บทที่ 2-3

1447 Words
ท่าทางหอบหายใจของหญิงสาวทำให้มุมปากข้างหนึ่งของจักรทิพย์ยกขึ้นสูงตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับดวงหน้าเรียวรูปไข่ที่ชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อของมนตระการ ชายหนุ่มจัดการปลดเปลื้องชุดเจ้าบ่าวบนตัวออกจนเหลือเพียงเรือนกายแข็งแกร่งเปลือยเปล่า ในขณะที่ดวงตาคมปลาบไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าของมนตระการแม้แต่เสี้ยวนาที “เธอรับบทสาวน้อยซื่อใสไร้เดียงสาได้ดีจริงๆ มนตระการ” ท่าทางตื่นกลัวนิดๆ กับร่างกายที่สั่นระริกไปกับสัมผัสที่ไม่คุ้นชินกลับทำให้จักรทิพย์ยิ่งปักใจเชื่อว่ามนตระการยังคงรับบทเป็นสาวน้อยซื่อใสไร้เดียงสา อารมณ์หวามไหวที่ถูกเขาปลุกปั่นก่อนหน้าปลิวหายเมื่อคำพูดของชายหนุ่มลอยเข้ามาในโสตประสาท มนตระการกัดริมฝีปากแน่นอย่างอดสู หญิงสาวไม่แม้แต่จะมองใบหน้าของคนเหนือร่างด้วยซ้ำ “ถ้าคุณจักรชอบ มนจะแกล้งทำบ่อยๆ ดีไหมคะ” อดไม่ได้ที่จะประชดประชันออกไปทั้งที่ความหนักอึ้งอัดแน่นอยู่ในอก จักรทิพย์ยิ้มหยันแต่ถึงกระนั้นเขาก็ฝังริมฝีปากลงบนเรียวปากอิ่มที่ไม่ได้หลบเลี่ยงแม้ในอกจะรวดร้าวเพราะยอมจำนน ฝ่ามืออุ่นสำรวจเรือนร่างเปลือยเปล่าของมนตระการอย่างถ้วนทั่ว เค้นคลึงที่สะโพกสวยอย่างปลุกเร้าอารมณ์หวาม ในขณะที่ยังปรนเปรอจุมพิตรุ่มร้อนอย่างไม่ยอมผละห่างแม้แต่เสี้ยวนาที ก่อนที่มือใหญ่จะเลื่อนลงสัมผัสความอ่อนนุ่มอย่างอุกอาจ หากแต่สัมผัสเร่าร้อนที่ชายหนุ่มพยายามเติมเต็มกลับเต็มไปด้วยความยากลำบาก นั่นทำให้ใบหน้าหล่อคมนิ่วหน้าอย่างแปลกใจ ทว่าความคิดนั้นก็เกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีเพราะความต้องการดิบเถื่อนที่พุ่งพล่าน แม้แต่พลังช้างสารก็มิอาจฉุดรั้งปรารถนาลึกล้ำที่อัดแน่นของเขาได้ และตัวตนแข็งขืนร้อนผ่าวก็เติมเต็มเข้ามา ตอนนี้เองที่จักรทิพย์รับรู้ได้ว่าคนใต้ร่างของเขายังบริสุทธ์ผุดผ่องและไม่เคยผ่านมือชายคนใดมาก่อน เขาเป็นคนแรกของเธอ “มนตระการนี่เธอ…” คราวนี้จักรทิพย์ไม่อาจเก็บความตื่นตกใจเอาไว้ได้ เมื่อรู้ว่าคนใต้ร่างยังบริสุทธิ์ผุดผ่องผิดจากข้อกล่าวหาที่เขาพยายามยัดเยียด แต่ชายหนุ่มก็เย่อหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากขอโทษขอโพย ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นในอกก็จริงทว่าก็เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของความรู้สึกเท่านั้น ไม่ได้มากถึงขั้นที่เขาต้องออกปากขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกที่มนตระการต้องสูญเสีย ถึงอย่างไรมนตระการก็ต้องเมียเขาวันยันค่ำ เพราะเขาไม่มีทางยอมเสียเปรียบให้อีกฝ่ายนอนกอดทะเบียนสมรสเฉยๆ แน่ ในระหว่างที่หญิงสาวเกี่ยวข้องกับเขาทางกฎหมาย เธอก็ต้องทำหน้าที่อย่างที่ภรรยาพึงกระทำ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องบนเตียง คิดอย่างเอาแต่ใจก็ขยับความร้อนผ่าวที่อัดแน่นเข้าไปจนสุดทางรัก ยอมผ่อนปรนความดุดันที่เคยมีก่อนหน้าลงนิดหน่อยเพราะตอนนี้รู้เต็มอกแล้วว่าคนใต้ร่างยังไม่คุ้นชินและไร้ประสบการณ์ ความปวดแปลบกับสัมผัสครั้งแรกทำให้มนตระการจำต้องระบายความเจ็บปวดระคนเสียวซ่านด้วยการจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม และจักรทิพย์ก็มีน้ำใจด้วยการปลอบประโลมหญิงสาวด้วยจุมพิตเร่าร้อน กระชากหญิงสาวให้ก้าวผ่านความเจ็บปวดเข้าสู่ความหฤหรรษ์ ครู่เดียวมนตระการก็โอนอ่อนผ่อนตามคนเหนือร่างอย่างยากที่จะหักห้ามใจ และเธอก็กลายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ ปราศจากเงาของร่างสูงในเช้าของอีกวัน มีเพียงไออุ่นจางๆ บนผ้าปูที่นอนยับย่นที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่ามนตระการไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะโอบกอดเธอเอาไว้ทั้งคืน และลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าและบอกอรุณสวัสดิ์กัน ความจำล่าสุดของมนตระการก็คือตอนที่อยู่ใต้ร่างของจักรทิพย์ และเขาก็รังแกเธอราวกับคนที่อดอยากปากแห้ง เล่นเอาหญิงสาวหลับไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว มนตระการค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง มือข้างหนึ่งกระชับผ้าห่มผืนใหญ่เอาไว้แน่นเพราะร่างกายใต้ผ้าห่มของเธอไม่มีอาภรณ์แม้แต่ชิ้นเดียว มนตระการพยายามใช้ผ้าห่มพันร่างกายของตนเอาไว้ แม้จะอยู่ในห้องเพียงลำพังเธอก็ยังเขินอายเกินกว่าจะเดินเข้าห้องน้ำด้วยร่างกายเปลือยเปล่าเลยจำต้องเข้าห้องน้ำทั้งๆ ที่มีผ้าห่มห่อตัวไปด้วยแบบนั้น ใช้เวลาราวสิบห้านาทีมนตระการก็ออกจากห้องน้ำมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดพร้อมผ้าขนหนูสีเดียวกันที่โพกอยู่บนศีรษะห่อหุ้มเส้นผมที่เปียกหมาด ชุดบ่าวสาวที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้องถูกเก็บใส่ตระกร้าเรียบร้อย ซึ่งมนตระการไม่แน่ใจนักว่าเป็นฝีมือของจักรทิพย์หรือแม่บ้านที่ชื่อป้านุ่ม แต่หากให้เดาเธอคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า คิดแบบนั้นก็อดจะรู้สึกหน้าร้อนไม่ได้ มนตระการพยายามปัดเรื่องนั้นออกจากหัว อย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็เป็นเรื่องจริง เธอเป็นภรรยาของเขาตามนิตินัยตอนพิธีแต่งงาน และยามค่ำคืนก็เป็นภรรยาของเขาตามพฤตินัยก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอยู่ดี มือเรียวหยิบไดร์เป่าผมในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาเป่าผมจนแห้งสนิทก่อนจะขยับเท้าไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบชุดเสื้อแขนตุ๊กตากับกระโปรงทวิสผ้าฝ้ายมาสวมใส่ เหลือบสายตามองนาฬิกาแขวนผนังที่บ่งบอกว่าเลยเวลาอาหารเที่ยงมาได้ราวๆ ชั่วโมงเศษ มนตระการไม่รอให้ท้องต้องส่งเสียงร้องท้วง หญิงสาวขยับเท้าออกจากห้องนอนมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวที่อยู่ชั้นล่างตั้งใจว่าจะทำอาหารง่ายๆ รับประทาน ที่ห้องครัว ป้านุ่มแม่บ้านร่างท้วมยืนง่วนอยู่ตรงหน้าเตา มนตระการไม่ทันเอ่ยปากทักทาย ป้านุ่มก็หันมาเจอหญิงสาวเสียก่อน “คุณลงมาพอดีเลย ป้าทำข้าวต้มหมูเอาไว้ให้ค่ะ กำลังร้อนๆ เชียว” รอยยิ้มใจดีที่ส่งมาทำให้มนตระการยิ้มรับอย่างเกรงใจ มนตระการไม่ปฏิเสธน้ำใจของอีกฝ่าย เท้าเล็กขยับไปที่เตาตั้งใจจะตักข้าวต้มหมูที่มีควันสีเทาจางลอยฟุ้งใส่ชาม แต่ป้านุ่มรีบยกมือปรามเอาไว้ “คุณนั่งเลยค่ะ เดี๋ยวป้าจัดการให้เอง” มนตระการเกรงใจอยู่มาก แต่เพราะไม่อยากขัดคำพูดของคนสูงวัยกว่าหญิงสาวจึงมานั่งรอที่โต๊ะยาวที่ตั้งอยู่ในห้องครัว ครู่เดียวป้านุ่มก็ยกชามข้าวต้มหมูกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาวางตรงหน้า “ขอบคุณค่ะ” รอยยิ้มเกลื่อนบนใบหน้าหญิงสาว “ป้านุ่มไม่ต้องเรียกมนว่าคุณก็ได้นะคะ เรียกมนเฉยๆ ก็พอ” “ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นเมียคุณจักร ป้าก็ต้องเรียกว่าคุณเหมือนกับเรียกคุณจักรก็ถูกต้องแล้วค่ะ” ได้ยินแบบนั้นมือเรียวที่กำลังตักข้าวต้มหอมๆ เข้าปากถึงกับชะงัก พวงแก้มทั้งสองข้างเห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งคำพูดต่อมาก็ตอกย้ำให้มนตระการยิ่งใบหน้าร้อนราวกับถูกนาบด้วยเหล็กร้อนจัด “เมื่อเช้าป้าก็เป็นคนเข้าไปเก็บกวาดห้องคุณนะคะ ทีแรกว่าจะปลุกขึ้นมากินมื้อเช้าเห็นคุณหลับสนิทป้าเลยไม่ได้ปลุกค่ะ” “มะไม่เป็นไรค่ะ” มนตระการเม้มปากแน่นอย่างเขินจัดก่อนจะส่งข้าวต้มหมูคำโตเข้าปาก ป้านุ่มยิ้มเอ็นดูก่อนจะทิ้งบทสนทนาเอาไว้ก่อนจะออกไปจากห้องครัว ปล่อยให้มนตระการได้รับประทานอาหารอย่างเป็นส่วนตัว “เมื่อเช้าป้าเห็นคุณจักรห่มผ้าให้คุณด้วยค่ะ น่ารักเชียว” คำพูดทิ้งท้ายของป้านุ่มทำให้มนตระการขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ก่อนที่คิ้วได้รูปที่ขมวดมุ่นก่อนหน้าจะคลายออกเมื่อคิดว่านั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวน้ำใจที่อีกฝ่ายคงไม่ได้เต็มใจมอบให้เธอสักเท่าไร อาจจะเพราะไม่อยากให้ป้านุ่มคิดว่าเขาเป็นคนแล้งน้ำใจกระมัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD