หลังจากทานขนมเค้กกับเดย์เสร็จขนมผิงก็กลับมาที่บ้านนั่งรอเวลาไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน
“ผิงลูก” นอนดูคลิปทำอาหารเพลินๆ เสียงคุณแม่ของเธอก็ตะโกนเรียกจากชั้นล่างดังขึ้นมาถึงบนห้อง
“ค่ะแม่” สาวน้อยรีบขยับตัวดุ๊กดิ๊กเดินไปหาแม่เธอ
“ว่างแล้วใช่ไหมลูก”
“ค่ะ”
“แม่ซื้อของมาฝากบ้านคุณน้าสายบัวผิงเอาไปให้คุณน้าหน่อยได้ไหมลูก”
“ผิง...”
เธอไม่อยากออกไปเลยเพราะบ้านคุณน้าสายบัวหรือแม่ของ อาทิตย์ คู่หมั้นของเธออยู่ไกลนัก หากไปตอนนี้ต้องรถติดจนขาเป็นตะคริวแน่ อีกอย่างไปถนนสายนั้นทีไรเธอเป็นอันต้องหลงทางขับวนในอ่างทุกที
“ผิงไม่ว่างเหรอลูก”
“เปล่าค่ะ เดี๋ยวผิงไปให้ก็ได้ค่ะ”
แม้ในใจจะรู้สึกค้านไม่อยากไปแต่เธอก็ปฏิเสธแม่ไม่ลง เด็กว่านอนสอนง่ายที่ไม่เคยปฏิเสธพ่อแม่แบบเธอแค่อ้าปากพูดว่า ‘ไม่’ มันยากนัก
“แล้วก็อยู่คุยกับพี่อาทิตย์เขาก็ได้นะแม่ไม่ว่า”
“ค่ะแม่”
หลังจากหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในห้องร่างบางก็ยืนถอนหายใจ เธอจะไปคุยอะไรกับอาทิตย์ได้ล่ะในเมื่อในหัวเขามีแต่คำว่างาน แค่เธออ้าปากจะคุยสัพเพเหระด้วยอาทิตย์ก็มองดุเธอแล้ว
สายตาเขามักบ่งบอกเธอเสมอว่า ‘อย่ากวนพี่’ แล้วแบบนี้เธอจะกล้าอ้าปากคุยกับเขาได้อย่างไร
“เฮ้อเอาล่ะ ฮึบๆๆๆ”
ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างหน้ากระจกตะเบ็งเสียงให้กำลังใจตัวเองก่อนจะฉวยกระเป๋าสะพายข้างพร้อมกุญแจรถไปหาแม่ที่ชั้นล่าง
“แม่ให้ติ๋มเอาของขึ้นรถให้แล้วขับดีๆ นะลูก”
“ค่ะแม่”
ขับรถงมหาทางอยู่นานในที่สุดขนมผิงก็มาถึงบ้านของคู่หมั้นตัวเอง ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณขนมผิง” แม่บ้านเดินออกมารับด้วยรอยยิ้มสุภาพเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะพี่แตน”
เธอทำท่าจะยกของหนักออกจากท้ายรถแตนจึงรีบรุดเข้าช่วย ซึ่งทันใดนั้นเองรถเบนซ์สีดำคันหรูก็ขับเข้ามาจอดข้างรถเธอ
ผ่านไปครู่หนึ่งชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคมเข้มในชุดสูททางการสีดำก็ก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเย็นชา สายตาคมตวัดมองหน้าขนมผิงอยู่ครู่หนึ่งก็เรียกคนรับใช้ในบ้านให้มาช่วยยกของ
“สวัสดีค่ะพี่อาทิตย์”
สาวน้อยยกมือไหว้คู่หมั้นด้วยท่าทางสุภาพ แม้จะเป็นคู่หมั้นแต่อาทิตย์ก็ห่างจากเธอตั้งเจ็ดปี
“มีธุระอะไรหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามเสียงเรียบซึ่งขนมผิงก็ทำได้เพียงส่ายหน้า
“คุณแม่แค่ฝากของมาให้คุณน้าสายบัวค่ะ”
“อืม”
