1 อาทิตย์ต่อมา
5.21 pm.
"แน่ใจจริงๆแล้วใช่ไหม?"
"แน่ใจสิ"
ฉันหันไปมองนามิที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ และวันนี้นามิอาสามาเป็นเพื่อนฉันแทนทีน่าที่ต้องไปกินข้าววันครบรอบกับแฟนมัน แต่เพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันจะเริ่มปฏิบัติการสร้างความร้าวฉานไงนามิเลยไม่อยากปล่อยให้ฉันมาคนเดียว
"เฮ้อ แล้วจะเริ่มยังไง?"
"ก็นัดไว้แล้วก็ต้องไปตามนัดก่อนถูกป่ะ"
นามิพยักหน้าตอบฉันขณะที่เรากำลังเดินไปตามทางถนนคนเดินขณะที่ตอนนี้ผู้คนกำลังหนาตา แต่เราก็เดินไปไม่นานหรอก เพราะจุดมุ่งหมายของเราวันนี้คือร้านสักเฮียทศยังไงล่ะ
พรึบ
"ร้านเฮียรับไพรม์ไทม์ด้วยแฮะ"
ฉันเพิ่งเห็นนะเนี่ย ฉันหันมองนามิในตอนที่เรากำลังเข้าร้านแต่เห็นใบปลิวรับสมัครพนักงานไพรม์ไทม์ที่ติดอยู่หน้าประตูก่อน นามิเลิกคิ้วมองก่อนจะเหลือบมองฉัน
"จะสมัครไหม?"
"น่าสน"
"สมัครเลยดิจะได้สร้างความร้าวฉานให้เขาได้สะดวก"
"พูดถูกใจแฮะ"
"จะห้ามก็ไม่ได้แล้วแหละ เพราะงั้นเอาให้สุดไปเลยเพื่อน"
ฉันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในร้าน
"กูรอชั้นหนึ่งนะ"
"โอเค"
ฉันพยักหน้าตอบนามิในตอนที่เราเดินเข้าไปในร้านสักของเฮียทศ ก่อนที่พนักงานที่ชื่อน้องโบนัสจะเงยหน้ามามองฉันที่กำลังยิ้มทักทายอยู่
"สวัสดีครับพี่ใช่คุณอลิซที่นัดไว้ใช่ไหมครับ?"
"ใช่ค่ะ พี่นัดคุยเรื่องรอยสักน่ะ"
"โอเคครับ เฮียรอที่ชั้นสองห้องสักนะครับ"
"ค่ะ แต่ขอถามเรื่องพนักงานไพรม์ไทม์หน่อยได้ไหมคะ พอดีสนใจอยากสมัครน่ะค่ะ"
"อ่อ ถ้าสนใจสมัครถามเฮียได้เลยครับตอนนี้ยังไม่ได้คนเลย"
"ขอบคุณนะคะ"
"ไม่คิดนะครับว่าจะสนใจทำงานด้านนี้ด้วย"
"พอดีช่วงนี้ว่างน่ะค่ะเลยอยากหารายได้เสริม ขอบคุณที่แนะนำนะคะ"
"ครับ"
น้องโบนัสยิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง และดูก็รู้ว่าเธอกำลังชื่นชมกับการที่ฉันเป็นคนน่ารักแถมยังอัธยาศัยแบบนี้อีก ฉันเดินขึ้นบันไดแคบๆไปที่ชั้นสองและครั้งนี้ฉันไม่ได้เข้าห้องผิดแน่นอนถึงจะอยากเข้าไปทางฝั่งห้องนอนขนาดไหนก็ตามน่ะนะ
ยังก่อน จะเข้าถ้ำเสือทั้งทีต้องใจเย็นๆ
ก๊อกๆ
"เชิญครับ"
ฉันเปิดประตูเข้าไปทันทีที่คนด้านในตอบกลับมา ก่อนเฮียทศที่กำลังยืนจัดอุปกรณ์การสักของเขาจะหันมามองฉัน และพยักหน้าทักทายอย่างมีมารยาท...ดูความน่าเกรงขามของเขาสิ
"นั่งรอที่โซฟาก่อนนะครับ"
"ค่ะ"
ฉันเดินประสานมือตัวเองไปที่โซฟา ก่อนจะมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้า วันนี้เฮียเขาก็ยังใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนขาขาดๆเช่นเคยแต่ที่แปลกไปคือหนวดเคราเขากำลังขึ้น..เหมือนเขาปล่อยตัวหน่อยๆนะ สงสัยเพราะงานเยอะ
"ขอโทษที่ให้รอนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ นานเท่าไหร่ก็รอได้"
เฮียหรี่ตาลงนิดๆ แต่มันก็แค่แวบเดียวเพราะทันทีที่เขาเดินเข้ามานั่งที่โซฟาตัวตรงข้ามกับฉันเขาก็หันมองสบตาฉันด้วยแววตานิ่งเรียบเหมือนเดิม
"โบนัสบอกว่าน้องอยากเข้ามาขอคำแนะนำเรื่องการสัก"
"ค่ะ อลิซสนใจอยากจะสักลายกับเฮีย"
"เอ่อ..เรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับ"
"ไม่ได้สิคะคนอื่นๆยังเรียกพี่ทศว่าเฮียได้เลย อีกอย่างอลิซตามงานเฮียมาเยอะมากอลิซเลยนับถือเฮียมากเลยน่ะค่ะ"
ฉันยิ้มให้เฮียทศด้วยแววตาใสซื่อขณะที่เขาก็มองฉันด้วยแววตานิ่งเรียบเหมือนเคย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยักหน้าตอบ
"ขอบคุณนะครับที่สนใจงานของผม แล้วคุณอลิซเคยสักมาก่อนไหมครับ?"
ฉันส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมองสบตาเฮียทศไม่ละไปไหน
"ไม่เคยสักมาก่อนเลยค่ะ"
"อ่า โอเคงั้นอยากให้เฮียแนะนำยังไงบ้างล่ะ?"
"อื้ม อลิซอยากให้เฮียออกแบบลายสักให้"
"ถ้าออกแบบต้องใช้เวลานานหน่อยนะ"
"นานเท่าไหร่ก็รอได้ค่ะขอแค่สวย"
"แล้วเราอยากสักตรงไหนเป็นพิเศษไหม?"
"อื้ม..ช่วงบิกินี่ไลน์ไม่ก็สะโพกด้านหลังค่ะ"
เฮียเหลือบมองฉันทันทีที่ฉันตอบไปแบบนั้น
"สะโพกด้านหลังไม่ค่อยเจ็บนัก แต่ช่วงบิกินี่ไลน์ค่อนข้างเจ็บเลยนะเพราะมันเป็นช่วงเนื้อ เฮียว่าถ้าสักครั้งแรกมันอาจจะทนยากหน่อยๆ"
"เหรอคะ แต่อลิซอยากได้จุดที่เซ็กซี่น่ะแล้วเฮียคิดว่าไงคะ?"
"ครับ?"
เฮียเลิกคิ้วมองฉันที่ถามออกไปแบบนั้นด้วยความสงสัย ขณะที่ฉันกำลังยิ้มให้
"ก็เฮียคิดว่าตรงไหนจะเซ็กซี่กว่ากันล่ะคะระหว่างบิกินี่ไลน์กับสะโพกหลัง"
ฉันเลิกคิ้วมองสบตาเฮียทศขณะที่เขากำลังมองตรงมาที่ฉันด้วยสายตาดุดัน และสายตาเขาตอนนี้กำลังมองมาเหมือนกำลังดุฉันที่ถามอะไรไม่เข้าท่าอยู่เลย...คงเพราะตอนนี้ฉันเป็นว่าที่ลูกค้าเขาสินะเขาเลยเงียบไปแบบนี้
"ถ้าสักครั้งแรกเฮียแนะนำสะโพกหลังนะ จุดนั้นคนสังเกตง่ายถ้าอยากจะโชว์รอยสักก็โชว์ได้ตลอด"
"แล้วมันเซ็กซี่กว่าตรงบิกินี่ไลน์ไหมล่ะคะ?"
"อืม สำหรับเฮียตรงสะโพกหลังเซ็กซี่กว่า"
"แบบนี้ค่อยน่าสักหน่อย"
ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะที่เฮียก็พยักหน้าตอบ
"แล้วอยากได้ลายสักแนวไหน?"
"ดอกไม้ค่ะ แต่ขอแบบพลิ้วไหวอื้ม..มองแล้วรู้สึกถึงความสวยจนน่าลุ่มหลง"
"อ่าฮะ โจทย์ไม่ยากเฮียน่าจะใช้เวลาไม่เยอะเพราะงั้นลงคิวเลยไหม?"
