เท้าเหยียบคันเร่งพุ่งทะยานรถยนต์ไปข้างหน้าราวกับเหาะได้ พอถึงจุดหมายมธุมาสก็เดินดุ่มๆ เข้าไปในสำนักงานด้วยสีหน้าบึ้งตึงไม่สนใจใคร เธออยากจะไปกระชากคอเสื้อแล้วถามเขานักว่ายังเป็นลูกผู้ชายอยู่รึเปล่า ถึงได้กล้าใช้วิธีต่ำช้าแบบนี้มาเล่นงานกัน
ยังไม่ทันจะได้ขึ้นลิฟต์ เธอก็ถูกพนักงานต้อนรับและรปภ. สองคนขวางทางราวกับได้รับคำสั่งมาก่อนแล้ว แต่คนท่าทีแข็งกร้าวสีหน้าดุดัน บ่งฟ้องว่าจะไม่ยอมให้เธอก้าวขาผ่านไปได้แน่นอน
“หลีกไป! ฉันต้องการพบเจ้านายของพวกคุณ” เธอประกาศลั่นตึก
พนักงานต้อนรับสาวสวยเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว ถึงมธุมาสจะเป็นภรรยาของบอส แต่ก็ไม่เป็นที่ยอมรับของสามี แล้วหล่อนจะต้องกลัวอะไร
“ขอโทษค่ะ ดิฉันคงให้คุณขึ้นไปไม่ได้ เพราะท่านประธานสั่งไว้ว่าที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”
มธุมาสกำมือแน่น อยากจะบุกเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทำไม่ได้ คนของเขาควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา แทบไม่มีช่องให้เธอเจาะเข้าไปได้เลย
“เจ้านายของพวกคุณเกิดมาเสียชาติเกิดจริงๆ เป็นลูกผู้ชายแท้ๆ แต่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผู้หญิงอย่างฉัน ต้องให้ลูกน้องอย่างพวกคุณคอยปกป้อง ส่วนเขาก็หลบอยู่หลังกระโปรงผู้หญิง ถ้าฉันเป็นพวกคุณ ฉันคงละอายที่มีเจ้านายแบบนี้ คงต้องเดินเอาปี๊บคลุมหัวไปนานแล้วละ”
หญิงสาวเหยียดยิ้มเอ่ยเหยียดหยามท่านประธานใหญ่อย่างไม่ไว้หน้า เธอตะโกนสุดเสียงจงใจให้คนรู้กันทั่ว แถมยังชี้นิ้วไปยังกล้องวงจรปิดด้วย เธอมั่นใจว่ากัญจน์กำลังมองมันอยู่ ถึงไม่ได้ยินเสียง ก็ให้เห็นท่าทีรังเกียจของเธอชัดๆ หน่อยเถอะ
“คุณกัญจน์! แน่จริงก็ออกมาสู้กันตัวต่อตัวสิ อย่าดีแต่เก่งทำตัวเป็นหมาลอบกัด ทีตอนรังแกคนอื่นไม่เห็นคุณจะละอาย ทีตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าฉันรึไง
คุณมันขี้ขลาด!
ผู้บริหารธนาคารสยามชาติมีดีแค่นี้รึไง?”
สิ้นเสียงเอ็ดตะโรของเธอ ประตูลิฟต์เฉพาะท่านประธานก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเลขาคนสนิทของกัญจน์ เสกสรรเดินตรงมาทางเธอ ก่อนจะผ่านเลยไปคล้ายกับไม่เห็นหัวกัน
มธุมาสขมวดคิ้ว หันหลังขวับ เห็นเสกสรรค้อมตัวให้พิมพ์รวีที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ก่อนที่เขาจะผายมือเชิญ
“นายกำลังรออยู่ครับ...คุณพิมพ์รวี”
“ไปบอกเขาว่าฉันต้องการพบ” มธุมาสโพล่งสั่งเสกสรรเสียงแข็ง ไม่รอให้พิมพ์รวีได้ก้าวขา
“คงไม่สะดวกครับ วันนี้นายไม่รับแขก” เสกสรรปฏิเสธอย่างสุภาพแทนที่จะบอกว่ากัญจน์ไม่ต้อนรับอดีตภรรยาอย่างเธอ
มธุมาสแค่นยิ้ม เข้าใจนัยยะของคนพูดดีแม้ไม่เอ่ยออกมาตรงๆ
ไม่รับแขกอย่างนั้นหรือ... แล้วทำไมพิมพ์รวีถึงมายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?
กัญจน์จงใจฉีกหน้าเธอ เขาไม่ยอมพบเธอ แต่เรียกหาพิมพ์รวีแทน อย่างนี้ต้องการให้เธออับอายขายหน้าชัดๆ !
“แต่ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับเขา และก็ด่วนที่สุดด้วย”
ไม่รออีกฝ่ายปฏิเสธให้รำคาญหู เธอก็หมุนตัวเดินตรงไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว แต่เสกสรรก็ก้าวขายาวๆ ตามเข้ามาขวางหน้าเธอทัน
“อย่าทำให้ผมต้องลำบากใจเลยครับ คุณก็รู้ดีว่านายเป็นคนยังไง”
“แล้วถ้าฉันดึงดันจะเข้าไปให้ได้ล่ะ”
“ผมก็คงต้องขอโทษที่ล่วงเกินคุณ” น้ำเสียงที่พูดราบเรียบไร้ความรู้สึก แต่ในปากเต็มไปด้วยถ้อยคำที่คุกคาม