bc

หวนคืนอีกครา ไม่ขอเป็นพระชายาที่โง่เขลา Ver.02

book_age16+
834
FOLLOW
3.8K
READ
reincarnation/transmigration
HE
time-travel
second chance
sweet
mystery
loser
harem
kingdom building
polygamy
like
intro-logo
Blurb

หนึ่งชีวิต หนึ่งหัวใจที่สูญเสียไปให้กับคนที่ไร้หัวใจ ชาตินี้ข้าไม่ขอร่วมทางเดินกับเขาอีก... แต่ทำไมมันไม่ง่ายเช่นนั้น เหตุใดเรื่องราวจึงได้แตกต่างไปจากเดิมเช่นนี้ แล้วข้าจะหนีหัวใจตัวเองพ้นได้เช่นไร

heart ตอนที่ 1 - 3 ดำเนินเรื่องเหมือนกับ Version.01 ค่ะ

heart เรื่องราวจะเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่ 4 เป็นต้นไปค่ะ

เวอร์ชั่นนี้เป็นคนละเรื่องราวกับเวอร์ชั่นที่ 1 นะคะ

เรื่องราวจะเปลี่ยนไปหลังจากที่นางเอกของเราย้อนเวลามาเกิดใหม่อีกครั้ง

ส่วนจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นแรกอย่างไรนั้น.... ฝากกดติดตามไร้ต์ด้วยนะคะ

ตัวอย่างบางส่วนค่ะ

“เป็นอะไรไป ข้าทำเจ้าตกใจงั้นหรือ”

“เปล่าเพคะพระองค์ทรงมีสิ่งใดจะตรัสหรือเพคะ หม่อมฉันออกมานานแล้วท่านแม่คงจะ….”

“เล่อชุนหลัน เจ้าคิดเช่นไรเรื่องข่าวลือว่าเจ้าจะเป็นผู้ถูกเลือกให้อภิเษกกับข้า”

(อะไรนะ จู่ ๆ ทำไมเขาถามเช่นนี้)

เล่อชุนหลันเรียบเรียงความคิดไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ท่านอ๋องก็ตรัสถามขึ้นมา นางจำได้ว่าชาติก่อนไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้และคนอย่างหยางอี้เหรินไม่มีทางเดินเข้ามาสนทนากับนางก่อน แต่นางตัดสินใจมาแล้วว่าจะไม่ย้อนกลับแม้ว่าใบหน้าและสายตาของเขาจะยังทำให้นางใจสั่นอยู่มากก็ตาม

“ท่านอ๋องอย่าได้ทรงกังวลพระทัย หม่อมฉันจะไม่ยอมอภิเษกกับพระองค์และจะไม่ทำให้พระองค์รู้สึกอึดอัดพระทัยเพราะถูกบีบคั้นเป็นอันขาดเพคะ ท่านอ๋องไม่ต้องเป็นห่วงหม่อมฉันทราบดีว่าพระองค์… เอ่อ…”

นางเงยหน้ามองเขาด้วยความรู้สึกมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะพอใจแต่คาดไม่ถึงว่าบุรุษหนุ่มตรงหน้าทำท่าราวกับถูกนางเอาไม้ตีแสกหน้าเขา สีพระพักตร์ที่เริ่มกัดกรามแน่นและมองนางด้วยความโมโหช่างไม่แตกต่างกับเมื่อตอนอยู่ในตำหนักที่เยือกเย็นนั่น นางคุ้นเคยกับสายตาเช่นนี้ของเขาดีบัดนี้นางจึงไม่กลัวอีกต่อไป

“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์คงอยากจะตรัสเรื่องนี้เพราะไม่อยากถูกกดดัน ไม่ต้องห่วงนะเพคะหม่อมฉันและสกุลเล่อจะไม่บีบบังคับพระองค์เพียงเพราะข่าวลือเหล่านั้นอย่างแน่นอนเพคะ”

“นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่!!”

