กริ๊งงง
“หมดเวลาทำข้อสอบ ขอให้นักศึกษาทุกคนวางปากกา…”
เสียงประกาศกร้าวผ่านลำโพงตัวใหญ่ดังขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายของการเข้าสอบ หญิงสาวหน้าตาน่ารักเจ้าของผมหน้าม้าสีดำสลวยเกลี่ยหน้าม้าปาดเหงื่อบริเวณหน้าผาก ริมฝีปากชมพูผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อยพลันวางปากกาในมือลงตามคำสั่ง
หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บข้อสอบไปแล้วทุกคนก็รีบลุกออกจากห้องสอบออกมายืนจับกลุ่มคุยกันหน้าห้อง
“ขนมผิงทางนี้”
สาวน้อยเจ้าของชื่อหันขวับมองคนที่ตะโกนเรียกก่อนจะฉีกยิ้มหวานรีบวิ่งไปหาเพื่อนสนิทของเธอทั้งสามคน
“ทำข้อสอบได้ไหม”
นะโม แม่ป้าคนเก่งประจำกลุ่มเอ่ยถาม แต่ตอนนี้จะเรียกเธอว่าแม่ป้าดังเดิมก็เห็นว่าจะไม่ได้แล้ว เพราะสาวเฉิ่มคนนี้ได้สลัดร่างแม่ป้าทิ้งกลายเป็นสาวสวยคนเก่งหวานใจพี่โยธาหนุ่มป๊อปคนดังของคณะวิศวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ก็…ได้อยู่”
“ได้อยู่แปลว่า?”
“แฮะๆ ทำข้อสุดท้ายไม่ทันงะ ได้แค่วางหลักกฎหมายกับวินิจฉัยไปสองประเด็น”
ขนมผิงหัวเราะแห้ง เธอพยายามเร่งมือแล้วแต่นักศึกษากฎหมายที่เขียนหนังสือเชื่องช้าเหมือนเต่าคลานอย่างเธอจะให้ทำข้อสอบกฎหมายสี่ข้อภายในเวลาสามชั่วโมงทันได้อย่างไรกัน แค่วางหลักกฎหมายของแต่ละข้อก็ปาเข้าไปแล้วยี่สิบนาทีแล้ว
“ช่างเถอะๆ อย่าพูดเรื่องข้อสอบเลย ตอนนี้เรามาวางแผนปาร์ตี้กันดีกว่า”
อังเปา สาวสวยสุดแซ่บเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น ก็แหงสิช่วงใกล้สอบหนึ่งเดือนมานี้เธอถูกนะโมบังคับให้อ่านหนังสือตั้งแต่เช้ายันดึกทุกวัน ชีวิตเหี่ยวเฉายิ่งกว่าต้นไม้ขาดน้ำ สอบเสร็จก็เหมือนได้ปลดทุกข์สาวนักปาร์ตี้อย่างเธอจะพลาดได้อย่างไร
“ฉันไม่ไปได้ไหม” นะโมรีบปฏิเสธเธอไม่ชอบงานสังสรรค์นักโดยเฉพาะในผับบาร์
“ไม่ได้! แกห้ามปฏิเสธถ้ากลัวแฟนสุดหล่อไม่อยากให้ไปแกก็พาเขาไปด้วยกันสิ บอกให้พี่โยธาชวนเพื่อนมาด้วยยิ่งดี”
อังเปาทำตาลุกวาวเป็นประกายจนเพื่อนพากันส่ายหัว นอกจากการได้เห็นผู้ชายหล่อแล้วคงไม่มีอะไรทำให้แม่เสือสาวคนนี้อารมณ์ดีได้ขนาดนี้แล้วจริงๆ
“จะไปกี่โมงก็ทักมาบอกด้วยล่ะฉันขอกลับไปนอนเอาแรงก่อน”
ลูกตาล สาวแกร่งคนแมนดีกรีนักกีฬาบาสหญิงของมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางอ่อนเพลีย ช่วงนี้เธอทั้งอ่านหนังสือทั้งซ้อมกีฬาเลยใช้งานร่างกายหนักไปหน่อย สภาพถึงได้เหมือนหมีแพนด้าเดินได้แบบนี้
“งั้นแยกย้ายกันดีกว่าแล้วมาเจอกันอีกทีตอนสองทุ่มที่ร้านเดิมนะ”
ตกลงกันได้ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำธุระของตัวเองซึ่งสาวน้อยนักชิมขนมหวานอย่างขนมผิงก็ไม่พลาดที่จะไปประลองขนมร้านใหม่ที่มาเปิดขายหน้าคณะสัตวแพทย์
คนตัวเล็กกึ่งเดินกึ่งกระโดดไปยังร้านขนมด้วยท่าทางอารมณ์ดี แต่แล้วก็เหมือนถูกฟ้าผ่าลงกลางหัวเข้าเต็มๆ เมื่อมาถึงสถานที่หมายแล้วแต่กลับมีป้ายตัวหนังสือสีแดงคำว่า ‘เซ้ง’ ตัวเบ้อเร่อติดอยู่หน้าร้าน
“ซะ เซ้งเหรอ! เป็นไปได้ยังไงเพิ่งมาเปิดร้านเองนะ”
ขนมผิงโวยวายเดินเข้าไปไปส่องประตูกระจกสีทึบดูด้านในร้านซึ่งก็เห็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่า รอบนี้เธอมาเสียเที่ยวเสียแล้ว
“เฮ้ออดกินเลย”
เด็กสาวถอนหายใจเบ้ปากทิ้งตัวนั่งลงหน้าร้านด้วยความรู้สึกเสียดาย
“ขนมผิง”
เสียงทุ้มหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อเธอพอเงยหน้ามองก็พบว่าคนตรงหน้าคือเดย์เพื่อนสนิทพี่โยธาแฟนของนะโม
“มานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวคะ” ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับย่อขาลงไปนั่งยองๆ ตรงหน้าหญิงสาว ให้ระดับสายตาของเขาและเธออยู่ในระดับเดียวกัน
“ผิงอยากกินขนมร้านนี้แต่ร้านมันเซ้งไปแล้วอ่า”
“ร้านไม่ได้เซ้งนะ”
“จริงเหรอคะ!” ดวงตากลมเบิกกว้างดังพรึ่บ
“ค่ะ ร้านไม่ได้เซ้งแต่เปิดอยู่อีกด้านผิงมาผิดที่นะ”
“อ้าวตรงนี้ไม่ใช่หน้าคณะเหรอคะ”
“ตรงนี้เป็นหลังคณะครับ หน้าคณะอยู่ฝั่งนู้น”
ขนมผิงมองตามนิ้วที่เดย์ชี้ก็รู้สึกอายขึ้นมา เรื่องหลงทิศหลงทางของเธอไม่เคยพัฒนาขึ้นเลย หลงยังไงก็หลงอย่างนั้นและนี่แหละคือเหตุผลที่เธอไม่ชอบขับรถเอง
“เดี๋ยวพี่พาไป”
“พี่เดย์ว่างเหรอคะ”
“ครับพี่เพิ่งสอบเสร็จว่าจะไปหาอะไรกินพอดี”
สิ้นเสียงของเดย์ขนมผิงก็รีบลุกขึ้นปัดกระโปรงตัวยาวสลัดคราบฝุ่นที่ก้นออกก่อนจะยืนตัวตรงเตรียมพร้อมเดินไปกับเดย์
“พร้อมแล้วค่ะพี่เดย์”
“พอจะได้กินของหวานแล้วร่าเริงเชียวนะ วันนี้กินอมยิ้มไปกี่อันแล้วล่ะ”
“ไม่ได้กินค่ะ ถูกนะโมยึดไปหมดแล้ว” สาวน้อยทำปากยื่นปากยาวเป่าลมจนแก้มป่องพอง
ความน่ารักของขนมผิงทำให้เดย์ไม่อาจหยุดยิ้มได้เลย เขาต้องขอบคุณโยธาที่ไปชอบนะโมและทำให้เขาได้มีโอกาสเจอขนมผิงเด็กน้อยน่ารักคนนี้
ณ ร้านขนมหวาน
“พี่เดย์จะกินอะไรคะ”
ขนมผิงหันมาถามหลังจากเธอลังเลระหว่างเค้กสตรอว์เบอร์รี่กับเค้กนมสดจนเลือกไม่ได้จึงปัดให้อีกคนสั่งก่อน
“ผิงอยากกินอันไหนล่ะ”
“มีอยู่สองอันค่ะผิงยังเลือกไม่ได้เลย”
“แล้วทำไมไม่เอาทั้งสองอันเลยล่ะ”
“สองอัน…มันดูไม่เยอะไปเหรอคะ คนรอบตัวเริ่มบอกว่าผิงอ้วนแล้ว…”
เดย์มองหน้าคนน้องที่เริ่มไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเองก็ยกยิ้มให้ก่อนจะจับปลายคางขนมผิงให้เชิดขึ้นมองหน้าเขา
“ไม่เห็นจะอ้วนเลย และถึงอ้วนขนมผิงก็ยังน่ารักอยู่ดี”
“นั่นสินะ ลูกตาลก็ชอบพูดแบบนี้เหมือนกัน แต่ผิงว่ามันก็เยอะไปอยู่ดี”
“งั้นเอาแบบนี้ไหมคะ เดี๋ยวเราสั่งเค้กมาสองชิ้น ชิ้นหนึ่งของผิงอีกชิ้นของพี่ แล้วถ้าผิงอยากกินเค้กของพี่ก็ค่อยเอาช้อนตักแย่งของพี่กิน”
“ได้เหรอคะ”
“ได้สิครับพี่ไม่ถือ”
คำว่าตามใจคงน้อยไปหากใช้กับผู้ชายคนนี้ ขนมผิงไม่รอช้าสั่งเค้กทั้งสองก้อนกับพนักงานจากนั้นก็เดินตามเดย์ไปยังโต๊ะนั่งในร้าน ซึ่งเดย์เลือกเป็นโต๊ะริมหน้าต่างใกล้สวนหย่อม
“ขอบคุณนะคะพี่เดย์ที่มาเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรว่าแต่คณะนิติสอบเสร็จแล้วเหรอ”
“เสร็จแล้วค่ะ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วคณะสัตวแพทย์ล่ะคะ”
“ยังเหลือสอบอีกหนึ่งตัวแต่พรุ่งนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ”
ขนมผิงพยักหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอมองใบหน้าเดย์ด้วยแววตาคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“หน้าพี่มีอะไรติดเหรอ?”
“เปล่าค่ะ ผิงแค่ไม่เคยสังเกตเลยว่าสีผมของพี่เข้ากับหน้าตาหล่อๆ ของพี่ดีนะคะ ผมสีบลอนทองกับผิวสีขาวและใบหน้าหล่อละมุนหวานๆ เหมือนเค้กวานิลลาท็อปปิ้งด้วยไวท์ช็อกโกแลตเลย”
คำชมของขนมผิงทำให้เดย์หลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ในหัวของเธอนอกจากเรื่องของกินแล้วก็คงไม่มีเรื่องอะไรอยู่เลยสินะ
“คืนนี้อังเปาชวนผิงกับเพื่อนๆ ไปปาร์ตี้ พี่เดย์ไปไหมคะ”
“คืนนี้เหมือนจะไม่ได้นะ พี่ยังเหลือสอบอยู่เลย”
“เสียดายจัง…แต่ไม่เป็นไรค่ะเรื่องสอบสำคัญกว่า”
“เค้กสตรอว์เบอร์รี่กับเค้กนมสดมาแล้วค่ะ”
บทสนทนาหยุดลงพร้อมกับเค้กสองก้อนที่กำลังทยอยวางลงบนโต๊ะ เมื่อเครื่องดื่มและเค้กถูกเสิร์ฟเรียบร้อยขนมผิงก็ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปอาหารอัปลงโซเชียล
ติ้ง!
อังเปา : กรี๊ดดดดดมือผู้ชายไปกับใครคะคุณน้อง
ลูกตาล : อะอ้าวนี่แอบนอกใจฉันไปกินขนมกับคนอื่นเหรอ
นะโม : พี่เดย์เหรอ?
หลังจากอ่านคอมเมนต์ของเพื่อนๆ ขนมผิงก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองเผลอถ่ายรูปติดมือเดย์ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่กินเหรอผิง” เอาแต่จ้องโทรศัพท์จนถูกอีกคนถาม
“ผิงกำลังจะลบรูปแล้วถ่ายใหม่พี่เดย์อย่าเพิ่งกินนะคะ”
“ทำไมล่ะ”
“รูปเดิมผิงเผลอถ่ายติดมือพี่เดย์ไป ขอโทษด้วยนะคะ”
ร่างสูงผล็อยยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือขนมผิงให้หยุดกดนิ้วลงบนแป้นพิมพ์โทรศัพท์
“ไม่ต้องลบหรอกหรือผิงไม่อยากให้ใครเห็นว่ามากับพี่”
“ไม่ใช่นะคะ” คนน้องรีบโบกมือปฏิเสธ “ผิงแค่กลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดแล้วพี่จะพลอยเสียหายไปด้วยเฉยๆ”
“แค่มากินเค้กกับผิงไม่เห็นเสียหายอะไรเลย”
“แล้วถ้าคนอื่นคิดว่าเราเป็นแฟนกัน แบบนี้พี่เดย์ก็จะถูกเข้าใจผิดจนขายไม่ออกเอานะคะ”
เดย์ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรต่อทำเพียงคลี่ยิ้มบางหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาจากนั้นก็พิมพ์บางอย่างลงบนมือถือก่อนจะวางลงบนโต๊ะ ซึ่งจังหวะเดียวกันนี้เสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนของขนมผิงก็ดังขึ้นพอดี
นะโม : พี่เดย์เหรอ
เดย์ : ครับมือพี่เอง