"ค่ะ"
"แต่ก่อนที่จะลงคิวขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?"
"ได้สิคะ"
เฮียทศมองฉันด้วยสายตานิ่งเรียบขณะที่ฉันกำลังรวบผมตัวเองทิ้งไปด้านหลังพร้อมกับเอียงใบหน้ามองเขา
"ที่มาสักเพราะอะไร อกหักมาเหรอ?"
"เปล่าค่ะ ที่อยากสักเพราะอยากรู้ว่าความรู้สึกตอนโดนแทงมันเป็นยังไง"
เฮียหรี่ตามองฉันในตอนที่ฉันตอบเขา ก่อนฉันจะเบิกตาและหัวเราะออกมาเบาๆ
"โอ๊ะ หนูหมายถึงเข็มนะคะมันคงจะเจ็บน่าดู"
"แต่มันเจ็บจริงๆนะ อีกอย่างเฮียไม่ได้ทายาชาให้ด้วยแน่ใจเหรอว่าจะไหว?"
"ไหวสิคะ ถ้าไม่ไหวอลิซไม่มาหรอก"
"โอเค งั้นเฮียลงคิวให้แล้วจะส่งความคืบหน้าให้เรื่อยๆนะ"
"อลิซเห็นว่าร้านเฮียรับสมัครงานไพรม์ไทม์"
"อ่อ ช่วงนี้โบนัสมันเรียนหนักน่ะเลยอยากหาคนมาช่วยงานโบนัสเวลามันติดเรียน"
"อลิซสมัครได้ไหมคะ?"
คราวนี้ฉันทำให้เฮียมองด้วยความประหลาดใจได้แหละ เฮียขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะยกยิ้ม
"อยากสมัครเหรอ?"
"เห็นว่ายังไม่ได้คนหนิคะ อีกอย่างช่วงนี้อลิซว่างมากกำลังหางานเสริมอยู่ค่ะ"
"อืม..ไงดีล่ะมันไม่ได้เงินเยอะอย่างที่คิดนะ"
"ไม่เป็นไรเลย อีกอย่างอลิซเองก็อยากดูงานของเฮียใกล้ๆด้วยเพราะงั้นขอสมัครได้ไหมคะ?"
"โอเค งั้นถ้าสนใจก็ส่งตารางเรียนให้โบนัสแล้วก็ข้อมูลส่วนตัวอีกนิดหน่อยนะ"
"ค่ะ หวังว่าเฮียจะรับนะคะ"
"ถ้าอยากทำงานจริงๆเฮียก็รับครับ"
"อยากทำสิคะ ถ้าเฮียให้โอกาสอลิซจะไม่ทำให้ผิดหวังเลย"
ฉันยิ้มกว้างมองเฮียทศขณะที่เขาก็พยักหน้าตอบฉันด้วยรอยยิ้ม ก่อนเราจะคุยรายละเอียดเรื่องงานต่ออีกนิดฉันจึงแยกลงมาส่งเอกสารให้โบนัสรับไว้อีกที
"ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะโทรบอกนะครับว่าได้งานหรือไม่ได้"
"โอเคค่ะ ยังไงก็ฝากให้เฮียเอ็นดูอลิซด้วยนะคะ"
"โห พี่อลิซน่ารักขนาดนี้ต้องได้ทำแน่นอนสิครับผมจะช่วยพูดอีกแรง"
"ขอบคุณนะคะ"
ฉันก้มหัวขอบคุณน้องโบนัส ก่อนจะหันหลังเดินไปหานามิที่กำลังนั่งรออยู่ เพื่อนสาวฉันลุกขึ้นยืนและเดินออกมาจากร้านพร้อมกับฉันซึ่งในตอนนี้ด้านนอกฟ้าก็เริ่มอับแสงไปเยอะแล้ว
"ล่าสุดสมัครงานไปแล้ว"
"ก็บอกแล้วไงว่าถ้าอยากได้พ่อเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือ"
"แหม คนอื่นมีแต่เขาอยากได้ลูกเสือแต่มึงอยากได้พ่อเสือเลยเหรอ?"
"แน่นอน เอาไปทำไมลูกน่ะในเมื่อพ่อเร้าใจกว่าเยอะ"
นามิที่กำลังควงแขนฉันเดินไปตามทางถนนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะมองหน้าฉันด้วยรอยยิ้ม
"แล้วคิดดีแล้วเหรอที่จะสักน่ะ?"
"คิดดีแล้ว ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากูคิดดีทุกวัน"
"โอเค แล้วเรื่องแฟนเฮียล่ะยังไง?"
"ยัยนั้นนอกใจเฮียจริง แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผู้ชายนั้นคือใครเพราะสองคนนั้นระวังตัวกันมาก"
"แล้วถ้ามึงได้เข้าไปทำงานกับเฮียมึงจะยังไงต่อ?"
"กูก็จะสืบต่อจนรู้ให้ได้ไงว่ายัยนั้นนอกใจเฮียไปหาใคร แล้วก็จะทำทุกทางให้เฮียรู้ให้ได้ว่าตัวเองกำลังโดนนอกใจอยู่"
"ลงทุนขนาดนี้กูหวังว่าจะสำเร็จนะ"
"กูเททั้งหน้าตักขนาดนี้ถ้าพลาดก็ไม่เป็นไร"
"จริงอ่ะ?"
"อืม ก็เตรียมใจรับความผิดหวังไว้อยู่สามสิบเปอร์เซ็นต์แต่อีกเจ็ดสิบคือหวังเลยว่าจะต้องสำเร็จ"
"โอเคถ้ามึงว่างั้นกูก็ว่าตาม"
ฉันหัวเราะออกมาอย่างขำๆ และเดินไปตามทางถนนคนเดินต่ออย่างอารมณ์ดี ยิ่งคิดถึงตอนที่ได้นั่งคุยกับเฮียแล้วฉันยิ่งชอบตัวเองตอนนั้นเลย เขาทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นได้ง่ายๆด้วยสายตาดุดันนั้นของเขา
เฮียทศเขาเป็นคนที่มีเซ็กแอพเพียลต่อฉันสูงมาก เขาสามารถดึงดูดฉันได้มากขนาดนี้ทั้งที่เขายังมีแฟนอยู่แล้วได้อีกอ่ะ..ให้ตาย ฉันอยากจะได้เขามาเป็นของตัวเองเร็วๆจัง
อีกด้าน
"เฮียทศ!"
"อืมว่าไง?"
ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นที่กำลังเดินลงจากบันไดเลิกคิ้วมองพนักงานในร้านตัวเองที่เรียกเอาไว้ด้วยความสงสัย
"เฮียตกลงรับพี่อลิซเข้าทำงานเลยไหม?"
"ยังไม่ได้คิด?"
"หูยเฮีย เอาพี่อลิซนี่แหละโบนัสว่าเธอทั้งดูน่ารักและแฟรนด์ลี่มากๆแบบนี้รับรองดูแลลูกค้าเฮียได้ไม่ขาดตกบกพร่องแน่"
"เธอตรงสเปกเอ็งมากเลยสินะ"
"ครับ?"
"ก็ดูจะชอบมากไง"
"โถ่ ผมแค่สแกนคนช่วยเฮียเท่านั้นเองรับเธอเถอะเฮียดีกว่าพวกตัวโตๆมาสมัครเป็นไหนๆ นะนะ"
"เดี๋ยวดูอีกที พรุ่งนี้ให้คำตอบโอเคไหม?"
"ครับ เร็วๆนะเฮียเดี๋ยวโบนัสติดงานอีกจะแย่เอานะ"
"ทั้งขู่ทั้งเชียร์แบบนี้โทรไปบอกเธอเองเลยดีไหมว่ารับแล้ว"
"โถ่เฮียก็ โบนัสก็แค่ช่วย"
"เออๆ เดี๋ยวเฮียไปร้านก่อนเคลียร์คิวลูกค้าเสร็จปิดร้านเลยนะ"
"โอเคครับ สวัสดีนะครับเฮีย"
เฮียทศพยักหน้าตอบ ก่อนเขาจะเดินออกมาจากร้านและมองตามทางที่เขาคิดว่าเด็กที่ชื่ออลิซจะเดินไป เธอนัดวันนี้เพื่อคุยเรื่องรายละเอียดการสักแต่ไปๆมาๆกลับขอสมัครงานด้วย ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเพราะคนตัวเองก็ขาดจริงๆ
แต่เธอมีเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจที่จะรับอยู่น่ะสิ
"ทศ!"
เสียงของคนรักของทศที่เอ่ยเรียกทำให้เขาหลุดจากภวังค์ ก่อนเขาจะหันไปยิ้มให้ร่างเพรียวที่กำลังเดินยิ้มมาพร้อมกับเพื่อนรักของเขา
"ทำไมมาพร้อมกันได้ล่ะ?"
"บังเอิญเจอกันที่จอดรถน่ะ ก็อตมันบอกว่าคิดถึงทศเลยแวะมาหา"
"มันมาหาเบียร์ฟรีกินมากกว่า"
เจ้าของชื่อที่เพิ่งโดนล้อหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนร่างสูงของก็อตจะเดินไปกระทบไหล่ทักทายทศด้วยความสนิทสนมตามประสาคนเป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปี
"ก็ช่วงนี้ไม่มีเงินนี่หว่า เพราะงั้นวันนี้เลี้ยงข้าวด้วยดิเฮีย"
"ทศอย่าเลี้ยงก็อตนะ น่าเกลียดเวอร์มาขอกินซึ่งๆหน้าแบบนี้"
เมจิเห็นแบบนั้นได้แต่เบะปากใส่ก็อต และเดินไปกอดแขนทศไว้อย่างออดอ้อนก่อนทั้งสามจะเดินคุยกันไปตามถนนคนเดินจนถึงร้านอาหารของทศที่อยู่ห่างจากร้านสักไปไม่ถึงห้าร้อยเมตร
เวลาต่อมา
พรึบ
"โว้ ขอบคุณฮะเชฟอาหารละลานตาไปหมดแล้ว"
"กินเถอะอย่าพูดมากเลย"
ทศนั่งลงบนโซฟา และหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มท่ามกลางสายตาของแฟนและเพื่อนตัวเองที่กำลังมองอยู่ด้วยรอยยิ้มหลังทศอาสาเข้าครัวทำอาหารเย็นให้กิน และทศมักเป็นพ่อครัวเสมอเวลาอยู่กันแบบนี้
"ทศคะ"
"ว่าไงเมจิ"
"เดี๋ยวเมจิมานะไปคุยเรื่องงานแป๊บนึง"
"อืม"
เมจิยิ้มบางๆก่อนเธอจะขยับไปหอมแก้มทศเบาๆ และเดินออกไปทำให้ตอนนี้บนโต๊ะอาหารเหลือแค่ทศกับก็อตนั่งดื่มกันอยู่
"ปีนี้ว่าไง?"
"อะไร?"
"เอ้า งานแต่งสิวะจะขอเมจิตอนไหนกูเห็นมึงทำงานงกๆก็เพราะเก็บเงินแต่งเธอไม่ใช่รึไง?"
"เมจิยังไม่อยากแต่งว่ะ"
"ฮะ?"
"กูขอไปแล้วเมื่อต้นปี แต่เธอยังสนุกกับการทำงานอยู่กูเลยพักไว้ก่อนน่ะ"
"คบกันมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมเมจิยังไม่ยอมแต่งสักทีวะ"
"เธออาจกำลังสนุกอยู่กับการทำงานจริงๆไง แล้วอีกอย่างก็เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเพราะงั้นให้เธอสนุกไปก่อน"
"แล้วเมื่อไหร่กูจะได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสักทีล่ะเนี่ย"
"มึงก็แต่งเองซะสิ"
คำพูดของทศเรียกเสียงหัวเราะจากก็อตได้เป็นอย่างดี ก่อนทั้งสองจะคุยกันสัพเพเหระต่อตามประสาเพื่อนจนเมจิเดินกลับเข้ามา
"พรุ่งนี้มีบินด่วนนะ"
"ไหนว่าว่างเป็นอาทิตย์"
"เด็กเกิดอุบัติน่ะสิ ขอโทษจริงๆเดี๋ยวกลับมาชดเชยให้นะ"
ทศมองเมจิด้วยสายตาไม่พอใจนัก แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเมจิอีกครั้งเพราะสายตาออดอ้อนของเธอที่กำลังมองมา เพราะเขาแพ้ลูกอ้อนเธอแบบนี้ไงเธอเลยได้ใจแล้วหนีไปทำงานได้ตลอดน่ะ
จริงๆทศไม่ใช่ไม่เหงานะที่ต้องห่างกับคนที่ตัวเองรักบ่อยๆ แต่เขาต้องเข้าใจว่าเธอต้องทำงานสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวในตอนนี้คือต้องอดทนเท่านั้น