เล่อชุนหลันตกใจเสียงที่เขาตะคอกขึ้นมาอีกครั้ง แม้นางจะคุ้นเคยแต่ทุกครั้งที่โดนเช่นนี้นางก็ยังคงกลัวไม่เปลี่ยน เขาหันมามองหน้านางที่ตกใจเมื่อถูกเขาตะคอกใส่จึงค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสีหน้าอีกครั้ง

“หม่อมฉัน…พูดสิ่งใดระคายพระทัยหรือเพคะ หม่อมฉันทราบดีว่าพระองค์มิได้มีใจชอบพอ และหากพระองค์มีสตรีอื่นในพระทัยแล้วก็ควรจะอภิเษกกับนางดีกว่าฝืนใจแต่งกับคนที่พระองค์มิได้รักเพคะ”

“กดดัน บังคับ สตรีในใจอะไรนี่เจ้ากำลังพูดเหลวไหลเรื่องอันใดกัน หากข้าไม่ยินยอมมีหรือที่ผู้ใดจะมาบังคับข้าได้”

“เช่นนั้นที่ทรงเรียกหม่อมฉันไว้ พระองค์ทรงหมายจะคุยเรื่องใดกันแน่เพคะ”

“เจ้าเอาแต่ปฏิเสธข้าเช่นนี้คงมิใช่เพราะขุนนางหนุ่มหน้าอ่อนที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งคนเมื่อครู่นี้หรอกกระมัง หรือว่าเจ้ากับเขา... ชอบพอกันอยู่”

“เพคะ?? พระองค์ทรงตรัสว่าอย่างไรนะเพคะ?”

“เล่อชุนหลัน”

“ทิ้งอาวุธไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านาง”

“เจ้าขู่ผู้ใดกัน เจ้ามองไม่เห็นหรือว่าตรงหน้าเจ้าคือผู้ใด”

“อย่าพูดมาก”

“นี่ ข้าจะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้นะ ข้ากับเขาเป็นศัตรูกัน เจ้าจับผิดคนเสียแล้วล่ะ”

“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้านังตัวดี”

“ไม่เชื่อหรือ มองสายตาเขาสิ เขาสนใจใครที่ไหนกันเจ้ามองดูดี ๆ เจ้ารู้จักเขานี่ ชินหยางอ๋องผู้นี้มีหัวใจด้วยหรือข้ามิใช่สตรีของเขา และเขาก็เกลียดข้ามากหากข้าตาย… เขาคงจะดีใจมากกว่าพวกเจ้าเสียอีก”

หยางอี้เหรินไม่รู้ว่านางพูดอะไรกับคนร้าย แต่เขารู้สึกว่ามันกำลังฟังนางอย่างตั้งใจซึ่งเขาไม่ชอบและไม่อยากให้มันแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผมของนาง

“เจ้าพูดจริงหรือ”

“ไม่อย่างนั้นเขาจะปล่อยให้เจ้าจับข้าได้งั้นหรือ ข้านี่มันอาภัพนักดันไปรักคนที่ไม่สมควรรัก”

“ไร้ประโยชน์ เช่นนี้จะเก็บเจ้าไว้ทำไม”

“เก็บไว้เป็นแม่เจ้าอย่างไรเล่า!!”

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 พระชายาแต่ในนาม
ตำหนักชินหยางอ๋อง / เหลียงโจว “ท่านอ๋อง!! หากพระองค์ไม่เคยรู้สึก…รักหม่อมฉันเลยสักนิด เหตุใดจึงไม่…” “เหตุใดจึงไม่ปฏิเสธเจ้างั้นหรือ!! เจ้าเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เจ้าใช้ฐานะสตรีสูงศักดิ์และบุตรีเสนาบดีเล่อมาบีบบังคับข้า และหากข้าไม่ยอมแต่งงานนั่นก็เท่ากับว่าขัดพระทัยเสด็จพ่อ เจ้ามันร้ายกาจมากแผนการยิ่งกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ มาตอนนี้ยังต้องการสิ่งใดอีก” “หยางอี้เหริน” ชินหยางอ๋องแห่งเหลียงโจวมองมายังพระชายาที่เขาพึ่งจะแต่งตั้งเข้ามาในตำหนักเพียงสามวันด้วยสายตาที่เย็นชาและไร้ความรู้สึก เขากับนางมิได้รักกันแต่เพราะความกดดันในสถานการณ์และการบีบคั้นรอบด้านในราชสำนักทำให้เขาต้องแต่งพระชายาเช่นนางเข้ามาโดยไม่เต็มใจ “ท่านจะเข้าหอกับนางแต่ท่านอ๋องไม่แม้แต่จะ…. คืนที่เราอภิเษกกันท่านไม่เข้าแม้แต่พิธีรับตัวเจ้าสาว!!” “แต่ตอนนี้เจ้าก็เป็นพระชายาแล้วมิใช่หรือ จากนี้ก็จงทำตัวให้ดี ดูแลตำหนักหลังตามหน้าที่ที่เจ้าควรจะทำ เจ้าอยากเข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งนี้มิใช่หรืออย่างไรเล่อชุนหลัน” “หากรู้ว่าท่านมิได้มีใจ ข้าคงไม่คิดจะฝืนใจท่าน” ท่านอ๋องหนุ่มกำหมัดแน่น กรามเขาตึงจนขึ้นสันเมื่อได้ยินนางเอ่ยถ้อยคำนี้ออกมา “หากรู้ว่า…” งั้นหรือ “เจ้ามาพูดเรื่องนี้ในตอนนี้เพื่อสิ่งใดกัน เจ้าก็รู้ว่ามันไม่ทันแล้ว เพราะฉะนั้นต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเถอะ” นางค่อย ๆ หลับตาเพื่อไล่น้ำตาของตนออกไป ตอนนี้เองที่ท่านอ๋องพึ่งจะรู้สึกปวดหนึบที่กลางดวงพระทัยราวกับทำบางสิ่งพลาดไป แต่สตรีตรงหน้าเขามากเล่ห์เจ้าแผนการจนเขาแทบจะมองนางดี ๆ ไม่ได้เลยสักครั้ง ทำให้เขาแสดงออกกับนางเช่นนี้ “เล่อชุนหลัน” ได้ชื่อว่าเป็นพระชายาท่านอ๋อง ตำแหน่งนี้เป็นสิ่งที่นางเคยใฝ่ฝันมาโดยตลอดตั้งแต่นางพบเขาเมื่อหลายปีก่อน เวลานั้นท่านอ๋องพึ่งมาปกครองเมืองเหลียงโจวตามบัญชาของฝ่าบาทและพึ่งชนะศึกแคว้นหว่านยงกลับมา ตั้งแต่ครั้งนั้นนางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งและเป็นบุตรีของเสนาบดีผู้เรืองอำนาจก็มิเคยชายตามองบุรุษอื่นนอกจากเขา เพราะตำแหน่งของบิดาที่มิอาจปฏิเสธทำให้ท่านอ๋องต้องยอมรับนางเข้ามาเป็นพระชายา “เอาล่ะ เจ้ารีบกลับไปที่ตำหนักของตนเองเถอะ ส่วนเรื่องพิธีการคงไม่ต้องรบกวนเจ้า เพราะข้าสั่งคนจัดการให้เรียบร้อยแล้ว” เมื่อตรัสเสร็จแล้วท่านอ๋องก็หันเดินจากไปทันที หลังจากนั้นนางก็มิได้ออกมายุ่งวุ่นวายในพิธีของเขาแต่กลับมีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อพิธีส่งตัวถูกคนก่อกวนและแน่นอนว่าเป้าหมายที่จะถูกเพ่งเล็งย่อมไม่พ้นนาง “ข้าเตือนเจ้าแล้วนะเล่อชุนหลัน!! ว่าอย่าก่อเรื่อง” เล่อชุนหลันวางจอกชาในมือลงที่โต๊ะด้วยความตกใจเพราะนางกำลังจะเข้านอนแต่กลับได้ยินเสียงโวยวายด้านนอก ท่านอ๋องในชุดเจ้าบ่าวสีแดงสดซึ่งนางไม่เคยเห็นในวันที่นางแต่งเข้ามาที่นี่ยืนอยู่ตรงหน้านาง “ท่านว่าอะไรนะ ข้า…อ๊ะ!!” เขาผลักนางลงไปที่เตียงและหันไปตะคอกนางอีกครั้ง “เป็นเจ้าสินะที่แอบเอายาถ่ายใส่ในน้ำชาของจินเซียน แล้วยังสั่งให้คนจุดประทัดก่อกวน!!” “อะไรนะ!! หม่อมฉัน…!!” “เจ้ามันร้ายกาจเกินคาดเดาเหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้ การรับนางเข้ามาข้าก็บอกกล่าวเจ้าก่อนแล้ว แต่เจ้ากลับยังหาเรื่องนางไม่เลิก!!” เล่อชุนหลันตั้งสติได้ถึงกับนั่งหัวเราะตัวโยนเมื่อหันมามองเขาที่โกรธจนตกใจเมื่อเห็นสีหน้าของนางในตอนนี้ “นี่เจ้าเป็นบ้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ หรือว่าเจ้ากำลังยอมรับงั้นหรือ” “หึ ท่านอ๋องต่อให้หม่อมฉันไม่ยอมรับพระองค์ก็โยนความผิดนี้มาให้หม่อมฉันอยู่ดีมิใช่หรือเพคะ เช่นนั้นมันจะแตกต่างอันใด ทำหรือไม่ทำพระองค์ก็ทรงตัดสินโทษหม่อมฉันไปแล้ว” “เจ้า!!” “ออกไปเถิดเพคะ รีบไปทำพิธีให้เสร็จเถิดอย่าได้มายุ่งกับหม่อมฉันอีกเลยหม่อมฉัน…จะเข้านอนแล้ว” “เล่อชุนหลันนี่เจ้า…” “หรือพระองค์อยากจะค้างกับหม่อมฉันในคืนนี้เพคะ พอดีเลยเพราะหม่อมฉันยังไม่เคยเห็นพระองค์แต่งกายในชุดเจ้าบ่าวเลยสักครั้ง” “เล่อชุนหลัน อย่าให้ข้าสืบรู้ว่าเจ้าอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ก็แล้วกัน” คนพูดไม่ได้สนใจความรู้สึกของผู้ฟังเลยสักนิด เมื่อพูดเสร็จเขาก็เดินโมโหออกไปจากตำหนัก ทิ้งให้นางรู้สึกเจ็บและผิดหวังอยู่ในนั้นเพียงคนเดียว “พระชายาเพคะ เป็นอะไรหรือไม่เพคะ” “ข้าน่ะหรือ…จะเป็นอะไรได้เล่า ก็เป็นคนที่เขาไม่รักน่ะสิ ข้ามันโง่เองที่รักเขาจนหลงลืมคำเตือนของคนรอบกายไปหมดสิ้น” นางสิ้นหวังกับรักที่มีเพียงหนึ่งเดียวกับหยางอี้เหริน และเริ่มเหนื่อยเหลือเกินแล้วที่ต้องอยู่อย่างไร้ความหมายเช่นนี้ “ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าเขาจะเกลียดข้าได้ถึงเพียงไหน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในงานสมรส” “ได้ข่าวว่าพระชายารองถูกวางยาในสุรามงคลเพคะ แต่นั่นเป็นยาถ่าย ตอนนี้นางจึง….” “หึ ฮ่า ๆ ๆ ใครหนอช่างทำเสียจริง เขาไม่คิดจะสงสัยผู้อื่นเลยช่างน่าสมเพชตัวเองยิ่งนัก” คิดว่าเรื่องราวจะจบเพียงเท่านั้น แม้ว่าหลังจากนั้นจะไม่มีเรื่องใดร้ายแรงแต่ขอเพียงแค่มีเล่อชุนหลันอยู่ใกล้ ๆ พระชายารองที่เขาพึ่งรับเข้าจวนมาก็พร้อมที่จะกล่าวโทษนางทันที “ท่านพี่ ช่วยไม่ได้นะเพคะก็ท่านไม่ควรจะทำให้สำรับของท่านอ๋องตกเช่นนั้นเลย คืนนี้ก็นอนในห้องเก็บฟืนไปนะ ปิดประตูแล้วเฝ้าเอาไว้อย่าให้ผู้ใดแอบนำอาหารมาให้นางได้เล่า” สามเดือนถัดมา ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เล่อชุนหลันตกเป็นเหยื่อ จนสามเดือนถัดมา ที่ เมืองชุ่นเกิดกบฏ ท่านอ๋องต้องจัดทัพไปออกศึกหลังจากที่พระชายารับโทษมาหลายต่อหลายครั้งโดยที่ไม่เคยปริปากบ่น ไม่โมโหและหากจะพูดตามความเป็นจริงคือ นางแทบจะไม่พูดสิ่งใดอีกเลยจนก่อนที่เขาจะออกทัพอีกสองวัน ท่านอ๋องจึงมาเสวยอาหารเย็นกับนางที่ตำหนักเป็นครั้งแรก “ข้าคงไปไม่นาน เรื่องในตำหนักก็ฝากเจ้าดูแลด้วย” “เพคะ” “เจ้าไม่สบายงั้นหรือเหตุใดดูซูบลงไป” “ท่านอ๋องตรัสถามเช่นนี้ ไม่ทราบจริง ๆ หรือเพคะว่า…” “จินถิง” พระชายาเรียกนางเอาไว้เพื่อไม่ให้นางพูดสิ่งใดที่ระคายพระกรรณท่านอ๋องเพราะเขากำลังจะออกศึกสำคัญไม่ควรต้องมากังวลใจเรื่องเล็กน้อยที่นางพบเจอในจวนอ๋องที่โหดร้ายแห่งนี้ “พระชายา บ่าว…” “เจ้าไปเอาห่อยาที่ข้าเตรียมเอาไว้มาให้ท่านอ๋องติดตัวไปในกองทัพ แล้วก็ผ้าห่มที่เรา… พึ่งซื้อมานั่นด้วย” “เพคะพระชายา” “เจ้าไม่น่าลำบาก นี่เจ้าออกไปซื้อ…” เมื่อเขาถามแล้วหันไปมองที่นิ้วมือของสตรีที่มักจะพูดว่านางร้ายกาจ และเป็นสตรีน่ารังเกียจที่บีบบังคับเขาทางอ้อมเพื่อให้แต่งนางเข้ามาก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะนิ้วของนางเกือบทุกนิ้วมีแต่บาดแผลซึ่งเกิดจากมีดหรือเข็มเขาก็ไม่แน่ใจนัก เมื่อชามน้ำแกงถูกวางลงเขาหมายจะเอื้อมออกไปดึงมาดูแต่นางกลับรีบดึงมันกลับทำราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น “ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว ควรจะต้องหาผ้าห่มไปเพิ่มให้มากหน่อยเพคะ” “อ่อ ใช่ ขอบใจเจ้ามาก แล้วช่วงนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” “สบายดีทุกอย่างเพคะ” เขาไม่เคยคิดจะถามเรื่องนี้แต่เกือบหกเดือนที่นางมาอยู่ที่นี่แม้ว่าเขาจะเคยรับฟังเรื่องที่นางกลั่นแกล้งชายารองแต่ก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจเพราะเรื่องตำหนักหลังเขามอบให้นางดูแลแต่เท่าที่ดูจากสภาพนางในตอนนี้ ทั้งผอมซูบและขอบตาคล้ำอีกทั้งสุขภาพที่ดูอ่อนแอลง เขาคงจะละเลยนางไปมากจริง ๆ “มือของเจ้า…” “หม่อมฉันชอบปอกเม็ดเกาลัดไม่ทันระวังก็เลยมีแผลโปรดอย่าทรงกังวลเพคะ” “เล่อชุนหลัน” “ท่านอ๋องเพคะ นี่ก็ค่ำแล้วจินถิงเองก็ยกของไปที่ตำหนักกลางให้พระองค์แล้ว เสด็จกลับไปพักผ่อนเถอะเพคะ” “แต่…” “หม่อมฉันมีเรื่องอื่นที่ต้องทำคงไม่ไปส่งนะเพคะ” นางโค้งคำนับให้เขาหลังจากที่เดินมาส่งเพียงหน้าตำหนักและรีบปิดประตูทันที ท่านอ๋องรู้สึกจุกที่ลำคอทั้ง ๆ ที่พึ่งกินอาหารมาเต็มท้อง เขาไม่รู้เลยว่าช่วงระยะเวลาไม่นาน พระชายาของเขาจะเปลี่ยนไปเช่นนี้แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องนี้ การศึกอยู่ตรงหน้าเขาต้องรีบจัดการเสียก่อน “พระชายาเพคะ!!” “รีบไปเอากระโถนมา ฮึก!!” นางกระอักเลือดออกมาไม่น้อยเมื่อพยายามอัดอั้นเอาไว้รอให้ท่านอ๋องกลับไปและรีบกลับเข้ามา แม้นว่าเขาจะไม่ค่อยใส่ใจนางแต่ในช่วงเวลานี้ที่กำลังจะออกศึกสำคัญเช่นนี้นางไม่อยากให้เขาต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ถึงท่านอ๋องจะไม่เคยคิดเป็นห่วงนางเลยก็ตาม “พระชายาเพคะหม่อมฉันคิดว่าควรบอกเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องทรงทราบนะเพคะ” “อย่าโวยวาย เจ้าอย่าร้องไห้เงียบ ๆ เอาไว้ข้าไม่เป็นไร พิษแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอกรีบไปเอายามาให้ข้า” “เพคะ” แม้ไม่ต้องเดานางก็รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือผู้ใด เพื่อตำแหน่งใหญ่ในราชสำนักเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่ยังว่างอยู่ ท่านอ๋องยังมิได้ตัดสินพระทัยแต่งตั้งผู้ใด บุตรขุนนางขั้นสองอย่างลี่จินเซียนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยบิดานางอยู่แล้ว ขอเพียงขึ้นเป็นพระชายาได้ ตำแหน่งเสนาบดีของพ่อนางก็ไม่เกินเอื้อม แต่ต้องกำจัดผู้ที่ขวางนางเสียก่อน “ช่างชั่วช้ายิ่งนัก ข้าจะทำเช่นไรดี ฮือ…” “จินถิงอย่าเสียงดัง ท่านอ๋องกำลังจะออกศึกสำคัญเจ้าอย่าได้ให้เรื่องนี้หลุดรอดออกไป พิษนั้นเรื่องเล็กบ้านเมืองเรื่องใหญ่ต่อให้เขาไม่เคยรักข้าเลยแต่เราจะยอมให้เขามีกังวลเรื่องในจวน…ไม่ได้” “เพคะ หม่อมฉันทราบแล้ว” สองวันถัดมา ท่านอ๋องจัดกองทัพเพื่อเตรียมจะเดินทางไปเมืองชุ่น ห่อยาที่นางให้ไปวันก่อนอยู่ในมือของเขา “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” “เจ้าเห็นพระชายาบ้างหรือไม่” “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมาส่งพระองค์เพคะนี่เป็นเครื่องรางที่วัดหย่งไท่ซือ หม่อมฉัน...” “อืม ขอบใจเจ้าสุขภาพไม่ค่อยดี