รถจอดลงหน้าคฤหาสน์ ดาร์ซี่มาได้ตรงเวลาขาดเพียงแค่สิบนาที เธอคิดว่าลงไปช้าสักห้านาทีคงไม่เป็นอะไรหรอก อย่างไรเสียก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจึงแต่งแต้มริมฝีปากแดงชาด แล้วจึงวางลิปสติกไว้ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วจึงเดินลงมาที่ริมสระว่ายน้ำ
เธอตรงมาที่โต๊ะอาหาร บอดี้การ์ดเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง เธอจึงนั่งลงแล้วกล่าวขอบคุณ ดาร์ซี่ทอดสายตามองเธอและเผยยิ้มเล็กหน่อย เธอมองหน้าเขาตรง ๆ เธอคิดว่า เขาหล่อเหลาเอาการดวงตาเหมือนเม็ดอัลมอนด์ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาน่าจูบ นั้นช่างดูเพอร์เฟคอะไรเช่นนี้
“คุณชอบผมขึ้นมาแล้วสิ” ดาร์ซี่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ฉันหิวจนตาลายเลยล่ะ” เธอเอ่ยบอกเช่นนี้ แล้วจึงมองอาหารตรงหน้าชัดๆ ว่าเป็นอาหารไทย อาทิเช่น ต้มยำกุ้งน้ำข้น มีกุ้งตัวใหญ่ๆ อยู่ประมาณห้าตัว ปลาเปรี้ยวหวาน และอีกสี่ห้าอย่าง วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม
“กินสิ” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มและผายมือ เธอใช้ช้อนกลางตักต้มยำกุ้ง น้ำข้น แล้วเอามาใส่จาน
“เอาจานเธอมา” ดาร์ซี่เอ่ยบอกกับบอดี้การ์ด บอดี้การ์ดที่ยืนด้านหลังเก้าอี้ที่ธารานั่ง จึงทำตามคำสั่งของดาร์ซี่ผู้เป็นนายทันที เขาเอาจานของธาราไปวางบนจานของดาร์ซี ธาราจึงมองด้วยความงง
“ดาร์ซี่คุณให้ฉันกิน หรือไม่ให้กินกันแน่” ธาราเอ่ยถามเช่นนี้ เขายิ้มมองกุ้ง ใช้ซ้อมและมีด เอาเนื้อกุ้งออกจากเปลือก อีกทั้งเอาหัวออกมาใส่อีกจานที่ขาวสะอาด แล้วให้บอดี้การ์ดคนเดิม เอาจานไปวางไว้ตรงหน้าเธอเช่นเดิม เธอมองกุ้งตรงหน้า แล้วใช้ซ้อมกับมีดหั่น และกินกุ้งตัวนั้นจนหมด เธอจึงใช้ช้อนกลางตักน้ำ แล้วเอามาใส่ช้อนตัวเองแล้วกิน
“อร่อยไหม ผมเห็นว่าคุณอาจเบื่อสเต๊ก สปาเกตตี หรือซุปสลัด ผมจึงเอาเชฟคนนี้มาจากกรุงเทพ เห็นบอกว่าเป็นเชฟระดับประเทศ ให้เขาทำอาหารไทย ให้คุณกิน”
“วันหลังไม่ต้องเสียเงินจ้างเชฟแพงๆ มาจากที่ไหนหรอก เพราะฉันทำอร่อยกว่าเขา และคุณไม่ต้องฆ่าเขาล่ะ ให้เขากลับบ้านไปสามสิบสองเถอะ” ธาราเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มหลังจากแขวะจบแล้ว เขาจึงเผยยิ้มในท่าที่สบาย
“เรื่องเมื่อคืน”
“เรื่องอะไรเหรอ เรื่องที่คุณจะขืนใจฉันน่ะ ไม่ต้องพูดถึง เดี๋ยวฉันกินอะไรไม่ลง” เธอเอ่ยบอกจบ แล้วจึงตักปลาเปรี้ยวหวานมาวางบนจาน
“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นเรื่องของผม”
“เรื่องของคุณ?” ธาราเอ่ยถามด้วยความสงสัย และหยุดกิจกรรมการกิน ทอดสายตามองใบหน้าของเขา เขามองใบหน้าเธอที่งวยงง เขาจึงเอ่ยแผ่วเบา
“ช่างมันเถอะ”
“ดาร์ซี่ คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ คุณข่มขู่ฉันเสร็จ ฉันจึงหลับ หลังจากนั้นคุณจะพูดอะไร หรือทำอะไรต่อจากนั้นฉันก็ไม่รับรู้อีกแล้ว” ธาราเอ่ยบอกเช่นนี้ เขาจึงเดินมาหาเธอด้วยสีหน้าแน่วแน่
“มากับผม” เขาพูดแผ่วเบา แล้วจับแขนเธอ เธอจึงลุกขึ้นยืน เดินไปตามแรงของเขา
ดาร์ซี่พาเธอ ก้าวเดินมายังห้องนั่งเล่น ธาราเธอจำรูปนี้ได้ดี วันแรกที่เข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้ แต่ไม่ได้สังเกตว่าเป็นรูปที่วาดด้วยสีน้ำมัน ลักษณะคลายเธอเป็นอันมาก ลักษณะครึ่งตัว ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ธารานึกสงสัยว่าเขาไปแอบวาดมาหรือ หรือว่าเป็นภาพของคนอื่น หรืออดีตคู่ขา คู่นอนของเขากันแน่ จู่ๆ เขาจึงพูดขึ้นมา
“ภาพนี้ผมวาดเอง ผมเห็นคุณครั้งแรกที่เมืองไทย ครั้งนั้นผมเห็นคุณใส่ชุดนักศึกษา ขณะที่คุณกำลังเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย เมื่อสามปีก่อน ผมจดจำใบหน้าคุณได้ตั้งแต่วินาทีแรก อีกทั้งยังเก็บไปฝันในบางครั้ง คิดว่าวันหนึ่งคงจะได้เจอคุณ ในที่สุดผมก็ได้เจอคุณสักที” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและจริงจัง แต่เธอยิ้มที่มุมปาก คิดในใจว่าเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ คนอะไรกันที่แค่เห็น แค่วินาทีแรก และจดจำหน้าตาได้แจ่มชัดเช่นนี้ มันแปลก และบังเอิญไปไหม
“คุณอาจจะจำผิดคนก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน” ธาราเอ่ยตั้งคำถาม
“ผมมองใครไม่เคยพลาด โดยเฉพาะคุณ ผมจำไม่พลาดแน่นอน” เขาเอ่ยบอกด้วยความมั่นใจ
“ดูคุณมั่นใจมากนะ”
“ใช่ผมมั่นใจมาก” เขาเอ่ยบอก แล้วหันมาหาเธอ ธารามองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับรูปสลักเทพเจ้ากรีกจนแทบลืมหายใจ แต่ว่าเธอกลับเลือกเดินกลับขึ้นไปที่ห้องทันที เขามองเธอที่เดินขึ้นไปแล้ว ทันใดนั้นเจสันกับมาสซิโม เดินมาหา มาสซิโมเอ่ยขึ้น
“นายท่านเข้าไปที่คลับไหมครับ”
“ไม่ วันนี้นายไปดูแทนฉันที” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ แล้วก้าวเดินขึ้นไปบนคฤหาสน์
“นายชอบแม่เสือสาว มากกว่ากวางเชื่องเสียอีก” เจสันเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม มาสซิโมเผยยิ้มแล้วหันไปหาเจสันที่ยืนยิ้มข้างๆ เขา
“รีบไปคลับเถอะ”
ดาร์ซี่เดินขึ้นมาบนชั้นสองเปิดเข้ามาในห้อง เห็นว่าธารากำลังเปลือยเปล่า เรือนร่างของเธอขาวอมชมพู ผิวพรรณไร้ที่ติ เรือนร่างอวบอิ่ม ไม่ผอมบาง และไม่อ้วนจนเกินงาม เธออยู่ที่หน้าห้องแต่งตัว เธอกำลังสวมชุดนอนผ้าซาติน สายเดียวสีทอง เธอก้าวเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเห็นว่าเขายืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน เขาจึงเอ่ยทักเธอ
“ชุดนอนเหมาะสมกับคุณ” เขาเอ่ยเช่นนี้
เธอจึงเดินไปที่เตียง ดาร์ซี่จึงปลดเข็มขัด ถอดกางเกงสแล็คสีดำสนิทถอนลงมาที่ปลายเท้า พร้อมกับบ๊อกเซอร์ แล้วค่อยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกจากร่างกายของเขา ธาราที่นอนมองเขา ตั้งแต่ที่เขาถอดเข็มขัดจนกระทั่ง เขาเปลือยเปล่าต่อหน้าของเธอ เธอมองกล้ามเนื้อหน้าท้องอุดมไปด้วยซิกแพค ตามแขนและขาของเขาดูสมดุลกันอย่างลงตัว ทำเอาเธอแอบกลืนน้ำลาย ดาร์ซี่ยิ้มให้เธอ ก้าวเดินพาร่างเปลือยเปล่าของตนตรงมาที่เตียง เขานั่งลงและนอนข้างๆ เธอ หญิงสาวจึงหันหลังให้เขา แล้วข่มตาลง เขาลงนอนข้างเธอเช่นทุกคืน
ธาราตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวัน เธอใช้มือขยี้ดวงตา มองเขาที่นอนหลับใหลใต้ผ้าห่มเดียวกับเขา ขณะที่เขายังหลับอยู่ เธอคิดว่าใบหน้าเขาดูหล่อ ไม่เบาใบหน้าไม่หวานจนเกินไป และไม่คมเข้มจนเกินไป ดูรวมๆ คือหล่อสำหรับผู้หญิงหลายๆ คน แต่เธอรู้สึกเหมือนว่าอยากสัมผัสร่างกายอันสมบูรณ์แบบเช่นนี้ ทว่ามือเรียวไวกว่าความคิด เธอใช้มือเรียวสัมผัสแผ่วเบาบนซิกแพค ทว่ารีบชักมือออกก่อนที่จะถึงตัวเขา ในความคิดของเธอคิดว่า ฉันกำลังคิดอะไรอยู่นี่
ธาราจึงลุกขึ้นเดินไปในห้องน้ำทันที แล้วถอดชุดนอนผ้าซาตินออกจากเรือนร่าง เปิดน้ำให้ไหลลงมากระทบร่างกาย ทันใดนั้นดาร์ซี่ลุกขึ้นจากเตียง นำพาเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้ามาในห้องน้ำ เขาเปิดน้ำจากอีกฝั่งหนึ่งของเธอ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า
“วันนี้ผมจะเข้าไปที่คลับ กลับดึกหน่อยนะ” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้
“แล้วบอกฉันทำไม” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“แค่อยากให้รู้” เขาเอ่ยบอก เธอปิดน้ำลง แล้วจึงก้าวเดินออกไปจากห้องน้ำ ทิ้งให้เขายืนอยู่เดียวดาย
ค่ำวันเดียวกันดาร์ซี่กลับมายังคฤหาสน์ ก้าวเดินขึ้นไปบนบ้านเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว เขาจึงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ พอเสร็จสิ้นจึงเดินออกมาเช็ดตัว ลงนอนข้างๆ เธอ เขามองเธอที่ใส่ชุดนอนผ้าซาติน หลุดลุ่ยเห็นไปถึงไหนต่อไหน เขาจึงเอาผ้าห่มปิดบนเรือนร่างของเธอ อีกทั้งใช้มือหนาปัดปอยผมที่ปิดลงมาบนใบหน้าของเธอ แล้วเผยยิ้ม
เขาคิดว่าทำไมถึงยอมเธอได้ขนาดนี้ เพียงเห็นน้ำตาของเธอ เขาก็ทำอะไรไม่เป็นแล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น พวกเธอจะยอมเขาทุกอย่างอีกทั้งยังวิ่งใส่เขาอีกต่างหาก เขามองเธออีกครั้งแล้วถอนหายใจ