เพราะเขารู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นสินะ…
เธอนั่งกอดร่างกายที่เปลือยเปล่าท่ามกลางความเงียบ หลังจากเขาเดินออกไปจากห้องนอน น้ำตาที่อัดอั้นมานานถูกปลดปล่อยออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอซุกใบหน้าลงกลางเข่าร้องไห้จนตัวโยน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าเปื้อนเรียวแขนที่กอดร่างตัวเอง ทำไมชีวิตของเธอถึงบัดซบขนาดนี้
เธอเกลียดความรู้สึกนี้…
เกลียดที่ตัวเองอ่อนแอ…
เกลียดที่ตัวเองไม่มีทางเลือก…
ใครๆ ต่างคิดว่าการเกิดมาในครอบครัวที่มีพร้อมทุกอย่างคือความโชคดี แต่เปล่าเลย…ความร่ำรวยไม่เคยให้สิทธิ์เธอในการเลือกเส้นทางชีวิตตัวเองได้เลยสักครั้ง
ตั้งแต่เด็กจนโตเธอมีหน้าที่เพียงทำตามที่พ่อบอกเท่านั้น ความฝันในการเป็นนักบัลเล่ต์ถูกพ่อทำลายอย่างไร้เยื่อใย เธอยังจำภาพรองเท้าบัลเล่ต์คู่โปรดที่ถูกโยนเข้ากองไฟได้ดี มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเหมือนตัวเองสูญเสียอะไรบางอย่างไปอย่างไม่มีวันได้คืน
เหมือนตอนนี้…
ไมอาเม้มปากแน่น สะกดกลั้นเสียงสะอื้น ไม่ว่าเธอจะร้องไห้หนักแค่ไหน มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงอะไรเลย
‘ฉันจะเห็นแก่ที่เธอเป็นเพื่อนเมียเพื่อนฉันก็แล้วกัน ฉันให้เวลาเธอคิดถึงพรุ่งนี้’
‘ถ้าเปลี่ยนใจ…ก็คลานสี่ขาเข้ามาหาฉัน’
คำพูดนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวของเธอ…
เธอไม่คิดว่าเลยว่า ‘พี่ธีสิส’ ที่รู้จักในฐานะเพื่อนของสามีเพื่อนสนิทเธอแท้จริงแล้วเป็นคนแบบนี้ เพราะเขารู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกมากนักคงนึกอยากลองใจเธอดูสินะ มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มลวกๆ เธอหยิบเสื้อผ้าที่ถอดออกกลับมาสวมใส่เหมือนเดิม
•••
ไมอาเดินออกจากห้องนอนของคลับเฮาส์ท่ามกลางความรู้สึกมากมายที่โถมเข้าใส่ แววตาไร้ซึ่งความสุข เดินมาได้สักพักก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้า
“จะไปไหน”
“กลับค่ะ”
ธีสิสกอดอกหรี่ตามองไมอาเพียงนิด ที่ผ่านมาเขาไม่เคยปล่อยเหยื่อหลุดมือไปสักราย เห็นแก่ความเป็นเพื่อนเมียของเพื่อนสนิทตัวเองเลยยอมแค่ไมอาคนเดียว เขาพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ อย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
“พี่ธีสิสไม่ต้องเป็นห่วง ไมอาให้คำตอบพรุ่งนี้แน่นอน”
“คงงั้น เส้นตายของเธอมีแค่นั้น” เขาตอบเสียงเรียบ
เธอไม่พูดอะไรอีก เท้าเล็กก้าวเดินเลี่ยงออกไปอย่างช้าๆ เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้ง เธอหมุนตัวกลับไปหาธีสิสที่กำลังเดินออกไป
“พี่ธีสิสคะ”
ชายหนุ่มหันกลับไปมองเสียงเรียกเมื่อครู่นิ่งๆ
“คือว่า…ขอไลน์ไว้ได้ไหมคะ”
“?” หัวคิ้วเข้มชนกันอัตโนมัติด้วยความแปลกใจ ส่วนไมอายืนอ้ำๆ อึ้งๆ ทำตัวไม่ถูกหลังจากเผลอเอ่ยขอไลน์อีกฝ่าย
“คือ…ไมอาแค่อยากขอไว้ติดต่อเฉยๆ น่ะค่ะ” นั่นคือจุดประสงค์จริงๆ ของเธอ
“เข้ามาใกล้ๆ สิ”
เธอลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอเมื่อได้ยินประโยคนั้น แต่ก็ยอมเดินเข้าไปหาเขาแต่โดยดี เธอยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้เขา ยืนรอสักพักเขาก็ยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ กำลังรับคืนมาหากแต่เขากลับชักกลับทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ขอจูบหน่อย”
กึกก
เธอตกใจไม่ใช่น้อย จู่ๆ เขาเล่น ‘ขอจูบ’ ตรงๆ อย่างนี้เลยหรือเนี่ย เธอหลุบตาต่ำมองแผงอกแกร่งด้วยหัวใจที่เต้นแรงบ้าคลั่ง เธอรู้ว่าเขาเป็นคนตรงๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะตรงขนาดนี้
“แค่จูบได้ป่ะ” เขาถามย้ำอีกรอบ สายตามองไมอาที่เอาเงียบจนน่าหงุดหงิด
เธอค่อยๆ เงยหน้ามองเขาแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ
ก็แค่…จูบเอง
ธีสิแสยะยิ้มพอใจ มือหนาเลื่อนไปประคองท้ายทอยของไมอา สัมผัสแรกจากริมฝีปากของเขาทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ปลายจมูกคมไล่เฉียดแก้มเธอไปแผ่วเบาก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะทาบลงมาอีกครั้ง…
ไมอาหลับตาแน่น ปลายนิ้วเผลอจิกเข้ากับเสื้อเชิ้ตของเขาโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ธีสิสสัมผัสถึงความสั่นไหวในร่างกายของเธอและความไร้เดียงสาที่ไม่สามารถซ่อนพ้นได้ มันทำให้ความอดทนของเขาเริ่มสั่นคลอน
“อึก…” เธอครางแผ่วเมื่อเขาแนบริมฝีปากหนักขึ้น ปลายลิ้นร้อนชื้นแตะสัมผัสกับกลีบปากของเธอเบาๆ คล้ายหยอกเย้า
มือหนาขยับลงมาตรึงสะโพกมนโดยสัญชาตญาณ ความหอมหวานจากริมฝีปากของเธอราวกับจะดึงเขาให้จมลึกไปมากกว่านี้ เพียงเสี้ยววินาทีที่สติกลับคืนมาธีสิสก็รีบดึงตัวออก
ไมอาหอบหายใจถี่ ใบหน้าแดงก่ำ ขณะที่ธีสิสใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากตัวเองพลางหรี่ตามองเธออย่างครุ่นคิด
“เธอ…” เขาขยับเข้าไปใกล้อีกครั้ง ปลายนิ้วเชยคางมนขึ้น ดวงตาคมกริบจ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตที่ยังคงฉ่ำวาวจากจูบเมื่อครู่ “ไม่เคยจูบใครมาก่อนใช่ไหม?”
ไมอาสะดุ้งเล็กน้อย ใจเต้นรัวจนแทบควบคุมไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงเม้มริมฝีปากแน่น แล้วเบือนหน้าหนี
ธีสิสจ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก มือหนายกขึ้นลูบเรือนผมนุ่มของเธออย่างแผ่วเบา
“หึ คนเป็นจูบแรกของเธอสินะ”
“ถะ…ถ้าพี่ธีสิสไม่มีอะไรแล้ว ไมอาขอตัวกลับนะคะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก รีบเดินจ้ำอ้าวออกไปพร้อมกับสัมผัสจูบแรกที่ยังคงติดอยู่บนริมฝีปาก
จูบนั่น…เป็นจูบแรกของเธอ
วันต่อมา
The Daimond Bar
เธอมานั่งดื่มคนเดียวอีกครั้งที่หน้าบาร์ มือเล็กจับแก้วเหล้าในขณะที่สายตาจ้องมองของเหลวสีสวยในแก้ว เสียงเพลงรอบข้างไม่ได้ช่วยทำให้เธอรู้สึกสนุกสนาน เธอยกแก้วน้ำเมากระดกจนหมด ปล่อยให้แอลกอฮอล์ค่อยๆ ซึมเข้าร่างกายทีละนิด ทีละนิด…
เริ่มมึนเล็กน้อย ความเครียดที่แบกมาค่อยๆ เบาลงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเข้าไลน์ สายตามองรูปโพรไฟล์ไลน์ของธีสิสอย่างชั่งใจ ก่อนจะกดเข้าไปในไลน์ของเขาที่ยังไม่มีบทสนทนาสักประโยค
มือเล็กคว้าแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นมากระดกที่เหลือจนหมดแก้ว เมื่อเริ่มได้ที่แล้วจึงแตะนิ้วลงแป้นพิมพ์เพื่อพิมพ์ข้อความ
ไมอา : พี่ธีสิส
ไมอา : ให้ไมอาไปเจอที่ไหนคะ
เธอวางโทรศัพท์ลงบนบาร์แล้วหันไปคว้าแก้วน้ำเมาที่บาร์เทนเดอร์รินให้เมื่อครู่ขึ้นมาดื่มทีละนิด ตอนนี้เริ่มเมากรึ่มเล็กน้อยแต่ยังไม่สุด เธอตั้งใจมาดื่มเพื่อให้ตัวเองมีความกล้าทำเรื่องแบบนั้นกับเขา จริงๆ เธอรู้อยู่แล้วว่าถึงยังไงตัเองก็ต้องตกลง ‘เป็นของกำนัล’ ของเขาอยู่แล้ว
แค่…อยากมีเวลาทำใจกับเรื่องนี้ก็เท่านั้น
ติ๊ง
หน้าจอโทรศัพท์สว่างวาบพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้น ไมอาหยิบขึ้นมาดู มั่นใจว่าเป็นเขาที่ตอบกลับมา และมันก็ใช่…
ธีสิส : ตอนนี้ฉันอยู่T1
ไมอา : ให้ไมอาไปหาที่นั่นใช่ไหมคะ
ธีสิส : รออยู่
เธออ่านแล้วใจสั่น มือปัดหน้าจอออกจากไลน์โดยไม่ได้ตอบกลับอะไร เธอกระดกน้ำเมาที่เหลือในแก้วจนหมดแล้วเรียกพนักงานมาเช็กบิล ก่อนจะคว้ากระเป๋ามาคล้องบ่าแล้วเดินออกไปจากบาร์หรูแห่งนี้