3. เริ่มแผน

2276 Words
หลังจากที่วราลินนอนป่วยอยู่สองวันเต็มๆ เธอก็ตื่นขึ้นมาในเช้าอันสดใส เพราะวันนี้เธอต้องเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องในช่วงท้าย หลังจากที่ไม่ได้เข้าเรียนมาหลายวัน เพราะอาการป่วยยังไม่หายดีด้วย จึงทำให้ต้องหยุดพักไป ตอนนี้เธอนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำกิจกรรมนัก โดยมีเพื่อนอีกสามคนนั่งอยู่ด้วยเหมือนเช่นทุกครั้ง เสื้อช็อปสีแดงที่เธอใส่อยู่ขับกับผิวของเธอได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงเพื่อนในกลุ่มของเธอด้วย เรียกว่าเป็นดาวเด่นของคณะเลยก็ว่าได้ "หายดีแล้วแน่นะริน" ดินถามขึ้น "อืม ขาก็หายเจ็บบ้างแล้ว" วราลินตอบเพื่อนออกไป พร้อมกับเสียงพูดคุยถึงใครบางคน ที่ยืนอยู่ลานจอดรถไม่ไกลจากจุดทำกิจกรรม ไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มหล่อที่ชื่อเหมราชคนนี้ การปรากฏตัวขึ้นที่มหาลัยทำเอานักศึกษาเก่าใหม่ต่างก็มีความหวัง ที่จะให้หนุ่มใหญ่สนใจ "พวกสาวๆ สนใจอะไรเหรอวะ" ต้นกล้าถามขึ้นพร้อมกับมองไปยังต้นเหตุ และกำลังเดินมาพร้อมกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องเสียมากกว่า "ทำไมเดิมมาทางนี้เขามาหาใคร" นทีพูดขึ้นบ้าง "เชี้ย! นั่นมันคุณเหมราช เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจสีเทารวยมากติดอันดับเอเชียเลยนะมึง ว่าแต่มาที่นี่ทำไม" เมื่อต้นกล้าเห็นหน้าชัดๆ เลยพูดขึ้นไขความกระจ่างให้กับเพื่อน "สงสัยมาหาเด็กไปเลี้ยงล่ะมั้ง อาจได้ยินว่าที่มหาลัยรับน้องเลยมา" ดินพูดขึ้นก่อนจะเงียบเสียงลง เมื่อทั้งสามเดินตรงมาหาพวกตนที่นั่งอยู่โต๊ะใต้ต้นไม้ วราลินแหงนหน้ามองคนที่หยุดยืนตรงหน้า เธอรู้ดีว่าเขาเป็นใคร "วันนี้ไม่มีเรียนแล้วนี่ ไปด้วยกันหน่อยสิ" เหมราชพูดขึ้นพร้อมกับสายตาคม ที่จ้องมองคนตัวเล็กผ่านแว่นตาสีดำที่ทำให้เขายิ่งดูดีขึ้นไปอีก วราลินยืนขึ้นเต็มความสูงที่มีแค่ไหล่ของอีกคน เธอไม่คิดว่าเขาจะตามมาถึงที่นี่ "คุณอาพูดกับหนูเหรอคะ" ทันทีที่อีกคนเรียกแทนตัวเองและเขาแบบนั้น ก็ทำเอาเหมราชหน้าถอดสีเลยทีเดียว เพราะเกิดมาไม่เคยมีใครเรียกเขาแบบนี้ ยิ่งถ้าเป็นสาวๆ ส่วนมากก็เรียกพี่ทั้งนั้น แต่ดูเด็กคนนี้สิ "ไม่พูดกับเธอจะพูดกับใคร ในเมื่อฉันยืนอยู่ตรงหน้าเธอ" "ใครจะไปรู้ล่ะคะ ก็เล่นใส่แว่นตาแบบนี้นึกว่ามองไปทางอื่นไม่ได้คุยกับหนูซะอีก ว่าแต่ทำไมหนูต้องไปด้วยคะ ขอเหตุผล" เหมราชมองหญิงสาวตรงหน้า ไม่เคยมีใครตั้งคำถามแบบนี้กับเขามาก่อน ส่วนมากมีแต่เดินตามไปเลยมากกว่า แค่เพียงเขากระดิกนิ้วก็พอ "เธอไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ" "หนูจะไปรู้จักคุณอาได้ไง เพื่อนในห้องยังรู้จักไม่หมดเลย" คำตอบที่ได้ทำเอาเหมราชนิ่งอึ้ง พอๆ กับกลุ่มเพื่อนและคนสนิทของเขา เหล่านักศึกษาที่อยากรู้ต่างก็มายืนออ ดูว่าหนุ่มหล่อนคนนี้มาหาใครกันแน่ "วราลิน อย่าดื้อไปกับฉันดีๆ เรามีเรื่องต้องคุยกัน ถ้าไม่ไว้ใจพาเพื่อนไปด้วยก็ได้" เหมราชเรียกชื่อคนตรงหน้า พร้อมกับพยายามหว่านล้อมอีกคนให้ตอบตกลง วราลินยิ้มน่ารักออกมาจนคนที่ยืนมองเธอ ภายใต้แว่นกันแดดอดที่จะจ้องมองไม่ได้ "พวกมึงจะไปด้วยหรือเปล่า" "มึงไปเถอะคุณเหมราชคงไม่ทำอะไรมึงหรอกถ้ามึงไม่เต็มใจ ใช่ไหมครับ" ต้นกล้าพูดขึ้นจนทำให้เหมราชแปลกใจ "นายรู้จักฉันด้วยเหรอ แล้วทำไมเพื่อนนายไม่รู้จักฉันล่ะ" "ไม่แปลกหรอกครับ เพราะรินมันพึ่งกลับมาอยู่ไทยแค่สามปี แล้วมันก็ไม่เคยสนใจคนดังด้วย" นทีพูดขึ้นเพื่อคลายความสงสัย "จะไปหรือยัง แล้วคุณอามีอะไรที่จะคุยกับหนู หรือว่าเรื่องที่หนูแอบเข้าไปในห้องในวันนั้น" "อืม รู้แล้วก็ดี" เหมราชพูดแค่นั้นก็เดินนำคนตัวเล็กไปที่รถ ทุกคนต่างก็มองตามด้วยความสงสัย จนบางคนอดไม่ได้ที่จะถามกลุ่มเพื่อนของวราลินขึ้น แต่คำตอบที่ได้ก็คือสายตาที่มองอย่างไม่พอใจ ทุกคนเลยได้แต่แยกย้ายกันไป ภายในรถคันหรูที่นั่งกว้างขวาง วราลินนั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอคิดว่าคนข้างๆ จะจำเธอได้เสียอีก แต่มันก็นานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา มันก็ไม่แปลกที่เขาจะลืมหลานสาวที่เคยขี่หลังในตอนเด็ก "ฉันอยากรู้ว่าเธอเข้าไปในห้องฉันได้ยังไง ทั้งที่มันล็อคอยู่" วราลินหันมาหาคนที่ถามเธอ ตอนนี้เหมราชถอนแว่นออกแล้ว เลยทำให้เธอเห็นใบหน้าคนตัวโตชัดขึ้นแถมยังอยู่ใกล้มากด้วย "หนูเรียนวิศวะเรื่องแค่นี้ทำไม่จะแก้ไม่ได้" "ไม่มีทาง ต่อให้เธอเรียนเก่งแค่ไหนก็ไม่น่าจะปลดล็อคประตูได้" เหมราชยังคงไล่ต้อนคนตรงหน้า เพื่อที่จะได้เอามาเป็นข้อต่อรองให้กับตัวเอง และดูเหมือนวราลินเองก็รู้ว่าอีกคนต้องการต้อนให้เธอจนมุม "ของก็ไม่ได้หายไม่ใช่เหรอคะ หนูเองก็คิดว่าจะกลับไปขอบคุณที่ช่วยอยู่เหมือนกัน แต่กลับมาหนูก็ป่วยพึ่งจะมาเรียนได้นี้แหละ" เหมราชนึกขึ้นได้ว่าวราลินบาดเจ็บที่ขา เขาเลยเลื่อนสายตาลงที่กระโปรงบานเลยเขาของเธอ วราลินมองตามสายตาอีกคนก่อนจะพูดขึ้น นิ้วเรียวจับกลีบกระโปรงเอาไว้สื่อให้รู้ว่าเธอเห็นว่าเขามอง "ดีขึ้นแล้วค่ะ เดินได้ปกติ" "ขอดูหน่อย อยากเช็คให้แน่ใจ" คำพูดสองแง่สองง่าม ทำเอาวราลินหันควับมาหาคนตัวโตทันที เหมราชเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของอีกคนเลยขยับเข้าใกล้ ก่อนจะพูดขึ้น "เธอคิดว่าใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอฮึเด็กน้อย" "รินไม่ใช่เด็ก" วราลินตอบออกไปด้วยเสียงหงุดหงิด จนเหมราชอดที่จะดีดนิ้วลงที่หน้าผากกว้างของอีกคนไม่ได้ "ไม่เด็กแต่แทนตัวเองว่าหนูน่ะเหรอ แต่อันที่จริงก็ไม่เด็กอย่างว่าแหละ เพราะตรงไหนก็ใหญ่ไม่ว่าบนหรือล่าง" เหมราชพูดหน้าตาเฉย ผิดกับอีกคนที่อายหน้าแดงไปแล้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าคุณอาที่แสนอ่อนโยนคนเก่าเธอหายไปไหน ทำไมคนตรงหน้าถึงดูหื่นกามขนาดนี้ "คนลามกหื่นกามแบบคุณอา ถ้ามีอีกสักสิบคนโลกนี้คงอยู่ยากแล้ว" "ว่าไปนั่น ถ้าฉันหื่นกามจริงๆ เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอรอดมือฉันหรือไง" พออีกคนพูดแบบนี้วราลินก็เงียบไป มันก็จริงถ้าเป็นคนอื่นถอดชุดเธอออกหมดขนาดนั้นคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่ เหมราชเห็นอีกคนเงียบไปจึงได้พูดขึ้นอีก "เธอต้องตอบแทนบุญคุณฉันที่ช่วยเธอ" "ตอบแทนอะไรยังไงคะ รินไม่นอนกับคุณอานะ รินจะเก็บไว้ให้คนที่รินรัก" คำพูดที่ดูจะต่างออกไปจากตัวตนของวราลิน ทำเอาเหมราชถึงกับอึ้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดออกมาแบบนี้ เพราะไม่ว่าใครก็อยากเสนอตัวให้เขาทั้งนั้น "แล้วถ้าเธอเกิดหลงรักฉันล่ะ" "ฮ่าฮ่า รินจะหลงรักคุณอาได้ไงในเมื่อ อ่ะ" พอคิดได้วราลินก็เงียบไป เพราะเธอไม่อยากบอกกับอีกคนว่าเธอคือลูกของรุ่นพี่ที่สนิทของเหมราช ไม่งั้นเรื่องที่เธอหนีมาเรียนที่ไทยคงรู้ถึงหูคุณแม่แน่ แม้แม่ของเธอจะช่วยเรื่องหนีออกมาก็เถอะ แต่ทางนั้นก็เข้าใจว่าเธออยู่ที่ฝั่งยุโรป เธอยังส่งข่าวถึงแม่ทุกอาทิตย์โดยผ่านอีเมล์ เพราะไม่ต้องการให้ตามตัวเธอได้ "ในเมื่ออะไรพูดมาให้หมด" "ในเมื่อ เอ่อคุณอาอายุเยอะกว่ารินตั้งหลายปี ให้เป็นเพื่อนคุณพ่อยังได้เลย" วราลินพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแห้งใส่อีกคน แต่เหมราชกลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ พอมาถึงก็เดินลงจากรถเข้าโรงแรมไป โดยไม่รอคนตัวเล็กที่พึ่งจะลงรถเลยแม้แต่น้อย วราลินหันมาหาแสนและชิตเชิงถาม "เดินตามไปเถอะครับ แล้วก็ทางที่ดีอย่าพูดเรื่องอายุกับนายนะครับ เดี๋ยวจะไม่ปลอดภัยเอาได้" แสนพูดขึ้นด้วยความเอ็นดู เพราะไม่เคยมีใครทำให้เจ้านายเขาหงุดหงิดแบบนี้เลย วราลินยิ้มแห้งให้ก่อนจะเดินตามรณชิตเข้าลิฟท์ เพราะคนที่พาเธอมาขึ้นลิฟท์ไปก่อนหน้านี้นานแล้วโดยไม่รอเธอ เหมราชเดินเข้ามาภายในห้องพัก เสียงมือถือก็ดังขึ้น "มีอะไรอีกไอ้แสน" "นายจะให้พาคุณรินไปที่ห้องหรือรอที่ห้องทำงานครับ" "พาขึ้นมา" เหมราชพูดจบก็ตัดสายทันที "แก่กว่าตั้งหลายปีเหรอ เธอไม่รู้เหรอว่าคนแก่มันแซ่บแค่ไหน ฉันจะทำให้เธอหลงฉันหัวปักหัวปำเลยเด็กน้อย" เหมราชพูดขึ้นไม่นานประตูก็ถูกเปิดเข้ามา เหมราชถือแก้วเหล้าสีอำพันอยู่ในมือ ก่อนจะยกขึ้นจิบเล็กน้อย สายตายังคงจ้องมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบ ไม่มีท่าทีตื่นกลัวเขาเลยสักนิด "นั่งลงสิ เรามาตกลงกัน" เหมราชบอกให้คนตัวเล็กนั่งลง ก่อนจะหันไปหาชิตที่ยืนอยู่ไม่ไกล รณชิตเมื่อเห็นสายตาของเจ้านายจึงเดินออกไปเงียบๆ แต่วราลินก็หันตามคนที่ก้าวออกไป "กลัวเหรอที่ต้องอยู่กับฉันลำพัง" "เปล่าค่ะเพราะรินเชื่อว่าคุณอาคงไม่ทำอะไร ผู้หญิงที่ไม่เต็มใจหรอก" "หึ เธอรู้จักฉันดีขนาดนั้นเชียวเหรอ" เหมราชไม่เพียงแต่พูด แต่เขากลับขยับเข้ามาใกล้อีกคน ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน วราลินรู้สึกประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ยิ้มร้ายผุดขึ้นทันที "ถ้าเธอเรียกฉันว่าอาแล้วก็เรียกต่อไปก็แล้วกันนะ ฉันอยากให้เธอมาเป็นพนักงานฝึกหัดที่นี่ จะเอาเพื่อนมาทำด้วยก็ได้ เดี๋ยวต้องฝึกงานแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันอยากได้เธอมาคอยตรวจสอบระบบความปลอดภัย เธอคิดว่าไง" "จริงเหรอค่ะ งั้นรินขอเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ มีเงินเดือนใช่ไหมคะ" "ร้อนเงินเหรอ ฉันช่วยได้นะแต่ต้องทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่งานที่พูดถึงเมื่อกี้" "พอเลยค่ะ วนกลับมาเรื่องนี้ทุกที หื่นมากทำไมไม่เรียกเด็กในสังกัดมาล่ะคะ" วราลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พอเธอได้ยินว่าจะมีคนจ้างเธอก็อดดีใจไม่ได้ เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม่ของเธอบอกว่าทางนั้นจับได้ว่าแม่ส่งเงินให้เธอจากนี้จึงส่งให้ไม่ได้อีกแล้ว หากได้ทำงานที่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อยที่นี่เธอก็เป็นผู้ออกแบบระบบป้องกันภัย เหมราชยิ้มให้กับท่าทางหงุดหงิดของอีกคน ที่มันดูน่ารักน่าแกล้งสำหรับเขา "ก็ได้ไม่แกล้งแล้ว ฉันจะรับเธอเข้าทำงานที่นี่ เงินเดือน 20000 ตำแหน่งตรวจเช็คระบบ แต่เธอต้องมาพักที่นี่นะ ฉันมีห้องให้" "หมายถึงห้องข้างล่างใช่ไหมคะ" "เปล่า ห้องที่เธอนอนป่วยในตอนนั้นแหละ" วราลินขมวดคิ้วเข้าหากัน คิดว่าเขาจะให้เธอพักข้างล่างเสียอีก เพราะถ้าทำงานที่นี่เธอก็เป็นพนักงานคนหนึ่ง อีกอย่างชั้นบนสุดที่มีลิฟท์ส่วนตัวแบบนี้ ก็แสดงว่าเป็นห้องของเขาน่ะสิ "แต่ห้องนี้ของคุณอาไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงจะให้พนักงานอย่างรินพักล่ะ" "เพราะอีกอย่างที่เธอต้องทำคืออาหาร หวังว่าจะทำเป็น ส่วนเรื่องทำความสะอาดไม่ต้องมีแม่บ้านของที่นี่ดูแลอยู่" เหมราชพูดขึ้นพร้อมกระดกเหล้าจนหมด วราลินมองคนตัวโตที่ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว ก็อดที่จะกลืนน้ำลายลงคอตามไม่ได้ เหมราชหันกลับมาสบตาเข้าพอดี ทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบจนต้องรีบหันหนี เหมราชยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปเติมเหล้าที่เคาร์เตอร์บาร์อีกมุม แต่สายตาคมดุจเหยี่ยวก็ยังคงจ้องเหยื่อตัวน้อย ที่นั่งนิ่งในกระจกที่สะท้อนออกมา # คุณอาจอมวางแผน คิดจะกินเหยื่อตัวน้อย ขุดหลุมไว้แล้ว ก็อย่าเดินไปตกหลุมเองซะล่ะ #ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD