คุณหญิงจรรยานิ่งเงียบ ทอดถอนใจเฮือกใหญ่ หลายปีมานี้นางเห็นหลานสองคนอยู่ในสายตาตลอด รู้ทุกเรื่องราวความเป็นไป ทั้งความรักความแค้นของทั้งคู่จนหมดเปลือก ความเข้าใจผิดของกัญจน์ที่มีต่อมธุมาสสร้างบาดแผลฉกรรจ์ในใจ ก่อให้เกิดความไม่เชื่อใจและนำมาซึ่งการทำร้ายจิตใจแก่เด็กสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ที่ผ่านมานางนึกเห็นใจมธุมาสเป็นที่สุด เธอมีความอดทนอดกลั้นจนน่านับถือ หลายครั้งที่หลานชายนางปฏิบัติต่อคนเป็นภรรยาอย่างไม่ให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลังนาง โดยเฉพาะเรื่องที่กัญจน์เลี้ยงดูพิมพ์รวีอย่างออกหน้าออกตา ควงกันออกสื่องานโน้นงานนี้โดยไม่แคร์คำครหา ไม่เพียงเป็นการตบหน้ามธุมาสและครอบครัว แต่ยังสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจอย่างถึงที่สุด
ผู้หญิงเราจะมีเรื่องไหนเจ็บปวดมากไปกว่าการที่สามีนอกใจ ซ้ำยังยกผู้หญิงคนอื่นเชิดชูเหนือกว่าคนเป็นเมียอย่างเราอีกเล่า...
ยิ่งในงานเลี้ยงวันเกิดของนางครั้งนี้ยิ่งเห็นได้ชัด กัญจน์ฉีกหน้ากรีดหัวใจมธุมาสจนเหวอะหวะยับเยิน กล้ายัดเยียดของขวัญของเมียน้อยเอามาให้เมียเอกออกหน้าอวยพรนาง ไม่อยากจะคิดเลยว่าหลานสะใภ้แสนดีของนางหัวใจจะร้าวระทมขมขื่นขนาดไหน
ครั้งนี้มธุมาสคงทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงออกปากขอหย่าเอง ทั้งที่เธอรักหลานชายนางมากชนิดยอมตายถวายหัว
“มาร์แน่ใจแล้วเหรอลูก”
มธุมาสกัดปาก ต่อสู้กับจิตใจตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายก็เอ่ยออกมาเสียงเบาหวิวว่า
“ค่ะ”
เธอเหนื่อยแล้ว...
บนเส้นทางความรักที่เต็มไปด้วยปลายเข็มแหลมคม เธอวิ่งไล่ตามเขาอย่างบ้าคลั่ง ยืนอยู่ท่ามกลางความอ้างว้างเพียงลำพัง ถึงจะระวังตัวแค่ไหนก็ไม่พ้นถูกทิ่มแทงให้เจ็บปวด นับวันรังแต่จะบั่นทอนกำลังใจของเธอให้อ่อนล้า ร่างกายหมดแรงอ่อนล้าล้มลุกคลุกคลานไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ แต่ไม่กลับไม่เคยมองเห็นแสงสว่างของความสุขที่ปลายอุโมงค์เลย
ความหวังนับวันยิ่งริบหรี่และมืดมิด...
ตอนนี้เธอรู้ตัวแล้ว และอยากจบทุกอย่างเต็มที!
“ย่าจะให้เวลามาร์ได้คิดทบทวนอีกหนึ่งอาทิตย์ ถ้าหากลูกยังคืนยันคำเดิม ย่าก็จะไม่บังคับ อยากหย่าก็หย่า... ดีมั้ย?”
น้ำเสียงทอดอ่อนที่เอ่ยถามอัดแน่นไปด้วยความผิดหวังและเสียดาย ทำให้มธุมาสสะเทือนใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เธอสะอื้นตัวโยนจนของตาแดงช้ำ เป็นนานกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้ รวบรวมแรงใจที่เหลือเอ่ยกับท่านเสียงสั่นเครือว่า
“มาร์คิดทบทวนมาหลายครั้งแล้วค่ะ และไม่คิดจะเปลี่ยนใจ”
เห็นแววตาวาววับที่หนักแน่นเด็ดเดี่ยว คุณหญิงจรรยาก็รู้ว่าป่วยการที่จะยื้อเด็กสาวได้อีกต่อไป นางพยักหน้าอย่างจำใจ
“ตามใจ” ก่อนจะถอนหายใจเหยียดยาวอย่างนึกปลงตก ในเมื่อหลานชายนางโง่เอง ก็รับผลที่ตัวเองก่อแล้วกัน
คุณหญิงใหญ่เอนกายลงนอนเป็นการจบบทสนทนาลงเพียงเท่านี้ มธุมาสลุกขึ้นดึงผ่าห่มคลุมกายท่านอย่างนุ่มนวล ก่อนจะกล่าวลาแล้วออกจากห้องไปโดยมีสายตาของนางมองตาม แววตาเฉียบคมเจนโลกมามากหรี่ลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายถึงใครบางคน เอ่ยความต้องการอย่างตรงประเด็นเมื่อปลายสายกดรับ
“ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วย”