บทที่ 6 ห้วงมิติพิศวง

1769 Words
นางสามารถเอามือล้วงเข้าไปในห้วงมิติ แล้วสามารถเคลื่อนย้ายห้วงมิติเอาไว้ที่ใดก็ได้ จื่อเถาจึงเอาใส่ไว้ในแขนเสื้อเพื่อเวลาล้วงเข้าไปหยิบของคนจะได้ไม่สงสัย สองแม่ลูกเดินเข้าไปในร้านเครื่องนอน สั่งเครื่องนอนสองชุด พร้อมทั้งให้ไปส่งที่ร้านของนางไม่ต้องขนไปเองให้เหนื่อย แล้วทั้งคู่ก็เดินสำรวจตลาด เพราะไม่ได้ออกมากันตั้งนานอยากเดินดูให้ทั่วก่อน “ท่านแม่เจ้าคะ ร้านนี้ทำเครื่องเรือนสวยนักเจ้าค่ะ เอาไว้พวกเรามาสั่งต่อโต๊ะกับเก้าอี้นะเจ้าคะ” จื่อเถามองดูเครื่องเรือนที่ในร้านพบว่าฝีมือประณีตนัก หากสั่งต่อโต๊ะในร้านสักสามสี่โต๊ะ กับให้ช่างที่ทำเตาไปทำให้ในร้าน ก็คงดีไม่น้อย “ได้สิลูก” ทั้งสองเดินดูตลาดจนทั่วแล้วก็กลับไปที่ร้านของตัวเอง จื่อเถารู้แล้วว่าร้านขายพวกถั่วต่าง ๆ อยู่ตรงไหน นางค่อยไปซื้อได้ โม่บดถั่วโม่แป้งนางก็สั่งมาเช่นกัน อีกสองถึงสามวันจะมาส่งพร้อมกับทำเตาในร้านให้นาง นางพบว่าที่นี่มีการใช้น้ำมันบัวแล้ว เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันอย่างอื่นเอาไว้สำหรับทอดอาหาร อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องใช้น้ำมันหมูที่มันเหม็นหืนง่ายในการทอดเต้าหู้ของนาง ความพิเศษของการทำเต้าหู้ที่นางได้รับสืบทอดมาตั้งแต่ต้นตระกูล คือเมื่อทอดออกมาแล้วเนื้อภายนอกจะกรอบภายในจะนุ่มคล้ายเต้าหู้อ่อน แน่นอนว่ายุคนี้ย่อมมีนางผู้เดียวที่ทำได้ ร้านในตลาดย่อมมีร้านที่ทำเต้าหู้อยู่แล้ว แต่ทว่าคุณภาพไม่ดีเท่านางแน่นอน นางมั่นใจ และนางไม่ลืมสั่งถาดรองเต้าหู้มาด้วยห้าถาด เมื่อนั่งไล่เรียงสิ่งต่าง ๆ แล้วนางก็ตัดสินใจยืมเงินท่านแม่ 100 ตำลึงทองเพื่อลงทุนและเป็นทุนหมุนเวียนในร้านในช่วงเริ่มแรก และจะคืนส่วนที่ยืมพร้อมกับดอกเบี้ยให้กับท่านแม่อีกด้วย “เถาเอ๋อร์ แม่ไม่ห้ามถ้าเจ้าจะทำการค้า แต่เจ้ามั่นใจแล้วใช่หรือไม่ที่จะทำมัน” นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าบุตรสาวจะทำเต้าหู้เป็น นางยังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ และสูตรการทำล้วนไม่มีใครบอกกล่าวเป็นความลับ ต่อให้ซื้อสูตรการทำเต้าหู้มาก็ไม่มีใครบอกหมด อย่างไรร้านต้นตำรับก็ยังมีรสชาติที่ดีกว่า “ท่านแม่โปรดวางใจข้าย่อมไม่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง รอเพียงถาดมาส่ง ครั้งแรกข้าจะทำแจกคนแถวนี้เจ้าค่ะ” จื่อเถายืนยันให้มารดาคลายกังวลใจ แล้วก็แยกย้ายกับท่านแม่ไปนอนห้องตัวเอง นางอายุหกหนาวแล้วย่อมไม่นอนกับท่านแม่ แยกห้องมาตั้งแต่บ้านบิดา และที่สำคัญนางอยากรู้ว่าห้วงมิติพิศวงของนางทำสิ่งใดได้บ้าง เมื่อเข้าห้องลงกลอนประตูนางก็ย้ายช่องมิติรูปเมฆมงคลมาอยู่ที่ข้างผนังห้องบนเตียงนอนของนาง นางพบว่ามันขยายใหญ่ได้ และนางสามารถเข้าไปทั้งตัวได้ด้วย “โอ้โห...นี่คือความลับสำหรับคนทะลุมิติสินะ” เสียงอุทานอย่างตื่นเต้นของเด็กหญิงไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา เพราะว่าในห้วงมิติมีเพียงนางเท่านั้น น้ำพุวิเศษนี้ก็ช่างทำให้นางสดชื่นดีจัง นางตัดสินใจตักขึ้นมาแล้วล้างหน้าล้างตา และดื่มมันไปหนึ่งอึก เมื่อชะโงกใบหน้าเข้าไปตรงน้ำพุพบว่าใบหน้ากระจ่างใสนัก “อู้หู...สรรพคุณดีเยี่ยงนี้” นางเริ่มคิดเอาน้ำพุในห้วงมิติของนางไปผสมในอาหารที่นางทำ มันจะเพิ่มรสชาติให้อร่อยเพียงใดนะ ขณะที่ครุ่นคิดชั่วครู่นางเหลือบสายตาไปมองยังชั้นที่วางของพบว่าพื้นที่นี้ปลูกผลไม้และพืชพรรณที่จำเป็นหลายอย่างในการทำการค้าของนาง มีทั้งพริกแดงจินดาที่โตเต็มวัยออกผลจนทั่วต้น นางเลือกเก็บมันออกมาแล้วเก็บไว้ทำน้ำจิ้มรสเด็ด มีผักชี ต้นหอม ถั่วลิสงอีกด้วย และหันไปมองยังพื้นที่ปลูกอีกฝั่งก็มีต้นใบเตย นางคิดไปถึงการต้มน้ำเต้าหู้ นางทำเต้าหู้ย่อมมีน้ำเต้าหู้ และมีกากถั่วเหลือง นางคิดขายกากถั่วเหลืองให้กับบ้านเลี้ยงหมู เพื่อไม่ให้ถั่วเหลืองต้องสูญเปล่า แค่คิดตำลึงก็เรียงกันเข้ากระเป๋านางแล้ว แต่ทว่านางต้องทำแจกเสียก่อน ก่อนอื่นต้องมีกระบอกไม้ไผ่เจาะรูร้อยเชือกปอสำหรับคนหิ้วกลับ และเริ่มแรกนางต้องแจกก่อนขายจริง เมื่อดูจนครบแล้ว นางก็ออกจากห้วงมิติวิ่งมาชั้นล่างเอาถังใส่น้ำหิ้วขึ้นไปด้านบน แล้วไปตักน้ำพุวิเศษออกมาเพื่อทำอาหาร รับรองว่าอาหารทุกอย่างที่นางทำจะรสชาติดีไร้ที่ติดเลยทีเดียว นางวิ่งขึ้นลงอยู่สามเที่ยวก็ได้น้ำเต็มตุ่มเล็ก ๆ ในร้านที่เอาไว้สำหรับน้ำกินแล้ว และนางก็จัดการให้มันวางอยู่ในที่ที่นางใช้สะดวก เมื่อจัดการเสร็จแล้วนางก็เหนื่อยอ่อนด้วยใช้กำลังวิ่งขึ้นลง แต่มานึกได้ตอนท้ายว่าหากย้ายห้วงมิติลงมาคงดีไม่น้อย แต่ก็จะทำให้คนอื่นเห็นว่านางทะลุกำแพงได้ ท่านแม่ของนางอาจจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน เมื่อขึ้นมาชั้นบนนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำในน้ำพุวิเศษที่ไม่มีวันแห้งเหือด เพราะขี้เกียจลงมา ยิ่งเมื่ออาบไปคล้ายกับผิวจะเด้งนุ่มเนียนเหมือนเต้าหู้ไม่มีผิด เช่นนี้ต้องเอาน้ำไปผสมน้ำอาบน้ำ และน้ำดื่มให้ท่านแม่ ท่านแม่ของนางจะได้สาวและสวยจนบุรุษมองเหลียวหลัง และท่านพ่อของนางต้องเสียดายที่ทอดทิ้งท่านแม่ของนางไปคว้าเอาสตรีชั่วเหยาเอินมาเป็นภรรยา ความคิดการแก้แค้นเล็ก ๆ เริ่มต้นขึ้นในสมองน้อย ๆ แค่มีห้วงมิติและของที่จำเป็นในการค้า นางก็เริ่มต้นได้ดีกว่าคนอื่นไปหลายขุมแล้ว “ข้าและท่านแม่จะมั่งคั่ง” แต่นางคิดอีกอย่างเรื่องการขอทะเบียนบ้านกับการเปลี่ยนแซ่ สมัยนี้นางรู้ว่าสตรีที่เป็นม่ายสามารถขอทะเบียนบ้านได้ ดังนั้นให้ท่านแม่ขอทะเบียนบ้านโดยใช้ร้านของพวกเขาเป็นบ้าน เพราะเป็นชื่อท่านแม่อยู่แล้ว ทั้งมีหนังสือหย่าขาดปลดภรรยาเรียบร้อย ยื่นให้ท่านนายอำเภอและขอใช้แซ่เดิมมารดา เท่านี้นางก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่เฉียน และการฆ่าล้างตระกูลก็จะไม่เกิดขึ้น คิดได้ดังนั้นนางก็หลับเป็นสุขแล้ว เพราะค่อย ๆ หลีกหนีชะตาที่มีจุดจบไม่ดีของตัวละครตัวนี้ไปได้แล้ว คิดจนพอใจแล้วก็ได้เวลาพักผ่อนนอนหลับเสียที วันนี้เจอเรื่องราวมามากมาย จนนางเพลีย รุ่งเช้าวันใหม่อากาศสดใสเพราะเป็นฤดูใบไม้ร่วงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ท้องฟ้าแจ่มใสกับต้นไม้หลังร้านค้าของนางค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้มสร้างความสุขให้นางไม่น้อย เมื่อตื่นเช้ามาเดินลงมาล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว นางก็เอาน้ำจากตุ่มในร้านไปผสมกับน้ำที่อยู่ในตุ่มหลังบ้านทุกตุ่ม แล้วใช้มันรดต้นไม้ทุกต้นเอาไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่นางว่างจะมาจัดการสวนหลังบ้านในสวยงามเรียบร้อยกว่าที่เป็นอยู่ ต่อให้อยู่กับมารดาสองคน ชีวิตนางก็ต้องดี เมื่อเดินสำรวจรอบร้านเสร็จแล้ว พบว่าท่านแม่ของนางอยู่ในครัวน่าจะกำลังทำโจ๊กให้นางทาน นางจึงเข้าไปทักทายท่านแม่ “อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านแม่” เด็กน้อยวันหกหนาวเข้าไปสวมกอดมารดาจากทางด้านหลัง นางรู้ว่ามารดาคงยังเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น บางครั้งมักเห็นท่านแม่เหม่อลอย เช่นนั้นนางจะรักษาใจให้ท่านแม่เอง “ตื่นเช้าจังลูก แม่กำลังทำโจ๊ก แล้วเผื่อเจ้าสองแฝดข้างบ้านด้วย ไม่มีมารดาทำอาหารให้คงจะลำบากกัน เดี๋ยวลูกไปเรียกมากินด้วยกันนะ” ชุยชิงชิงตื่นแต่เช้าเห็นข้างร้านก็ตื่นมานึ่งซาลาเปาปั้นซาลาเปาแต่เช้า นางจึงยิ้มให้ทักทายแล้วไปตลาดซื้อของมาทำอาหารทั้งถ้วยจานตะเกียบ นางเอ็นดูเจ้าสองก้อนนั่นเหมือนลูกเหมือนหลาน “เจ้าค่ะท่านแม่” จื่อเถาเดินไปข้างร้านคารวะท่านลุงลู่จื้อก่อนจะถามหาเด็ก ๆ “เด็ก ๆ ตื่นหรือยังเจ้าคะ” “น่าจะตื่นกันแล้วคงจะปัดกวาดเช็ดถูอยู่ข้างใน อาเถาเจ้าก็ไปข้างในเถิด” ลู่จื้อให้เด็กหญิงตัวน้อยน่ารักวัยไม่ห่างจากบุตรชายมากเข้าไปเรียก เพราะตนนั้นกำลังยุ่งกับการปั้นซาลาเปาทั้งขายซาลาเปาไปด้วย “เช่นนั้นรบกวนท่านลุงแล้วนะเจ้าคะ” จื่อเถาโค้งให้อย่างมีมารยาทแล้วไปดูเด็ก ๆ ว่าทำสิ่งใดอยู่ แต่เมื่อเห็นเจ้าหนูน้อยที่ขยันขันแข็ง แต่ดูเหมือนมันจะอันตรายเกินไปจึงห้ามปราม “พวกเจ้าลงมาเถิด...อันตราย” เจ้าหนูน้อยปีนขึ้นไปปัดกวาดหยากไย่ด้านบน แต่ตัวเท่าลูกเจี้ยบแค่นี้ตกมาขาหักจะยุ่งเอา “พี่สาวจื่อเถา” สองแฝดเรียกอย่างดีใจที่พี่สาวข้างบ้านมาหา ทั้งคู่ไม่มีแม่แล้ว เขาย่อมต้องช่วยบิดาให้มาก นั่นจึงทำให้เขาทั้งสองช่วยกันทำงานบ้านที่พอทำได้แบ่งเบาภาระบิดา แต่เมื่อเห็นพี่สาวคนสวยเข้ามาหาจึงยิ้มแป้นลงมาแต่โดยดี “หิวกันหรือยัง ไปกินมื้อเช้ากันเถอะ แม่ข้าทำโจ๊กหมูอร่อยนะ” จื่อเถาเอาอาหารมาล่อทำให้ทั้งสองดวงตาเปล่งประกายพร้อมกับท้องที่เริ่มร้องแล้ว “ข้าอยากกินขอรับ” “ข้าด้วยขอรับ” ลู่หลงกับลู่จิ่นตอบกลับจื่อเถาแล้วรีบไปล้างมือเตรียมไปทานข้าวเช้าบ้านพี่สาวคนสวย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD