ผิงหยางได้โหลมาดองไข่เค็มสิบห้าโหล พวกเขาทั้งสามตกลงทำการค้าร่วมกัน โดยลงขันเท่า ๆ กันเมื่อเป็นเช่นนี้ผิงหยางคิดว่าหากตนมีหุ้นส่วนในการทำงานก็ไม่ได้แย่ โลกที่ผ่านมาของเขา มีบริษัทมากมายที่ลงหุ้นกันทำการค้าหรือบริษัท ดีเสียอีกที่เขาจะได้มีคนดูแล แล้วคิดไข่เค็มจะเป็นสินค้าหลักบ้านโม๋หลัว โดยที่แรกที่เขาจะค้าขายคือองค์ชายสามของแคว้น เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็ตกลงทันที และแบ่งตำลึงลงเท่า ๆ กันโดยเขาซื้อถุงตำลึงวางไว้เป็นส่วนกลาง เนื่องจากสองพี่น้องไม่รู้หนังสือ ผิงหยางจึงเป็นผู้จดบันทึกทำบัญชี แล้วเขาก็ไม่ลืมที่จะไปซื้อเครื่องเขียนและสมุดบันทึก ผิงหยางตอนแรกแค่จะทดลองแต่เมื่อสหายของเขาอยากร่วมการค้าเช่นนั้นเขาก็จะเอาตามนี้ แล้วคิดอีกอย่างคือเด็กในหมู่บ้านควรจะได้รู้หนังสือ ต่อให้มีใจใฝ่การค้าหรืออยากสอบขุนนาง ชาวบ้านจน ๆ จะมีตำลึงส่งตัวเองเรียนได้อย่างไร เรื่องนี้เขาต้องกลับไปคิดว่าพอจะมีทา