ของกำนัล 7 | ให้เวลาคิด NC เบาๆ

1679 Words
ธีสิสย่างสามขุมเข้าไปหาไมอาที่มีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเปิดเผย มุมปากหยักเหยียดยิ้มอย่างพอใจเมื่อเจออาหารที่ถูกใจ มือเล็กของไมอาดันไหล่แกร่งออกห่าง กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เจือกลิ่นน้ำหอมราคาแพงทำหัวใจดวงน้อยสั่นไหวได้ไม่ยาก ดวงตาคมกริบปรายมองมือเล็กเพียงนิด ก่อนจะปัดออกอย่างไร้เยื่อไย มือหนาจับข้อมือเล็กตรึงลงเตียงนอนส่วนตัวเองคร่อมอยู่ข้างบน การกระทำอุกอาจสร้างความตกใจให้แก่คนใต้ร่างไม่ใช่น้อย “พะ…พี่ธีสิสอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” เธอไม่เคยใกล้ชิดเขาขนาดนี้มาก่อน อย่างมากแค่ตอนไปสนามแข่งหรือไปดื่มกับพวกเพื่อนๆ จะนั่งข้างกัน แต่ไม่เคยใกล้จนใจสั่นขนาดนี้ เธอเบือนใบหน้าหนีไปทางอื่นพร้อมกับเม้มปากแน่น “กลัวเหรอ ตัวสั่นเชียว” “ขอร้องนะคะ อย่าทำแบบนี้เลย” “เธอขอร้องผิดคนแล้วมั้ง” เขาพูดจบก็เลื่อนมือไปบีบคางของไมอาแน่นแล้วดันให้กลับมามองหน้าเขา ไมอาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วเย็นเฉียบกดลงบนผิวเนียนของเธอ ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น ธีสิสมองเธอราวกับเหยื่อที่กำลังดิ้นรนหนีจากกรงเล็บนักล่า ธีสิสหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนโน้มใบหน้าลงใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดข้างแก้ม “รู้ไหมว่าฉันชอบเวลาที่เห็นเธอทำหน้าตาแบบนี้มากที่สุด” น้ำเสียงเขาเจือความเย้ยหยัน “ไมอาไม่ได้อยากเป็นของพี่…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แล้วจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อพ่อเธอเซ็นยกเธอให้ฉันปแล้ว” เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่ก็ไม่สามารถทำไม่ได้ ดวงตากลมโตเริ่มคลอไปด้วยหยาดน้ำ ธีสิสจ้องมองเธอ ราวกับกำลังอ่านใจเธออยู่ ก่อนที่มือหนาจะค่อยๆ คลายแรงลงจากข้อมือเธอ และผละออกจากร่างเล็กในที่สุด ไมอาหลุดหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ยังคงระแวดระวัง เขายังนั่งอยู่บนเตียง มองเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก “อยากกลับไหม?” เขาถามเสียงเย็น เธอพยักหน้าทันที “ประตูอยู่ตรงนั้น ถ้าเธอก้าวออกไปแล้ว…ไม่มีสิทธิ์กลับมาอีกแล้วนะ” เธอนิ่งชะงักลงไป ทำไมเขาถึงปล่อยเธอไปง่ายดายขนาดนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าพ่อเซ็นยกเธอให้เขาแล้ว ประโยคนั้นของธีสิสทำให้เธอครุ่นคิด และจู่ๆ ประโยคหนึ่งของพ่อที่เคยพูดก็ฉายเข้ามาในหัว ราวกับกำลังเตือนความทรงจำเธออยู่ ‘แกเลิกต่อปากต่อคำสักทีไมอา! ถ้าแกไม่ยอมไปบ้านหลังนั้นที่ตากับยายแกอยู่ฉันจะขายทิ้งซะ! ดูสิว่าคราวนี้แกจะทำยังไง!’ เธอช้อนสายตามองธีสิสที่ยืนหันหลังเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมองออกไปข้างนอกห้อง มือเล็กจิกผ้าปูที่นอนแน่น ที่เขาพูดเมื่อครู่ เพราะเขารู้ว่ายังไงเธอก็คงไม่ยอมเปิดประตูบานนั้นออกไปแน่ๆ “…ไมอาต้องอยู่แบบนี้ไปนานแค่ไหนคะ” ประโยคนั้นของไมอาเรียกรอยยิ้มมุมปากจากธีสิสได้ไม่ยาก ชายหนุ่มไม่ได้หันมามองหากแต่ขยับริมฝีปากตอบกลับแค่นั้น “จนกว่าฉันจะเบื่อ” “นานแค่ไหนคะที่พี่ธีสิสจะเบื่อไมอา” “ฉันเป็นคนเบื่อง่าย” “ละ…แล้วไมอาต้องทำอะไรบ้างคะ” คราวนี้ธีสิสหมุนตัวกลับไปมองไมอาที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงนอนด้วยแววตาหวาดหวั่น ชายหนุ่มก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปหาไมอาอีกครั้ง มือหนาเชยคางมนขึ้นเล็กน้อย สายตาคมกริบมองใบหน้าสวยหวานไร้ที่ติ ดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตารับกับหน้าม้า ทั้งสวย น่ารัก และดูเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน “หน้าที่ของเธอ แค่นอนเป็นที่ระบายอารมณ์บนเตียง แค่นั้นพอทำได้ไหม?” “ตะ…แต่ไมอา…” เธอหลุบตาต่ำลงพร้อมกับน้ำเสียงที่ค่อยๆ แผ่วเบา ก่อนจะขยับริมฝีปากพูดต่อโดยไม่สบสายตากับธีสิส “ไม่เคย” คำตอบจากไมอาทำธีสิสประหลาดใจ ทว่าในเวลาเดียวกันก็ไม่อยากปักใจเชื่อเต็มร้อยว่าเป็นความจริง มือหนาปล่อยลงจากคางมนมาล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ “ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ก่อนสิ” “…” เขาคงไม่เชื่อเธอหรอก เธอเองก็เที่ยวกลางคืนและชอบดื่มกับเพื่อน แต่ใช่ว่าคนที่เที่ยวกลางคืนจะต้องผ่านเรื่องบนเตียงมาอย่างช่ำชองนี่ เธอไม่ปริปากเถียงเพราะจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเขา เฮือก! เธอสะดุ้งโหยงเมื่อเขาใช้หลังมือเย็นเฉียบสัมผัสลงหัวไหล่ เมื่อเธอขยับเขาก็เปลี่ยนเป็นจับไว้แน่นจนเธอต้องนั่งนิ่งๆ ให้เขาสัมผัสตามใจ “ผิวเนียน ขาว…” จังหวะที่เขาโน้มใบหน้าลงมาสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอทำให้เธอเบือนใบหน้าหนีไปทางอื่นตามสัญชาตญาณ “ตัวก็หอม” “…” เธอนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปไหน การกระทำเมื่อครู่บวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากลมหายใจอุ่นทำหัวใจของเธอเต้นแรงไม่เป็นส่ำ ไมอาลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หัวใจสั่นระรัวทั้งเพราะความกลัวและความไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ตรงหน้า ธีสิสเลื่อนใบหน้าออกมามองเธอตรงๆ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่กำลังสั่นระริก เขาไล้ปลายนิ้วไปตามแนวไหล่เปลือยของเธอช้าๆ “ขอฉันเช็กของหน่อยได้ไหม” “ชะ…เช็กของ? ว๊าย! พี่ธีสิส!” เธออุทานร้องเสียงหลงเมื่อเขาผลักให้นอนราบลงไปกับฟูก หัวใจดวงน้อยเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะกระดอนออกมาจากขั้ว เธอยกมือดันแผงอกแกร่งแต่กลับถูกจับกดลงเตียง “ไมอายังไม่พร้อม” “เธอไม่ได้มีตัวเลือกมากขนาดนั้น” “แต่พี่ธีสิสทำไม่ถูก” “อย่าลืมสถานะของตัวเองตอนนี้สิไมอา” “ไมอาไม่ได้ลืม…” เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พลางเบือนใบหน้าไปทางอื่น เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีตัวเลือกมากมายอย่างที่เขาบอก เพียงแค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม ‘เป็นของเขา’ “นอนนิ่งๆ ให้ฉันเช็กของ” เธอทำใจนอนนิ่งๆ ให้เขา ‘เช็กของ’ ตามต้องการ จังหวะมือหนาลูบไล้ไปตามร่างกายทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เนื้อตัวพลอยสั่นเกร็งตามไปด้วย “ถอดเสื้อผ้าของเธอออกซะ” “พี่ธีสิส…” “ห้ามต่อรอง” ธีสิสผละตัวออกจากร่างบาง สายตาคมกริบมองหญิงสาวอย่างไม่กดดัน ไมอาค่อยๆ ดึงตัวขึ้นมานั่งแล้วถอดชุดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอเม้มปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงพร้อมกับก้มหน้าด้วยความกระดาก ทว่าเธอไม่มีตัวเลือกมากมายนัก ถ้าไม่ยอมอีกคนอาจจะไม่พอใจแล้วใช้อารมณ์นำพา ตอนนี้ร่างกายของไมอาเหลือเพียงชั้นในสองชิ้นที่ปกปิดความสวยงาม โดยท่อนบนเธอใส่เป็นบราเกาะอกและท่อนล่าง…แพนตี้ลายลูกไม้สีขาว “ทีนี้ก็…อ้าขาออก” “พี่ธีสิส…” เธอเรียกชื่อเขาแผ่วเบาราวกับขอให้เขายังมีเมตตากับเธออยู่บ้าง “จะอ้าเองดีๆ หรือจะให้ฉันทำเอง?” “ไหนพี่ธีสิสบอกแค่จะเช็กของไงคะ” “เลือกเอาระหว่างถอดหมดกับเหลือไว้แค่นี้” เขาให้ตัวเลือกไมอาได้แค่นั้น คราวนี้สายตาจับจ้องคนตรงหน้าอย่างกดดัน ไมอาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ‘ยอมทำตามคำสั่ง’ เธอค่อยๆ แยกขาออกจากกันจนเผยให้เห็นกลีบอวบอูมที่ดันแพนตี้ลายลูกไม้สีขาว ธีสิสมองแค่นั้นก็เริ่มหอบหายใจหนัก นัยน์ตาที่เคยมองไมอาค่อยๆ ดำมืดลงแฝงไปด้วยอารมณ์ปรารถนา สวยไปหมด… “พะ…พอรึยังคะ” ธีสิสไม่ตอบ สายตาช้อนมองไมอาที่เริ่มหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือหนาเลื่อนไปหมายจะสัมผัสความสวยงามที่ซ่อนอยู่ใต้แพนตี้ลายลูกไม้ หากแต่ไมอากลับหุบขาเข้าหากันอย่างไว “พี่ธีสิสบอกแค่จะเช็กของไม่ใช่เหรอคะ” “อ้าขาออก” “พี่ธี…” “อ้า ขา ออก” คราวนี้เขาย้ำเสียงเข้มจนแววตาไมอาไหววูบ เธอค่อยๆ แยกเรียวขาออกจากกันอีกครั้ง เขาใช้มือสัมผัสจุดอ่อนไหว ลูบไล้ไปมาตรงติ่งเกสรที่นูนออกมาเล็กน้อยด้วยอารมณ์กระสัน “อึก” เธอกระตุกเบาๆ ตอนที่ถูกเขาสัมผัสตรงนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่โดนผู้ชายจับส่วนจุดลับที่หวงแหน มันรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสือนับพันตัวกำลังบินวนตรงท้องน้อย ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต… ยิ่งเขาคลึงหนักมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกว่ากางเกงในเปียกแฉะมากขึ้นเท่านั้น เธอเม้มริมฝีปากแล้วหันไปทางอื่นเพื่อซ่อนความรู้สึกตอนนี้จากสายตาเสืออย่างเขา จะบอกว่ารู้สึกดีก็ไม่เชิง จะบอกว่าเสียวจนทรมานและไม่อยากให้เขาหยุดทำก็อาจใช่ เธอไม่ควรรู้สึกแบบนี้สิ “หึ แค่เอานิ้วลูบก็แฉะแล้วเหรอ” เขาพูด พลางกระตุกยิ้มมุมปาก ไมอาทำให้เขาเกือบหน้ามืดตามัวกระชากแพนตี้ลายลูกไม้สีขาวนั่นออกแล้ว “…” เธอไม่ตอบ ค่อยๆ หุบขาเข้าหากันเมื่อเขาหยุดการกระทำดังกล่าว ในใจแอบรู้สึกเสียดายแต่ก็ไม่กล้าปริปากขอให้เขาทำต่อ “ฉันจะเห็นแก่ที่เธอเป็นเพื่อนของเมียเพื่อนฉัน ฉันให้เวลาเธอคิดถึงพรุ่งนี้” เธอมองหน้าเขาแล้วนิ่งเงียบ “ถ้าเปลี่ยนใจ…ก็คลานสี่ขาเข้ามาหาฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD