"มิล..."
อรปรียาเอ่ยทักคนที่เธอจำได้ทันทีที่เห็นเพียงด้านหลัง คนที่สร้างบาร์สูงลิ่วเอาไว้ให้เธอ ทำให้เธอไม่สามารถคบใครได้อีกหลังจากที่เลิกกัน
"ไม่เจอกันนานเลยนะ" ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีรามิลก็ยังเป็นผู้ชายที่โดดเด่นอยู่เสมอ แม้จะอยู่กับคนหมู่มากเขาก็ยังเด่นกว่าคนอื่น
"ออยสบายดีนะ" รามิลเอ่ยถาม อดแปลกใจไม่ได้ที่อีกฝ่ายเข้ามาทัก
"สบายดี" อรปรียาตอบเสียงใส ตั้งใจยิ้มหวานให้คนตรงหน้า "แล้วมิลล่ะมีคนใหม่ยัง ตอนนี้คบกับใครอยู่รึเปล่า"
ยอมรับว่าตอนเลิกกันเธอโกรธเขามาก แต่นั้นมันก็ผ่านมาสองปีแล้ว
เป็นสองปีที่ทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายที่สมบรูณ์แบบทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ และการศึกษาไม่ได้หากันได้ง่ายๆ การเลิกกับรามิลคือความผิดพลาดอย่างหนึ่งในชีวิตเธอ
และเธอก็อยากจะแก้ไขมัน
"ออยยังโสดนะ รอคนแถวนี้อยู่" ถึงจะเป็นการพูดในเชิงแซวเล่น แต่เชื่อเถอะว่าเธอหวังให้มันเป็นจริงทุกคำ
"มาทานข้าวเหรอครับ"
อรปรียารู้ว่ารามิลเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามของเธอ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร...อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะเลี่ยงเธอได้อีกกี่ครั้ง
ในเมื่ออรปรียาเคยจีบเขาติดมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำไมเธอจะจีบเขาติดเป็นครั้งที่สองอีกไม่ได้
"ถ้าออยบอกว่าเข้ามาเพราะเห็นคุณในร้าน?" อรปรียาไม่ได้โกหก เธอเข้ามาในร้านนี้เพราะเห็นรามิลอยู่ในร้านจริงๆ "ออยเข้ามาในร้านนี้เพราะเห็นคุณค่ะ"
คำพูดของอรปรียาทำให้รามิลนิ่ง ก่อนจะเอ่ยชวนอีกฝ่ายให้นั่งร่วมโต๊ะ "นั่งด้วยกันสิครับ"
"ขอบคุณค่ะ" อรปรียาไม่ลังเลที่จะนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอีกฝ่าย ยังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้ได้ร่วมโต๊ะกับเขา
และถ้ารามิลนัดกับเพื่อนเอาไว้ เธอจะขอร่วมโต๊ะยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด
"มิลยังทำงานที่ดีลักซ์เหมือนเดิมรึเปล่า?" ถึงจะเลิกกัน แต่อรปรียายังติดตามข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของเขาตลอด เธอรู้ว่ารามิลยังทำงานที่ดีลักซ์เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือตำแหน่งงานของเขาที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าฝ่ายวิศวะกรรมของบริษัทชั้นนำอย่างดีลักซ์ไม่ใช่จะเป็นกันได้ง่ายๆ
นอกจากจะเก่งแล้ว เส้นสายก็ยังเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งรามิลก็มีครบทั้งสองอย่าง
"ครับ"
“ลูกพี่ลูกน้องออยก็เพิ่งไปเซ็นสัญญากับดีลักซ์มา เห็นบอกว่าคุณเป็นคนสัมภาษณ์เขาด้วย” อรปรียาตั้งใจจะใช้ข้ออ้างนี้ในการโทรหาเขา ไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาก่อน
“ครับ” รามิลพยักหน้ารับ ไม่คิดที่จะถามต่อว่าญาติของอีกฝ่ายเป็นใคร “ถ้าเวลาว่างตรงกันผมก็จะเข้าสัมภาษณ์ด้วย”
เพราะบริษัทมีนโยบายในการรับงานใหม่ ทำให้วิศวะกรที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น
“มิลจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าญาติออยชื่ออะไร”
“ถ้าเขาทำงานที่ดีลักซ์จริง ต่อไปผมก็คงรู้จัก”
อรปรียาถึงกับหน้าเสีย แต่ก็ยังฝืนยิ้ม ความคิดที่จะฝากฝังญาติกับคนตรงหน้าต้องหยุดลงทันที
เธอรู้สึกว่ารามิลค่อนข้างรักษาระยะห่างและระดับการพูดกับเธอ เขาทำเหมือนเธอเป็นคนอื่น ทั้งที่เธอพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนกับตอนที่คบกัน แต่เขากับพยายามที่จะเว้นช่องว่างเอาไว้ และปิดประตูของเธอทุกบาน
"คิดยังไงคะมานั่งทานข้าวคนเดียว
เมื่อเขาไม่เปิดโอกาสให้คุยเรื่องานต่อ เธอก็ต้องหาเรื่องใหม่มาคุยแทน
"ผมนัดเพื่อนไว้ แต่มันดันมีเคสด่วนเลยมาไม่ได้"
"ใครคะ"
"ครับ?"
"เพื่อนคุณ ออยจะได้ไปขอบคุณเขาที่มาไม่ได้ทำให้ออยได้มานั่งทานข้าวกับคุณ" อรปรียาเอ่ยเสียงหวาน ยิ้มใส่ตาคมเพื่อสื่อความหมาย “มื้อนี้ออยเลี้ยงคุณนะคะ ต้อนรับที่เราได้กลับมาเจอกันในรอบสองปี”
“อย่าเลยครับ”
“ทำไมคะ คุณจะเลี้ยงออย?” อรปรียารู้อยู่แล้วว่ารามิลไม่มีทางยอมให้เธอจ่ายเงินแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยคบกัน เงินเธอไม่เคยหลุดออกจากกระเป๋าสักครั้งเวลาที่อยู่กับรามิล
“ก็ได้ค่ะ แต่งครั้งหน้าออยขอเลี้ยงคุณคืนนะคะ”
รามิลไม่ตอบ อรปรียาก็จะถือว่าการเงียบของเขาคือการตกลง
ตามประสาคนเดินห้างที่ไม่ได้ตั้งใจมาซื้ออะไรเป็นพิเศษ เมื่อออกจากร้านปิ้งย่างที่ตั้งใจมาทานก็พากันเดินดูของไปเรื่อยเป็นการเดินเล่นย่อยอาหารที่เพิ่งทานไปในตัว สีดาถึงกับชะงักเมื่อสายตาหันไปเห็นคนที่เธอเพิ่งรู้จักได้ไม่นานแต่มีช่วงเวลาร่วมกันอยู่หลายครั้ง
"ใคร? มึงรู้จักเขาเหรอ?" อบอุ่นเอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนที่มองไปยังผู้ชายที่นั่งอยู่ในร้านอาหารไทยชื่อดัง ซึ่งราคาอาหารแต่ละจานแพงชนิดที่มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเธอต้องคิดแล้วคิดอีก
"ผู้ชายที่กูเคยเล่าให้ฟัง ที่มองหน้ากูบนบีทีเอส" เพราะไม่เคยเล่าให้เพื่อนฟังเรื่องที่ขอติดรถรามิลออกจากบริษัทเพราะไม่อยากเจอตรัย ทำให้เธอต้องย้อนไปถึงเรื่องเก่าที่เคยส่งข้อความเข้าไประบายกับเพื่อนในกลุ่ม
"หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นโรคจิต"
"ไม่ใช่โรคจิตหรอก เขาชื่อรามิลเป็นหัวหน้าฝ่ายวิศวะของดีลักซ์น่ะ"
"ดีลักซ์? บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ประมูลงานสร้างออฟฟิศใหม่บริษัทมึงอ่ะนะ"
"อืม" สีดาพยักหน้ายืนยัน จะว่าไปช่วงนี้เธอก็เจอรามิลบ่อยจริงๆ ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพมีไม่รู้ตั้งอีกที่ แต่เธอกับเขาก็ยังบังเอิญมาที่เดียวกันได้
“เพราะเขาเคยเห็นมึงหรือเปล่าวันนั้นเขาเลยมอง” อบอุ่นสันนิษฐาน ซึ่งคำสันนิษฐานนั้นก็ทำให้สีดาอดที่จะคิดตามไม่ได้
ก็เป็นไปได้ที่รามิลอาจจะเคยเห็นเธอมาก่อนจะเจอกันบนรถไฟฟ้า
แต่วันนั้นเขาบอกว่าเธอเป็นฝ่ายมองเขาไม่ใช่เหรอ? สีดามั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายมองเขาก่อนอย่างแน่นอน
"ผู้หญิงน่าจะแฟนมั้ย โคตรสวย"
คำพูดของอบอุ่นทำให้สีดาต้องหันกลับไปมองคนทั้งคู่อีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นสวยอย่างที่อบอุ่นพูดจริงๆ
สวย ดูดี และดูแพง
"สีดา"
"หือ?" เสียงเรียกของเพื่อนทำให้สีดาต้องหันกลับมามอง
"มึงจำร้านกาแฟที่เราไปคราวก่อนได้ปะ"
"จำได้ ทำไม?" วันก่อนก็เพิ่งสั่งเค้กมาทาน ร้านนั้นกลายเป็นร้านประจำของแผนกเธอไปแล้ว ไม่ใช่แค่ทีมเธอที่สั่งอีกทีมที่ใช้ห้องทำงานร่วมกันก็ออเดอร์มาด้วย
“พี่เมยเขาจะเช้งร้าน” อบอุ่นบอก เมื่อเห็นใบหน้าไม่เข้าใจของเพื่อนก็รีบอธิบายต่อทันที “เจ้าของร้านน่ะเธอชื่อพี่เมย”
“มึงรู้ได้ไง?” เอ่ยถามอย่างสงสัย ที่ทำงานของเธอสั่งกาแฟกับเค้กมาทานทุกอาทิตย์ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของร้านชื่ออะไร
“วันก่อนกูแวะไปซื้อเค้ก เจอพี่เขาก็เลยได้คุยกัน แฟนพี่เขาเป็นหมอที่โรง’บาลนั้นแหละ แล้วแฟนเขาก็ได้ทุนไปเรียนต่อเฉพาะทางที่อเมริกา เลยอยากให้พี่เมยตามไปด้วย”
"แล้ว?”
สีดาหันไปมอง ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเพื่อนต้องการสื่ออะไร
“มึงว่าถ้ากูเปิดร้านกาแฟจะรุ่งมั้ยวะ”