ไม่เจอหน้ากันหลายวันเขาก็ยังพูดน้อยเช่นเดิม เผลอๆ อาจจะพูดน้อยลงกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำ
“อ้าวขนมผิงมาแล้วเหรอลูก ขับรถนานไหมเห็นแม่เขาโทรมาบอกแล้วว่าหนูจะมาหา”
“ไม่นานค่ะคุณน้า แล้วก็นี่ของฝากค่ะ” ขนมผิงผายมือไปยังตะกร้าไม้ที่บรรจุของไว้หลายอย่าง
“ขอบใจมากนะลูกแต่น้าทำอาหารค้างไว้อยู่หนูอยู่กับพี่อาทิตย์ก่อนนะ”
จังหวะนั้นอาทิตย์ที่ยืนอยู่ข้างกันก็ตวัดสายตาหันมองหน้าผู้เป็นแม่ดังขวับ เขาว่างเสียที่ไหนกัน
“ผมมีงาน”
“ค่อยทำสิทำงานมาทั้งวันแล้วยังไม่พออีกหรือไง”
แม้จะอยากอ้าปากขัดแต่ด้วยอำนาจของคำว่าแม่ทำให้สุดท้ายอาทิตย์ก็ไม่อาจขัดใจเธอได้
“ตามมานี่สิ”
เอ่ยจบร่างสูงก็เดินนำสาวน้อยไปยังสวนหลังบ้านจากนั้นก็ปล่อยให้เธอนั่งคนเดียวส่วนตัวเองก็เดินเข้ามาหยิบไอแพดและโน้ตบุ๊ก
ระหว่างรออาทิตย์หยิบของขนมผิงก็แอบหยิบอมยิ้มขึ้นมาแกะกินพร้อมกับจิ้มโทรศัพท์มือถือกดส่งข้อความหากลุ่มเพื่อน
Group สี่สาวนักผจญเพลิง
เห็นชื่อกลุ่มทีไรขนมผิงก็อดหัวเราะไม่ได้ทุกที แต่ก่อนหน้านี้พวกเธอก็ผจญเพลิงจริงๆ นั่นแหละ เพลิงร้อนที่เรียกว่าสอบไฟนอล รนตูดเสียจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน
[อังเปา : นี่ชุดที่ฉันจะใส่คืนนี้เซ็กซี่ขยี้ใจไหม บอกเลยว่าแพง หรู ดูดีสุดๆ (แนบรูปภาพ) ]
อังเปาแนบภาพถ่ายรูปชุดที่เธอภูมิใจนำเสนอซึ่งเป็นเดรสสีดำสั้นจู๋เปิดหน้าเว้าหลังที่เห็นเนื้อหนังมังสาเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
[ลูกตาล : ถามจริงนะอุตส่าห์เสียเงินไปตั้งเยอะแต่กลับได้ผ้าขี้ริ้วมาผืนหนึ่งมันคุ้มเหรอ]
[อังเปา : กรี๊ดดดดด นี่แกบูลลี่ชุดฉันว่าเป็นผ้าขี้ริ้วเหรอ]
[ลูกตาล : กำลังคิดอยู่ว่าถ้าเอามาเช็ดลูกบาสน่าจะกำลังพอดีมือเลย]
[อังเปา : ยัยแม่ป้าดูมันว่าฉันสิ!]
[นะโม : อืม]
[อังเปา : แกจะไม่รังแกฉันอีกคนใช่ไหมผิง @ขนมผิง]
[ขนมผิง : สวยดีนะแต่ไม่เย็นเหรอหาเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ คลุมดีไหม เดี๋ยวแกจะไม่สบายเอานะ]
[ลูกตาล : ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ้ยขำ! เออสมเป็นยัยหนู แกทำตามที่ผิงบอกสิอังเปาอันนี้ฉันเห็นด้วยนะ]
[อังเปา : เฮอะๆ ขอบใจที่เป็นห่วงนะแต่ต่อให้ปอดบวมตายฉันก็จะโชว์ย้ะ! จบนะ]
ขนมผิงนั่งอ่านข้อความไปก็หัวเราะคิกคักโดยไม่รู้ตัวเลยว่าขณะนี้กำลังมีใครบางคนยืนมองเธออยู่
“กินอมยิ้มอีกแล้วนะคะ”
ใบหน้ากลมหันมองหน้าชายร่างสูงเจ้าของผมสีบลอนทองด้วยความประหลาดใจ เธอเบิกตาโต
“พี่เดย์?”
“ไงครับ เจอกันอีกแล้วนะ”
“พี่เดย์มาได้ยังไงคะ แล้วพี่เดย์รู้จักกับพี่อาทิตย์เหรอ” เธอยิงคำถามรัวๆ
เดย์ขยับร่างนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหญิงสาวซึ่งขณะที่กำลังจะเอ่ยตอบชายหนุ่มอีกคนก็เดินเข้ามาพอดี
“โทษทีนะพี่ไปคุยโทรศัพท์มา แล้วนี่...รู้จักกันเหรอ” อาทิตย์หันมองหน้าทั้งสองคนสลับกัน
“ครับน้องเป็นเพื่อนสนิทของแฟนเพื่อนสนิทผม”
ขนมผิงคิดตามคำพูดของเดย์ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานให้อาทิตย์
“งั้นก็ดี รีบกลับไหมเดย์อยู่คุยเป็นเพื่อนขนมผิงหน่อยสิพี่มีคุยงานกับลูกค้า”
“ถ้าพี่อาทิตย์ติดงานหนูกลับก็ได้นะคะ ไม่ต้องรบกวนพี่เดย์”
ขนมผิงจำได้ว่าเดย์มีอ่านหนังสือเตรียมสอบ อีกอย่างเธอเองก็อยากกลับบ้านแล้วเหมือนกันเพราะอยู่ไปเธอก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี
“น้องผิงอยากกินทาโกะยากิไหมครับ”
จบประโยคดวงตาสีอ่อนก็ประกายวิบวับขึ้นทันที
“แถวนี้มีร้านดังร้านหนึ่งเดี๋ยวพี่พาไปกินเอาไหม”
เขากระซิบข้างหูเธอ ซึ่งแน่นอนว่าเอาของกินมาล่อเช่นนี้มีเหรอที่ขนมผิงจะปฏิเสธเธอรีบพยักหน้าตอบตกลงกับเดย์ทันที
“งั้นผมกลับก่อนนะพี่อาทิตย์” เขาเอ่ยกับอาทิตย์พร้อมกับลุกขึ้นยืนก่อนจะหันมามองหน้าอีกคนที่ยังนั่งอยู่ “ไปค่ะผิง” เอ่ยจบก็ไม่ลืมรอคนน้อง
“งั้นผิงกลับก่อนนะคะพี่อาทิตย์สวัสดีค่ะ”
อาทิตย์ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรทำเพียงพยักหน้าลงพร้อมกับมองแผ่นหลังของทั้งสองคนเดินจากไป
เมื่อเดินออกมาพ้นหน้าบ้านอาทิตย์แล้วเดย์ก็ฉุดข้อมือขนมผิงให้หยุดเดินจนเธอชะงักดังกึก
“คะ?”
“กุญแจรถค่ะ”
เขาแบมือขอกุญแจรถจากเธอ ซึ่งขนมผิงก็ทำท่าจะเดินออกจากบ้านอาทิตย์โดยลืมไปเลยว่าตัวเองขับรถมา
“เดี๋ยวเอารถไปจอดบ้านพี่ก่อนแล้วเดี๋ยวเราค่อยปั่นจักรยานไปกันนะ”
“บ้านเดย์อยู่ไหนเหรอคะ?”
สิ้นเสียงถามชายหนุ่มก็ชี้นิ้วไปยังบ้านหลังใหญ่ข้างบ้านอาทิตย์
“เอ้า! อยู่ข้างบ้านพี่อาทิตย์นี่เอง ผิงก็มาบ้านพี่อาทิตย์บ่อยนะคะแต่ทำไมไม่เคยเห็นพี่เลยล่ะ”
“เหรอแต่พี่เห็นผิงบ่อยนะ ทุกครั้งที่ผิงมาบ้านพี่อาทิตย์เลย”
“จริงเหรอคะ!” สาวน้อยเผลอทำเสียงหลง เธอไม่คิดว่าตัวเองกับเดย์จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้
“ไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวพี่ดูแลผิงเอง”
เดย์มองหน้าขนมผิงด้วยนัยน์ตาสะท้อนความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูด ต่างจากอีกคนที่มองเขากลับด้วยแววตาใสซื่อไร้เดียงสาที่มีแต่คำว่าทาโกะยากิแปะอยู่บนหน้าเดย์