ตอนที่ 6 ถึงเวลาเอาจริงสักที NC21+

1377 Words
ดาร์ซี่เดินมายังห้องนอนของเขาโยนเธอลงบนเตียงขาวสะอาด เธอทั้งเจ็บและจุกอย่างมาก อีกทั้งเขาเปิดลิ้นชักเอากุญแจมือออกมาสองชุดออกมา ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก เธอดิ้นรนแต่ไม่เป็นผล เขาเอาเนกไทออกจากแขนของเธอ เธอได้จังหวะตบลงบนหน้าของเขาเข้าอย่างจัง ทำให้ใบหน้าหันไปตามแรง เขาจึงเอามือบีบคอเธอไม่ออกแรง เขารู้ว่าตนออกแรงบีบแรงกว่านี้ อาจทำให้เธอ ตายได้ “หมดเวลาสนุก ถึงเวลาเอาจริงสักที” ดาร์ซี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน “ปล่อยน่ะ” เธอร้องด้วยความหวาดกลัว เมื่อกุญแจมือนั้นอยู่บนมือของเธอทั้งสองข้าง เขาจับโยงกับหัวเตียง “ไอ้บ้า…ปล่อยน่ะ” ธาราร้องก่นด่าเขา แต่เขาไม่สนใจแถมยิ้มอย่างหื่นกระหาย เธอคิดว่าจะรอดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเวรกรรมแล้วตอนนี้ เขาถอยจากตัวเธอลงมาด้านล่าง ถอดเสื้อกับกางเกงออกอย่างรวดเร็วจนเปลือยเปล่า ต่อหน้าของเธอ “ธารา ผมไม่เคยคิดทำร้ายคุณ แต่คุณกลับดื้อดึงครั้งแล้วครั้งเล่า จนความอดทนหมดสิ้น คุณอย่าโทษผม เพราะคุณร้องขอมันเอง” ดาร์ซี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและดุดัน “ปล่อยฉัน!!!” เธอร้องเสียงดังลั่น “คุณตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าผมเอาจริง และเอาแรงด้วย” เขาเอ่ย บอกจบ เขาก้าวเดินเชื่องช้าไปที่ลิ้นชักข้างเตียงเปิดออก เขาเปิดกล่องไม้ แล้วหยิบกรรไกรออกมาจากกล่องก้าวเดินเข้ามาใกล้เธอ ใช้กรรไกรนั้นตัดชุดเดรสที่เธอใส่ จนขาดจากกัน เขาทอดสายตาอันเร่าร้อน เผยยิ้มอย่างหื่นกระหายในเรือนร่างของเธอ หญิงสาวเห็นปฏิกิริยาของเขาเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก “ปล่อยฉันไปเถอะ” เขาไม่ได้นำพาคำพูดของเธอ ลูบไล้ความเป็นหญิงดั่งกับเป็นเจ้าของ ธาราดิ้นรนด้วยความตื่นกลัวและเสียวกระสัน ดิ้นรนเหมือนปลาได้น้ำ อีกทั้งเขาพูดที่ริมหูของเธอ “ธาราแค่นี้ เขื่อนก็ทะลักออกมาแล้ว คุณจะยอมเป็นของผมหรือจะไม่เสร็จแบบนี้” เธอได้สติจึงกัดฟันพูด “ปล่อยฉัน!!!” เธอเอ่ยบอกเพื่อยังยืนยันคำเดิม เขาจึงหยุดการกระทำ เธอจึงมองเขาตรงๆ เขาจึงเดินมานั่งที่โซฟาทอดสายตามองเปลือยเปล่าที่อยู่ต่อหน้าของเขา “แล้วคุณจะเสียใจ กับที่คุณทำลงไป” เขาเอ่ยบอกแก่เธอ แล้วใช้นิ้วกลางเรียกหญิงคนหนึ่งที่ใส่เสื้อคลุมสีดำ ออกมาจากหลังม่าน เธอตรงมาหาดาร์ซี่ ถอดเสื้อคลุมออก ทำให้เห็นว่าเธอมีร่างกายที่เปลือยเปล่าสุดเย้ายวน เธอคนเดิมนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าของเขา แล้วจับความเป็นชายของเขาขึ้นลง ไม่ช้าก็เอาเข้าในโพรงปากของเธอ เขาสูดลมหายใจ เขามองหน้าธาราอย่างหื่นกระหาย กดหัวให้เข้าออกเร็วขึ้น ธารามองเห็นภาพตรงหน้ากัดริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว เธอผู้นี้กลืนกินความเป็นชายเข้าออกอย่างชำนาญ จนกระทั่งเข้าเสร็จถึงจุดไคลแม็กซ์ เธอเช็ดริมฝีปากตัวเอง แล้วป้ายเข้าไปในปาก ลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ดาร์ซี่เดินเข้ามาหาเธอตรงหน้าเตียง “ผมพันธนาการคุณไว้แบบนี้ คุณก็สามารถเป็นของผมแล้ว ธารา” เขาเอ่ยเช่นนี้ แล้วคลานขึ้นมาบนเตียงช้าๆ ใช้ลิ้นโลมเลียเรียวขาบนใกล้แกนกายสาวเบาๆ เธอจึงร้องด้วยความหวาดกลัว “ที่บริษัทคุณยังไม่รู้สึกกลัว แถมกล้าด้วยซ้ำ ทำไมตอนนี้ถึงกลัวล่ะ” เขาเอ่ยถาม มือของเขาเล่นอยู่บนอกอวบอิ่ม “ได้โปรด…อย่าน่ะ” “ธารา ผมจะกดคุณให้จมถึงกรุงเทพเลย” “ไม่…” “คุณไม่มีสิทธิ์เลือกว่าไม่หรือได้ เพราะผมคือเจ้าชีวิตรวมถึงตัวคุณด้วย” “ได้โปรด…” ธาราร้องได้ด้วยความหวาดกลัว จนปล่อยโฮออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร เขาเห็นเช่นนั้น แล้วถอนหายใจ เอื้อมเอากุญแจ ไขกุญแจมือของเธอทั้งสองข้าง แล้วเขาจึงบอกเธอ “ไปอาบน้ำ” ธาราจึงวิ่งลงจากเตียงเข้าห้องน้ำด้วยความหวาดกลัวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาเห็นเธอเดินเข้าห้องน้ำ แล้วก้าวเดินตามเธอเข้าไป เธอเองก็เปิดเรนชาวเวอร์ เขาจึงเดินมาข้างๆ เธอแล้วยืนมองด้วยสายตาที่เร่าร้อน แทบเผาเธอ ธาราจึงหันมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ออกไป!!!” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงดังดุดัน เขายังคงยืนเธอไม่หันไปไหน เธอจึงปิดเรนชาวเวอร์ ก้าวเดินไปที่วางผ้า เอามาห่อตัวเดินออกจากห้องน้ำ เขาเผยยิ้มเปิดเรนชาวเวอร์ เธอจึงเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง หยิบไนต์ครีมราคาแพงมาทาหน้าแผ่วเบา เธอมองเขาผ่านกระจก เห็นว่าเขาใส่ชุดคลุมสีดำ เดินไปที่ตู้ไวน์ หยิบไวน์แดงราคาแพงออกมา พร้อมแก้วไวน์ที่วางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยบนเคาน์เตอร์บาร์ แล้วเปิดขวดนั่งดื่มลำพัง เธอจึงลุกจากโต๊ะเครื่องแป้ง เธอถอดผ้าขนหนูออกจากร่าง เดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่ การกระทำของเธออยู่ในสายตาของเขาตลอดจนกระทั่งเธอเดินไปนอน ที่เตียง ดาร์ซี่นั่งดื่มไวน์จนหมดขวด แล้วจึงหยิบขวดใหม่ แล้วจึงเปิดออก เขารู้ตัวดีว่าเป็นคนที่ดื่มสุราแล้วไม่เมาไม่ว่าสุราจะแรงแค่ไหนก็ตาม “ธารา คือสิ่งที่ผมจะพูดกับคุณในเวลานี้ เป็นเรื่องที่ผมมีคนรู้ไม่มีคน แต่ผมก็อยากเล่าให้คุณฟัง ผมถูกพ่อแท้ๆ ของผม เขาทำร้ายผมตั้งแต่อายุห้าขวบ รวมถึงแม่มาการีของผมด้วย พ่อของผมติดยาเสพติดอย่างหนัก แม่ของผมเธอถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนผมหลบอยู่หลังตู้เสื้อผ้าจึงได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ผมนั่งเฝ้าศพแม่ถึงสองวัน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาพิสูจน์ศพจัดการฝังไว้ที่สุสาน หลังจากนั้นสองวันพ่อของผมยิงตัวตาย ผมจึงอยู่คนเดียวไม่มีพ่อแม่ และญาติก็ไม่ได้มาติดต่อ ผมได้ไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมอยู่ได้สองปี หลังจากนั้นชายหนุ่มชาวอิตาลี และหญิงสาวชาวไทยได้รับผมเป็นบุตรบุญธรรม และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เขาทั้งสองพาผมบินลัดฟ้าไปอิตาลี เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่” ดาร์ซี่เอ่ยบอกจบ แล้วได้ยินเสียงกรนเบาๆ จากเธอเขาจึงรู้ว่าเธอหลับไปเสียแล้ว จึงเดินเข้าไปหา จับเสื้อคลุมที่หลุดลุ่ยทุกคืนให้เข้าที่ แล้วจึงห่มผ้าให้เธอ เขาจึงลงนอนด้านข้างกดหัวเตียงปิดสวิตช์ไฟ ธาราตื่นสายกว่าทุกวัน เธอลืมตาช้าๆ มองที่ข้างตนเองไม่เห็นดาร์ซี่ที่นอนด้านข้าง เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงไปยังที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองจากนาฬิกา ตอนนี้สิบโมงเห็นจะได้ เสียงขอประตูดังจากด้านนอกห้อง เธอจึงกล่าวเป็นภาษา อิตาเลียน “เข้ามาได้ค่ะ” ธาราเอ่ยบอกเช่นนี้ รีล่าจึงเดินเข้ามาภายในห้องนอนของเธอแล้วจึงถาม “คุณธารา ทานอะไรดีคะ อาหารเช้าหรือจะเอานมอุ่นๆ” “อะไรก็ได้ค่ะ” ธาราเอ่ยบอกเช่นนั้นเธอจึงก้าวเดินออกไป แล้วประตูปิดลง ธาราจึงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเสียงเคาะประตูอีกครั้ง “เข้ามาค่ะ” ธารากล่าวจบชายหนุ่มบอดี้การ์ดเปิดประตู แล้วเอ่ยกล่าว บอกเธอ “วันนี้นายท่านจะจัดดินเนอร์ ต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม” “อะไรก็ได้” เธอเอ่ยบอกเช่นนี้ บอดี้การ์ดคนเดิมจึงปิดประตูลง เธอรู้สึกแปลกใจว่า เกิดเหตุการณ์อะไรที่อีตานั่นจะจัดดินเนอร์ คนเถื่อนๆ บางที ก็คิดว่าเป็นบ้า จะจัดงานดินเนอร์ที่น่าเบื่อได้อย่างไร คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD