ตอนที่ 1 ขับรถชนเด็ก
โครมมมมมมม!
เอี๊ยดดดดดดดดด!!!
เท้าเรียวเหยียบเบรกจนล้อลากไปกับถนน เก๋งสีดำปรากฏควันสีขาวลอยคละคลุ้งขึ้นไปในอากาศ ทำเอาคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยตกใจทำอะไรไม่ถูก
คนแน่ ๆ เธอขับรถชนคน!
‘น้ำหนึ่ง’ ลนลานหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาผู้เป็นสามีทันทีด้วยความกลัว
(ว่าไงยัยขี้เม้าท์ ออกบ้านไม่ถึงสิบนาทีก็โทรหาผัวแล้ว คิดถึงมากหรือไงฮะ!?)
“คะ...คุณคินคะ!”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินน้ำเสียงไม่ปกติของเมีย
(เป็นอะไรน้ำหนึ่ง?)
“คุณคินขา...หนึ่งขับรถชนคนค่ะ ฮึก คุณคินช่วยหนึ่งด้วยฮือ ๆ” ใบหน้าของหญิงสาววัยกลางคนเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เธอกลัวอีกฝ่ายจะตาย เธอกลัวว่าตัวเองต้องเข้าคุกข้อหาขับรถชนคนตายด้วย
(น้ำหนึ่ง ตั้งสติ ตั้งสติ!) ปากบอกกับเมีย ส่วนตัวเองรีบบึ่งรถออกจากบ้าน เอาโทรศัพท์แนบหูพูดปลอบเมียไปตลอดทาง
บอกจะออกไปร้านค้าแป๊บเดียว แต่ไม่คิดว่าเพียงเวลาสั้น ๆ จะทำให้น้ำหนึ่งขับรถชนคนอื่นได้
พอมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เห็นรถพยาบาลมาถึงแล้ว รวมทั้งมีผู้คนมามุงดูเหตุการณ์อยู่ด้วย
คนที่กำลังถูกปฐมพยาบาลคือเด็กสาวในชุดนักเรียนม.ปลาย นอนหลับแน่นิ่งแบบที่เขาไม่แน่ใจว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ก่อนจะมองหาเมียตัวเองเมื่อได้ยินเสียงแว่วมาไม่ไกล ว่าคนขับยังไม่ลงจากรถ
‘ภาคิน’ รีบเดินไปยังรถเก๋งยี่ห้อยุโรปคันสีดำที่คุ้นตาแล้วเปิดประตูออก ก็เห็นน้ำหนึ่งนั่งตัวสั่นมีน้ำตาอาบแก้มราวกับคนสติหลุด จนต้องรีบเขย่าตัวเรียก
“น้ำหนึ่ง น้ำหนึ่ง!”
ใบหน้าสวยค่อย ๆ หันไปหา น้ำตาเม็ดเล็กพรั่งพรูออกมา ก็พบว่าเป็นสามี
“คุณคินขา...ฮึกฮือ” ร่างบอบบางโผเข้ากอดสามี สะอื้นไห้อย่างปวดใจ ที่ทำให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะการกระทำของตัวเอง
เธอไม่ได้ตั้งใจชนเด็ก สาบาน เธอเบรกไม่ทันจริง ๆ เพราะมันกระชั้นชิดเกินไป
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”ลูบปลอบหลังเมีย เมียเขาไม่ใช่คนขับรถเร็วเขารู้ และเขาเชื่อว่าเด็กคนนั้นจะปลอดภัย
เด็กสาวในชุดนักเรียนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวอำเภอคันคาย ส่วนน้ำหนึ่งกับสามี ถูกเชิญตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก
“ช่วยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เสือฟังหน่อยได้ไหมครับ ว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร” ร.ต.อ.เสือ แสนร้าย ในฐานะพนักงานสอบสวนของสภ.คันคาย อยู่เวรช่วงดึกถามออกมา
และคนที่เขาต้องสอบสวนในเวลานี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนของพ่อเขาเอง พ่อภาคิน กับแม่น้ำหนึ่ง
น้ำหนึ่งพยักหน้าทั้งน้ำตา ขณะที่คนเป็นสามียังโอบไหล่เธอเอาไว้
“แม่ขับรถออกมาจากบ้าน ว่าจะไปร้านค้า แต่มีคนวิ่งมาตัดหน้ารถ แม่เบรกไม่ทัน ก็เลยชนเด็กคนนั้นเข้าเต็ม ๆ ค่ะ”
“เด็กคนนั้นวิ่งตัดหน้ารถแม่เหรอครับ?”
“ใช่ค่ะ แม่ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นหนีอะไรมาหรือเปล่า หรือจงใจวิ่งใส่รถ เพราะวิ่งมาเร็วมาก แต่แม่เบรกไม่ทันค่ะ”
ภาคินลูบปลอบภรรยา เข้าใจแล้วว่าเมียตัวเองไม่ได้ประมาท แต่มันคงกระชั้นชิดจนเกินไป จึงทำให้น้ำหนึ่งเหยียบเบรกไม่ทัน
เขายินดีสู้เพื่อเมียทุกอย่าง และยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้เด็กคนนั้นด้วย ถึงแม้น้ำหนึ่งจะไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็ตาม
@โรงพยาบาลอำเภอคันคาย
“คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ” หลังจากให้ปากคำกับตำรวจเสร็จ สองผัวเมียจึงมาที่โรงพยาบาล เพื่อมารับผิดชอบคนป่วย
นั่งรออยู่หน้าห้องไอซียู พักหนึ่งก็มีพยาบาลเดินออกมา
“ปลอดภัยแล้วค่ะ หมอให้ยานอนหลับไป ไม่เกินสามชั่วโมงคงตื่นค่ะ”
สองผัวเมียได้ยินอย่างนั้นถอนหายใจโล่ง เพราะช่วยกันนั่งภาวนาให้เด็กคนนั้นปลอดภัย
“มันอยู่ไหนอีพลอย!” หญิงวัยกลางคนเดินทางมาที่โรงพยาบาลเมื่อได้ยินว่าลูกสาวตัวเองถูกรถชน พอมาถึงหน้าห้องไอซียู จึงตะโกนถามพยาบาลที่อยู่แถวนี้ จนฝ่ายนั้นรีบเข้ามาเคลียร์
“ญาติใครคะ?”
“พลอยไพลิน กูเป็นแม่มัน ลูกสาวกูเป็นยังไงบ้าง?”
“อ๋อ คนไข้ปลอดภัยแล้วค่ะ หมอให้ยานอนหลับไป สักพักถึงจะนำผู้ป่วยออกมานอนห้องพักฟื้นค่ะ”
“แม่ง...วัน ๆ สร้างแต่ความเดือดร้อนให้กู อีลูกเวรเอ๊ย!”
พยาบาลสาวได้ยินอย่างนั้นทำหน้าเหวอ ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาก็นึกว่าเป็นห่วงลูก ความจริงแล้วกลับไม่ใช่
ภาคินกับน้ำหนึ่งที่ได้ยินอย่างนั้นแปลกใจมองหน้ากัน ทำไมแม่ของเด็กที่ถูกรถชนถึงพูดแบบนั้น ไม่ห่วงลูกตัวเองเลยเหรอ
แม่ของพลอยไพลินหันกลับไปด้านหลัง ว่าจะเดินไปนั่งรอ ชะงักไปเมื่อเห็นสองผัวเมียจ้องมองมาที่ตัวเองอยู่ เหมือนมีเรื่องอยากคุยด้วย
“พวกมึงเหรอที่ขับรถชนอีพลอย?”
“เด็กในห้องไอซียูคือลูกคุณเหรอคะ” น้ำหนึ่งถามกลับให้แน่ใจ ว่าคนคนนี้คือแม่จริง ๆ ของเด็กที่เธอขับรถชน เพราะยังตกใจกับประโยคก่อนหน้าไม่หาย
“เอ้อ อีพลอยนั่นลูกกู แล้วพวกมึงใช่ไหมที่ขับรถชนมัน พวกมึงเอามาเลยนะแสนหนึ่ง กูเรียกค่าเสียหายแสนหนึ่ง!” แบมือออกไปตรงหน้า แววตาจริงจัง ทำเอาสองผัวเมียตกใจมองหน้ากัน
“เร็ว! หรือจะให้กูไปแจ้งความเอาผิดพวกมึง”
“แต่ลูกคุณวิ่งตัดหน้ารถเมียผมนะ” ภาคินไม่ยอม หากจะให้ชดใช้ค่าเสียหายเขาต้องได้คุยก่อน
เขาไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงิน แต่มาเรียกเอาแบบนี้น่าเกลียด แทนที่จะรอให้คนไข้ฟื้นขึ้นมาแล้วมาพูดคุยกันดี ๆ แต่นี่อะไร ทำอย่างกับเตี๊ยมกันมา
หรือว่า?
“พวกมึงว่าไงนะ! อีพลอยมันวิ่งตัดหน้ารถพวกมึงงั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ ลูกคุณวิ่งตัดหน้ารถเมียผม”
คนเป็นแม่ได้ยินอย่างนั้นควันออกหู
“แผนเยอะนักนะอีนี่!”
เธอให้คนไปรับพลอยไพลินที่หน้าโรงเรียนเพื่อไปส่งให้เสี่ย แต่ไม่คิดเลยว่า มันจะหัวดีวิ่งไปให้รถชน
คอยดูว่า ฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ กูจะฟาดให้หลังลายเลย!