชนะได้อย่างหมดจดและสะใจ
เธอเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าแบรนด์เนมที่ซื้อมาด้วยเงินของตัวเอง เก็บอารมณ์ร้อนไว้ในอก เก็บความโกรธไว้ในใจ แล้วผลักประตูห้องน้ำออกมาด้วยมาดนิ่งนิ่ม แต่ขึงขัง เหมือนเช่นทะเลที่สงบ ก่อนจะมีพายุใหญ่ซัดจนพังพินาศ
“ว๊าย!” สามสาวแอร์โฮสเตสอุทานลั่น ตกใจตาค้าง หัวใจแทบวายเมื่อเห็นคนที่พวกเธอกำลังพูดถึงปรากฏตัวตรงหน้า สายตาเย็นชาราวงูพิษที่พร้อมจะฉกเหยื่อ ทำให้พวกเธอรู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น
“งั้นก็...” ยิ้มร้ายของขวัญมาทำให้สามสาวขนลุกเกลียว หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ “ไปเขียนใบลาออกตอนนี้เลยดีมั้ย!!”
“เอ่อ...มาจ๊ะ”
“คุณมา!”
สามสาวสะดุ้งตกใจ หน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด แม้จะแต่งหน้าจัดเต็มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี
“ขอโทษค่ะคุณมา” ปุ๊กลุกซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งรีบชี้แจงด้วยท่าทางแอ๊บแบ๊วใสซื่อ “พวกเราไม่ได้พูดถึงคุณมานะคะ พวกเราแค่เม้าท์มอยด์ละครเมื่อคืนค่ะ ละครน้ำเน่าน่ะค่ะ แต่กำลังสนุกมาก...มา...เอ๊ย! คุณมา”
“เลิกตอแหลได้แล้ว!” ขวัญมาสอดมือกอดอก มองสามสาวด้วยสายตาเย้ยหยันดูถูก สามสาวมาจากบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะ แต่ดูเหมือนการเลี้ยงดูจะติดลบ “ไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น พวกเธอมันก็แค่ของปลอม เข้ามาทำงานที่นี่ได้ก็เพราะเส้นสาย และใช้อะไรต่อมิอะไรไต่เต้าขึ้นมาทั้งนั้น สงสัยจะต้องมีการประเมินพนักงานกันหน่อยแล้ว ว่ามีคุณสมบัติพอจะทำงานในบริษัทรึเปล่า!!!”
“คุณมา!”
“ล้อเล่นน่ะ!” แล้วเธอก็หัวเราะคิก ทำเอาสามสาวอึ้ง ที่เธอเปลี่ยนสีหน้าได้รวดเร็วขนาดนี้ “หน้าซีดกันเชียว ไม่ต้องกลัวนะ ฉันรู้ว่าพวกเธอเก่งแค่ไหน ทำงานที่นี่ไปนาน ๆ นะ ฉันอยากเจอทุกคนไปเรื่อย ๆ น่ะ”
เธอหันหลังให้คนพวกนั้น ซึ่งไม่ได้มีค่าอะไรกับเธอเลย แม้คำพูดร้ายกาจจะสร้างความโกรธแค้นให้แก่เธอไม่น้อย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดจนถึงขั้นทนไม่ไหว
“อิจฉาฉันให้มาก ๆ นะ” เพราะความอิจฉาริษยาของคนพวกนั้นทำให้เธอรู้สึกดีและภูมิใจในตัวเองไงล่ะ หากเธอจะแก้แค้นคนพวกนั้นให้สาสมล่ะก็ เธอก็แค่มีความสุขกับชีวิตซินเดอร์เรล่า และทำให้คนพวกนั้นก้มหัวให้เธอด้วยความไม่เต็มใจ เพียงเพราะเธอใช้นามสกุลวัชระเมฆินทร์ของท่านประธาน นั่นล่ะ มันถึงจะสนุกและเต็มไปด้วยรสชาติ !
“ยัยบ้านนอกงั้นเหรอ! ได้เห็นดีกัน!”