พวกเจ้าพาชายารองเข้าไปพักเถอะ” “เพคะท่านอ๋อง” “เช่นนั้นหม่อมฉันขออวยพรให้พระองค์โชคดีนำชัยชนะกลับมาเหลียงโจวเพคะ” ชายารองหันไปแล้วแต่เสียงที่ท่านอ๋องเอ่ยถามองครักษ์ประจำกายนั้นดังขึ้นมาตามหลังซึ่งนางได้ยินเต็มสองหู “เจ้าไม่ได้แจ้งพระชายาหรอกหรือว่าข้าจะออกศึกในวันนี้ เหตุใดนางจึงไม่ออกมาส่งข้า” “ลี่จินเซียน” กำหมัดแน่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางเดินกลับไปที่ตำหนักทันทีพร้อมกับสอบถามสาวใช้ “แน่ใจแล้วใช่หรือไม่ว่ามันจะลุกขึ้นมาไม่ได้” “เพคะพระชายารองหม่อมฉันมั่นใจเพคะ” “ดี จากนี้ยังไม่ต้องวางยามัน ปล่อยไปก่อนถ้ามันตายช่วงที่ท่านอ๋องไม่อยู่จวนจะยิ่งน่าสงสัย” “เพคะ บ่าวทราบแล้ว” ท่านอ๋องที่พะว้าพะวังเมื่อมองไปยังด้านหลังทางเข้าตำหนักของนาง เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อใดที่เขามักจะมองไปที่นั่นเสมอ แต่ก็ยังไม่มีเงาของเล่อชุนหลัน “หรือนางจะไม่สบาย ข้าจะไปดูหน่อย!!” “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ จวนจะได้เวลาแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ” “แต่ว่านาง…” “ท่านอ๋องเพคะ” “เล่อชุนหลัน!! เหตุใดเจ้าเดินมาจากทางนี้” ชุนหลันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อนางแอบเห็นแววตาดีใจของเขาแวบหนึ่งแต่ก็คิดว่าตาฝาดเพราะหลังจากนั้นท่าทีของบุรุษหนุ่มในชุดเกราะสีขาวนั้นก็นิ่งเฉยไปอีกครั้ง “เหตุใดเจ้าจึงมาช้านัก” “หม่อมฉันตื่นมาทำขนมเอาไว้ให้พระองค์ ตอนเดินทางจะได้ไม่หิวเพคะ จินถิงเอาออกมา” สาวใช้ยื่นห่อขนมไปให้องครักษ์ของท่านอ๋องอย่างไม่เต็มใจจนเสิ่นกงนึกแปลกใจกับท่าทีนั้น แต่ท่านอ๋องกลับคว้าห่อผ้าในมือเสิ่นกงขึ้นมาเก็บเอาไว้เอง “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ห่อนั้นยังร้อนอยู่” “ขอบใจเจ้ามากนะพระชายา ข้าไม่อยู่เจ้าเองก็…. ดูแลตัวเองด้วย รอข้ากลับมา” เล่อชุนหลันเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง แต่สายตาของนางที่มองเขารู้สึกว่าจะเปลี่ยนไปมากแม้จะยังยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่อ่อนแรงเต็มที หรือว่านางจะป่วยจริง ๆ โดยที่เขาไม่รู้มาก่อน “เพคะ หม่อมฉันขออวยพรให้พระองค์นำชัยชนะกลับมาเหลียงโจวโดยเร็วนะเพคะ"

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.3K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
16.1K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.4K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
2.0K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook