บทที่ 3 เรื่องของเรามันยังไม่เสร็จ

1492 Words
ข้าวหอมและเพื่อนเลือกที่จะนั่งห่างจากพี่ออสติน ให้ไกลสุดล่า เรียกได้ว่าคนละมุมห้องเลยทีเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดที่ไม่ควรจะเป็นอีก แต่แล้วคนที่นั่งด้านข้างเธอดันลุกขึ้นไปนั่งข้างหน้า และเหมือนเปิดทางให้คนที่เธอเรียกว่าคู่ซ้อมได้เปลี่ยนที่มานั่งใกล้เธอ แรงลมจากร่างสูงที่กระทบร่างกายของสาวสวยอย่างข้าวหอม ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงสุดขั้วหัวใจ แต่เธอก็พยายามทำเป็นไม่รู้จักเขา แล้วหยิบชีทเรียนขึ้นปิดบังใบหน้า แต่ต่อให้เลี่ยงยังไงคนที่อยากรู้จักเธอก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไป เสียงนุ่มหูที่เมื่อก่อนอยากได้ยินกลับทำให้เธอสะดุ้งเมื่อเขาเอ่ยทัก “สวัสดีครับน้องสามพัน” หญิงสาวที่เคยมั่นใจในตัวเองถึงกับมือไม้อ่อน เมื่อเขาทักทายเธอด้วยถ้อยคำที่เรียกได้ว่าน่าเกลียดที่สุด คล้ายกับดูถูกเธอซึ่งหน้า “เราชื่อข้าวหอม” เสียงเล็ดลอดไรฟันบอกออกไปเพื่อให้เข้าใจถูกต้อง มาเรียกเธอว่าสามพันได้ยังไงกันฟังดูน่าเกลียด สาวขายบริการเบอร์ตองยังราคาแพงกว่านี้เลยด้วยซ้ำ เขาตีค่าเธอแค่นี้มันเหยียดหยามศักดิ์ศรีสาววิทยากันเกินไป “นั่นน่ะสิ อย่างน้องข้าวหอมเนี่ย สามพันพี่ว่ามีทอนนะ” ‘กรี๊ด! สาบานว่านี่ปากผู้ชาย หยาบคายมาก’ ข้าวหอมมองคนหน้าด่าด้วยสายตา ไม่กล้าพูดออกไปมากกว่านี้ ทั้งที่เมื่อก่อนอยากจะคุยเสียเต็มประดาว่าได้กับพี่ออสตินแล้ว แต่แม่งพอได้แล้วไม่นึกว่าจะเห่าเก่ง ดูถูกผู้หญิงที่นอนด้วยแบบนี้เหรอ มิน่าล่ะถึงไม่มีแฟน ปากแบบนี้แถมข้าวสารให้ยังต้องคิดเลย “จริงไหมล่ะ” “ไม่จริง” ข้าวหอมเถียงทันควัน เมื่อเขาเปิดโอกาสให้แก้ตัว แต่ทว่าพูดไปแล้วดันใส่อารมณ์มากไปหน่อย ทำให้เพื่อนรอบข้างหันมามองเป็นตาเดียว แล้วนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเขินเล็กน้อยเมื่อมีสายตาหลายคู่หันมา แต่คนต้นเรื่องกลับทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ‘ฝากไว้ก่อนเถอะ’ ข้าวหอมทำปากขมุบขมิบแล้วด่าในใจ แต่ยิ่งเห็นเสี้ยวหน้าก็คิดถึงแต่อาวุธประจำกายอันแสนใหญ่โตของเขา มันเป็นภาพจำที่สลัดไม่หลุดสักที จากที่เคยพูดว่าได้เขาสักทีจะตั้งใจเรียน กลายเป็นว่าได้แล้วไม่มีสมาธิเรียนเสียอย่างนั้น เมื่อคนที่คิดถึงนั่งอยู่ใกล้กับเนื้อหาที่แสนจะไม่เข้าใจบนกระดาน ที่อาจารย์พูดไปเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาคล้ายคนสมองเบลอไปแล้ว แต่เมื่อใกล้จบคลาสเรียน คนด้านข้างก็หันมากระซิบ “ไหนว่าได้สักทีจะตั้งใจเรียน สงสัยต้องมีซ้ำ” ข้าวหอมชะงักกึกทันที เหมือนอีตาออสตินนี่นั่งอยู่ในใจเธออย่างนั้น เพราะหัวเธอคิดแต่เรื่องอื่นไม่คิดถึงเรื่องเรียนเลยด้วยซ้ำ แต่แล้วเมื่อหันมาเห็นชีทเรียนของตัวเองที่มีภาพน่าอายจากการขีด ๆ เขียน ๆ มั่ว ๆ แต่ดันไปเหมือนภาพส่วนนั้นของเขา จึงต้องรีบปิดชีทเรียนหนีอายทันที “ถ้าติดใจอีกก็ได้นะ” “ตะ...ติด...ติดอะไรไม่รู้เรื่อง” แน่นอนว่าเธอทำแกล้งไขสือเก่งที่สุด ทั้งทำเบลอใส่จะได้ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง วันนั้นอีก “ถ้าอยากรู้เรื่องก็มาหาพี่ที่ห้องสิ ห้อง 304” หลังเลิกคลาสแล้วเสียงที่บอกเลขที่ห้องยังดังก้อง ในหู จนข้าวหอมต้องสลัดศีรษะไปมาให้มันหลุดจากหัวสักที ทั้งที่เป็นเรื่องที่ตัวเองไม่อยากจำ แต่กลับท่องได้ขึ้นใจยิ่งกว่าตัวเลขบัตรประชาชน “ข้าวหอมเป็นอะไรเพ้อหาผัวหรือไง นั่งติดกันแล้วคิดถึงเหรอ” ยังเป็นอบเชยที่พูดอะไรโดนใจไปหมดราวกับนั่งอยู่ในใจ แต่คนอย่างข้าวหอมเหรอจะยอมรับ “บ้าใครคิดถึงเขากัน ฉันกำลังคิดเรื่องที่เรียนวันนี้อยู่ต่างหาก” ลลินกับอบเชยมองหน้ากันแล้วแบะปาก ก่อนจะพูดแซะออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน “ตอแหล!” ใช่ใครมันจะไปรู้ดีเท่าเพื่อนสองคนนี้อีกเล่า แต่เรื่องอะไรจะยอมรับล่ะ หลังกินข้าวกลางวันเสร็จต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับคอนโด ซึ่งคอนโดทั้งสามอยู่ในละแวกเดียวกัน เพียงแต่คอนโดของข้าวหอมจะหรูที่สุด เพราะพ่อกับแม่ไม่ค่อยมีเวลามาดูแลลูกสาว จึงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก แต่หารู้ไม่ว่านั่นมันจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพราะเมื่อเห็นคนใส่แว่นที่คุ้นเคยกันดี กำลังเดินตรงเข้ามาในลิฟต์พร้อมกับมองเธออย่างต้องการเอาเรื่อง “นี่พี่ตามเรามาถึงคอนโดเลยหรือไง” “เราหรือเปล่าที่ตามพี่มา” ออสตินกดยิ้มมุมปากมองคนด้านข้างด้วยแววตาใสซื่อ แต่ทว่าสีหน้าต่างกับแววตาอย่างสิ้นเชิง “ติดใจงั้นสิ” ความมั่นหน้าในการนอนแข็งเป็นหินของข้าวหอม ยังมีหน้าตีฝีปากกล้าท้าทายเขา แต่แล้วก็โดนเขาย่างสามขุมเข้ามา พร้อมยกแขนกักเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน “เราหรือเปล่าที่ติดใจ...” ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะเอ่ยประโยคถัดไป เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นก่อน ติ๊ง! ไวกว่าความคิดเพราะห้องของเขาถึงก่อน จึงจับข้อมือยายตัวแสบที่ให้ค่าตัวเขาแค่สามพันออกมาจากลิฟต์แล้วแตะบัตรเข้าไปในห้องทันทีแบบไม่ทันได้ร้องให้คนช่วย “กรี๊ด! พี่จะทำอะไรน่ะ” “ไม่เอาเหรอเงินทอนน่ะ” เขาผลักยายตัวแสบเข้าห้อง แล้วจัดการล็อกประตูอย่างแน่นหนา จากนั้นก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมทีละเม็ดด้วยรอยยิ้มเหี้ยม จนคนมองรู้สึกกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก “ดะ...เดี๋ยวพี่ออสตินใจเย็น ๆ คือว่า...” “วันนั้นหนีทำไม ไม่ถึงใจเหรอ” พูดพร้อมกับสะบัดเสื้อนักศึกษาทิ้งไปที่พื้น ก่อนจะจับยายตัวดีมาคุยกัน บนเตียง และเขาจำได้ว่ายายนี่ติดค้างเรื่องที่บอกว่าจะอมเขาทั้งคืน “ปะ...เปล่ามันดี...มันดีมากถึงขนาดให้ค่าตัวเลยไง” ข้าวหอมเห็นทางรอดเดียวคือต้องชมเท่านั้น อวยให้สุด “สามพัน?” พูดแล้วก็หัวเสียเขาทำให้ขนาดนั้น กลับให้ค่าตัวเขาแค่สามพัน มันดูถูกกันไปหน่อยหรือเปล่า “หรือพี่จะเอาอีกล่ะ วันนั้นหนูมีเงินเท่านั้นไงก็เลยให้แค่สามพัน หากพี่เอาอีกเดี๋ยวหนู...” ข้าวหอมทำท่ารื้อค้นกระเป๋าหาเงิน แต่ทว่ากลับโดนอีกคนจับมันโยนส่ง ๆ ไปที่พื้น แล้วผลักเธอให้นอนราบกับเตียงนอน “ดะ...เดี๋ยวก่อน” ข้าวหอมรู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมหากโดนของใหญ่อีกครั้งมีหวังได้จุกแน่ แต่เหมือนอีกคนจะไม่ฟังเธอ ใบหน้าคมคายของเขาซุกไปตามซอกคอขาวผ่อง คล้ายอยากสำรวจบางอย่างจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “จางเร็วไปนะ อุตส่าห์ทำรอยไว้” สมองอันแสนเบลอของข้าวหอมประมวลผลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาหมายถึงรอยอะไร สองมือของข้าวหอมรีบตะปบคอเสื้อทันที หากเขาทำรอยอีกพรุ่งนี้มีเรียนเธอต้องโดนเพื่อนล้อแน่ ๆ “พอแล้ว...ลุกออกไปได้แล้วจะกลับห้อง” “คิดว่าเข้ามาในห้องนี้แล้วจะออกไปได้ง่าย ๆ เหรอ ห้องเธอ 404 อยู่ด้านบนแค่นี้มันไม่หนีไปไหนหรอก ไม่สู้มาเล่นอะไรสนุก ๆ กันก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” ออสตินไม่เคยของขาด แต่ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาติด ติดจนสามวันแล้วก็ยังไม่เลิกคิดถึงความขาวอมชมพูของร่องสาวอันน่ามอง จนอยากจะยกซดอีกสักครั้ง “ระ...รู้ด้วยเหรอ” “มีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วไม่รู้บ้างล่ะ” คราวนี้ข้าวหอมเหมือนรู้ว่าเล่นผิดคนแล้ว แต่ว่าเขาขึ้นชื่อเรื่องกินไม่ซ้ำนี่ แล้วกับเธอนี่เรียกอะไร “ละ...แล้วลากฉันเข้าห้องมาทำอะไรล่ะ” เหมือนเป็นคำถามที่โง่ที่สุด แต่ว่าถามออกไปแล้วก็ต้องกัดริมฝีปาก “ก็มาทำเรื่องของเราให้เสร็จยังไงล่ะ” “สะ...เสร็จอะไร เราเสร็จแล้วนะวันนั้น” “แต่ยังไม่สุด วันนี้เอาให้สุดไปเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD