เรื่องจริงหรือเปล่า

1220 Words
รามัญขับรถไปส่งริณเรณูและเพื่อนของเธอที่หน้าสวนสนุกแห่งหนึ่งชายหนุ่มรอจนกระทั่งรถบัสคันใหญ่ที่พานักเรียนมาทัศนศึกษาเคลื่อนที่ออกไปจากบริเวณหน้าสวนสนุกเขาก็ขับรถกลับมายังคอนโดมิเนียมของตนเอง ชายหนุ่มอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ตามลำพังตั้งแต่เรียนจบเขาไม่มีครอบครัวที่ไหนเพราะเป็นเด็กกำพร้าที่ได้ทุนจากครอบครัวของคุณนารีส่งให้เรียนจนจบระดับปริญญาตรี จากนั้นชายหนุ่มก็ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ โดยมีรุ่นพี่ที่คอยให้คำแนะนำอยู่หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือคุณนครินทร์ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วคุณนครินทร์ก็เปรียบผู้มีพระคุณอีกคนหนึ่งของเขาเพราะนอกจากจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานแล้วมารดาคุณนครินทร์ก็คือคนที่ให้ทุนเขาจนเรียนจบ เรื่องที่ได้ยินมาวันนี้ทำให้รามัญคิดหนักเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าคุณศิตาภรรยาของคุณนครินทร์นั้นมีนิสัยยังไง คุณศิตาเธอไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้สามีของเธอ ถึงแม้ตอนนี้คุณนครินทร์จะอายุมากแล้วแต่ความหึงห่วงของคุณศิตาก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย และถ้าหากเธอรู้ว่าคุณนครินทร์มีลูกสาวอยู่อีกคนหนึ่งก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ แต่เรื่องนี้รามัญก็จะนิ่งนอนใจไม่ได้ถ้าหากเรื่องที่เด็กสาวชื่อริณเรณูเล่ามาเป็นความจริงทั้งหมดมันก็น่าเห็นใจอยู่มากๆ เขาไม่รู้หรอกว่าในอดีตคุณนครินทร์เคยแต่งงานกับมารดาของเธอก่อนที่จะมาแต่งงานกับคุณศิตาหรือเปล่า แต่ถ้าดูจากภาพถ่ายก็มีความเป็นไปได้สูง ชายหนุ่มคิดว่าต้องรีบไปคุยกับคุณนครินทร์ให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะสายเกินไปเพราะริณเรณูบอกกับเขาแล้วว่ามารดาของเธออาจจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน รามัญสลัดความคิดเรื่องริณเรณูออกไปจากหัวไม่ได้เลย เขาอยากจะโทรศัพท์หาคุณนครินทร์ตอนนี้แต่เมื่อดูเวลาแล้วก็เปลี่ยนใจเพราะตอนนี้คุณนครินทร์น่าจะกำลังกลับบ้านหรือไม่ก็อาจจะกำลังอยู่กับคุณสิตา เขาจึงคิดว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปนัดคุณนครินทร์และขอเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวทำทีว่าจะปรึกษาเรื่องบริษัทเมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและไปออกกำลังกายก่อนจะกลับขึ้นมาบนห้องและ อาบน้ำแต่งตัวออกไป นั่งดื่มคนเดียวที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก ขณะนั่งดื่มก็รู้สึกว่าตอนนี้โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อมันสั่นพอหยิบออกมาดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นว่ามีคนส่งข้อความมาทางไลน์และเธอก็คือเด็กสาวที่เพิ่งเจอกันเมื่อตอนบ่าย “อาคะตอนนี้หนูถึงพิษณุโลกแล้วค่ะ อีกไม่เกินห้าชั่วโมงก็จะถึงจังหวัดน่านค่ะ แต่ที่หนูไลน์มาบอกอาตอนนี้ก็เพราะกว่าหนูจะกลับถึงโรงเรียนก็คงดึกมากๆ หนูไม่อยากรบกวนคุณอาดึกขนาดนั้น หนูหวังว่าอาจจะไม่ลืมเรื่องที่คุยกับหนูนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ” จบจากข้อความก็มีสติกเกอร์รูปขอบคุณเด้งเข้ามาชายหนุ่มเห็นแล้วก็รู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย เขาไม่รู้เลยว่าถ้าไปคุยเรื่องเธอกับคุณนครินทร์แล้วผลมันจะออกมาเป็นยังไง แต่ก็คิดว่าตัวเองจะต้องพูดโน้มน้าวจิตใจให้คุณนครินทร์ไปเยี่ยมมารดาของริณเรณูให้ได้ แต่ก่อนอื่นก็คงต้องทำให้คุณนครินทร์เชื่อก่อนว่าเธอคือลูกสาวซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เลยว่ารูปถ่ายที่เด็กสาวเอามาให้นั้นมันเป็นรูปจริงๆ หรือเป็นหลักฐานที่เธอทำขึ้นมา แต่ดูจากรูปถ่ายซึ่งเหมือนเก่ามากๆ แล้วก็เชื่อไปแล้วมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่มันยังคาใจก็คืออายุของเธอกับอายุของลูกสาวคนโตคุณนครินทร์มันเท่ากัน ตอนนี้รามัญลังเลว่าจะตอบข้อความของเธอดีหรือเปล่า แต่เมื่อนึกถึงแววตาใสซื่อบนเศร้าของเธอชายหนุ่มก็ใจไม่แข็งพอ “ปกติอาก็นอนดึกอยู่แล้ว ถ้าถึงโรงเรียนก็ไลน์มาบอกอาด้วย อาคงยังไม่นอนหรอก” “ได้ค่ะถ้าหนูถึงแล้วจะไลน์มาบอก” “เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงหนูไม่ควรเอาเวลาพักผ่อนมาเล่นโทรศัพท์นะ” “ตอนนี้รถจอดให้เข้าห้องน้ำค่ะ หนูก็เลยตื่นแล้วไลน์มาบอกอาก่อนแต่ถ้าขึ้นรถหนูก็คงจะหลับต่อ” “แล้วอาทำอะไรอยู่คะ ดึกแบบนี้ทำไมยังไม่นอนอีก หนูขอโทษที่ถามเพราะหนูไม่รู้ว่าคนกรุงเทพฯ เขานอนดึกกันมากแค่ไหน” “อาออกมากินเหล้าน่ะ” “หนูขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ถ้างั้นหนูไม่กวนอาแล้วนะคะ บ๊ายบายค่ะ ถ้าถึงโรงเรียนแล้วหนูจะไลน์มาบอกอีกที” ชายหนุ่มนั่งจ้องโทรศัพท์มือถือนานเกือบห้านาทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ไลน์อะไรมาอีกเขาก็วางโทรศัพท์ลง ปกติแล้วเวลาออกมานั่งดื่มแบบนี้รามัญมักเรียกเด็กสักคนให้มานั่งด้วยจากนั้นก็ออกไปต่อกันข้างนอกจ่ายเงินให้เธอแล้วเรื่องทุกอย่างก็จบไปในเวลาคืนเดียว รามัญเป็นชายหนุ่มโสดที่ไม่เคยคิดอยากจะมีครอบครัว เขาไม่เคยคบผู้หญิงคนใหม่อย่างจริงจังเพราะคิดแล้วว่าตนเองจะไม่มีครอบครัวเนื่องจากเป็นเด็กกำพร้ามาก่อนจึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญของครอบครัวเท่าไหร่ ชายหนุ่มนึกภาพตัวเองมีครอบครัวไม่ออกเลย ผู้หญิงที่เขาคบด้วยส่วนใหญ่ก็จะรู้ข้อนี้ดีว่าเป็นได้แค่คู่นอนของเขา แต่รามัญก็ไม่เคยคบใครนานเพราะเป็นคนเบื่อง่าย เขามองว่าการนอนกับผู้หญิงมันก็เป็นการหาความสุขให้ตัวเองอีกแบบเป็นความสุขทางกายซึ่งไม่เคยรู้สึกผูกพันหรืออยากจะจริงจังกับใครเลยไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยหรือแสนดีกับเขามากแค่ไหนก็ตาม รามัญนั่งดื่มจนกระทั่งถึงเวลาตีหนึ่งก็ขับรถกลับมายังคอนโดมิเนียมเขาอาบน้ำสระผมอีกครั้งก่อนจะมานั่งจ้องโทรศัพท์ทั้งที่ตอนนี้รู้สึกง่วงมากแต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะรอให้ริณเรณูไลน์มาบอกก่อน เขารู้สึกเป็นห่วงเด็กสาวเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้เธอมีมารดาแต่มารดาของเธอก็ป่วยมันก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ตัวคนเดียวเลย จากการที่ได้พูดคุยรามัญก็พอจะรู้ว่ามารดาของเธอเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีและก็รู้สึกชื่นชมที่มารดาของเธอไม่ได้สอนให้เธอโกรธ เกลียดบิดาของตนเองทั้งที่ถูกทิ้งไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD