บทที่ 3 เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

1718 Words
หลังจากทำบุญครบเจ็ดวันจากการเสียชีวิตของคุณวาดนภา พินดาราก็เตรียมหาที่อยู่ใหม่ เธอกำลังดูที่ใกล้แหล่งออฟฟิศหรือทำเลที่เดินทางได้สะดวกอย่างพวกรถไฟฟ้า หลังจากนี้เธอจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบ้านเพียงภัทราอีกต่อไป “คุณพินคะ ไปพักเถอะค่ะเดี๋ยวที่เหลือให้เด็ก ๆ ทำ” แม้ว่าพินดาราจะมีฐานะเป็นนายหญิงอีกคนแต่เธอไม่เคยเสนอหน้าเข้ามาในงานศพ หลังจากแขกกลับหมดแล้ว เธอจึงเข้าไปจุดธูปไหว้ เธอไม่อยากทำให้เขาขุ่นเคืองใจ แม้แต่ใบหน้าของเธอเขาก็ไม่อยากจะมอง เธอจึงทำให้ตัวเองเหมือนไม่มีตัวตนในบ้านหลังนี้ดีกว่า จากวันที่วาดนภาเสียชีวิต เธอก็เก็บข้าวของของตัวเองลงมานอนที่เรือนคนรับใช้เหมือนก่อนแต่งงาน สิ่งที่ควรทำทั้งหมดเธอได้ทำแล้ว เหลือแค่เดินจากบ้านหลังนี้ไปอย่างเงียบ ๆ “ก็ได้จ้ะ” เธอบอกคนรับใช้คนอื่นแล้วก็เดินกลับห้องไป ร่างกายที่ทำงานหนักตลอดเจ็ดวันแทบไม่ได้พัก เมื่อได้นั่งลงที่เตียงร่างเธอก็แทบขยับไม่ได้ “เมื่อยชะมัด” เป็นครั้งแรกที่เธอบ่นเช่นนี้ เธอมองกระเป๋าลากของตัวเองที่เก็บของยัดมันลงไปจนหมด ไม่เหลือสิ่งใด เธอไม่มีสมบัติใด เพราะเป็นคนประหยัด เงินที่คุณวาดนภาให้เธอเป็นค่าใช้จ่าย ก็ล้วนใช้แต่ของที่จำเป็น ยามเห็นเพื่อนกินของอร่อย เธอแทบไม่แตะมัน ไปกินข้าวร่วมกับเพื่อนแทบไม่มี หากกลับดึกเธอจะแวะแค่กินก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยเพียงเท่านั้นและกลับเข้าบ้าน ชีวิตของพินดาราไม่เคยใช้ของหรู ดูแพง เครื่องประดับล้วนไม่มี เครื่องเพชรที่ใส่ในคืนแต่งงาน เธอก็ถอดไว้ที่ห้องของตุลย์ภพ เธอไม่เอาสิ่งใดออกไปเลย นอกจากเงินเก็บของตัวเองที่เหลือจากค่าใช้จ่าย แต่มันก็มีจำกัดนัก “ต้องรีบหางานให้เร็วที่สุด” เธอพูดจบก็เปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เพื่อส่งใบสมัครงานตามเว็บรับสมัครงาน เธอสมัครไปกว่า 20 แห่ง แล้วก็อาบน้ำเตรียมเข้านอน พรุ่งนี้เธอจะออกไปแต่เช้าก่อนที่คนอื่นจะตื่น เธอไม่อาจจะทนมองสายตาสมเพชจากเขา หรือจากคนรับใช้คนอื่น ตุลย์ภพนั่งในห้องของมารดา กอดรูปของมารดาไว้แนบอก และร้องไห้ออกมาเพียงลำพังคนเดียว เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว แม่เป็นที่พึ่งทางใจหนึ่งเดียวของเขา เขาปล่อยให้ความคิดไหลไปกับน้ำตา เขาเป็นลูกที่ไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็รักมารดาที่สุด สิ่งเดียวที่เขาอยากขัดใจมารดาคือการแต่งงาน และตอนนี้เขาจะหย่ามันให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เขาไม่ชอบการแต่งงาน เพราะว่าบิดาของเขาก็ทิ้งให้มารดาเลี้ยงเขามาอย่างยากลำบาก และต้องทำงานหนัก การมีครอบครัวสำหรับเขาเป็นเรื่องที่ไม่อยากคิดตลอดชีวิตนี้ เขากลัวว่าจะมีจุดจบเดียวเหมือนมารดา ที่ต้องโดนทอดทิ้งให้เลี้ยงลูกเพียงลำพัง การผูกใจเจ็บกับบิดาทำให้เขาต่อต้านและอยากใช้ชีวิตที่อิสระ เป็นเวลาตีสี่ ขณะที่ทุกคนในบ้านเพียงภัทรากำลังหลับอย่างฝันหวาน มีร่างเล็กร่างหนึ่งเดินลากกระเป๋าออกไปจากบ้านหลังใหญ่ เธอหันมามองตรงหน้าบ้านอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจ “สิ้นสุดสักทีนะ”เธอพูดเบา ๆ แล้วก็เดินออกจากบ้านหลังนี้ไป หญิงสาวไม่มีสมบัติใดติดตัว นอกจากใบปริญญาที่เธอแลกมันมาด้วยการแทนคุณที่แสนเจ็บปวด เธอมองใบปริญญานี้ด้วยความรวดร้าวในจิตใจ มือของเธอถือมันไว้แน่น ราวกับกลัวมันจะหล่นหายไป ก้าวย่างที่เดินออกจากบ้านเพียงภัทราราวกับวิญญาณของเธอได้หลุดออกจากร่าง ไม่มีความอาลัยใด ไม่มีความอยากได้สิ่งใด มีเพียงความขยะแขยง น่ารังเกียจเดียดฉันท์ แค่คิดคำนึงก็รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา เธอทิ้งอดีตไว้เพียงข้างหลัง แล้วเดินหน้าเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ในช่วงสายร่างเล็กเลือกเช่าห้องเช่ารายวันอยู่ก่อน เพื่อจะได้มีที่เก็บของ เธอมองดูโทรศัพท์ตัวเองที่แทบไม่มีใครโทรมาเลย แต่ก็หวังลึก ๆ ว่าเขาจะโทรมาหาเธอ ใช่มันเป็นความคิดที่โง่งมสิ้นดี เขาจะโทรหาเธอทำไมกัน ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการคือเขี่ยเธอให้พ้นหูพ้นตา หญิงสาวยิ้มอย่างขมขื่นเดินไปอาบน้ำให้สบายและคิดจะนอนพักสักหน่อย เนื่องจากตื่นเช้าเกินไปนัก บ้านเพียงภัทรา... “นี่มีใครอยู่บ้าง” เสียงโวยวายเมื่อบนโต๊ะอาหารมีกับข้าวไม่ถูกปากของเจ้าของบ้าน ทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งนัก ปกติใครทำกันทำไมถึงไม่ทำ “มาแล้วค่ะ คุณตุลย์ภพ มีอะไรหรือเปล่าคะ” แจ๋วคนรับใช้รีบวิ่งเข้ารับใช้คุณตุลย์ภพทันที เพราะยามนี้เหลือคนรับใช้ไม่กี่คนในบ้าน หลังจากคุณพินดาราจากไป อีกหลายคนก็เก็บข้าวของกลับบ้านเกิด เพราะไม่เหลือเจ้านายให้รับใช้ คุณหญิงก็สิ้นแล้ว ลูกชายก็เอาแต่ใจ “ใครทำอาหาร” “แจ๋วเองค่ะ” “ทำไมรสชาติเปลี่ยนแล้วคนที่ทำคนเดิมไปไหน” เขาหงุดหงิดตวาดลั่นห้องโถงที่ไว้สำหรับทานอาหาร “ปกติคุณพินดาราเป็นคนทำอาหารทุกวันค่ะ” แจ๋วหลับตาปี๋กลัวจะโดนอะไรเขวี้ยงเมื่อเจ้านายไม่พอใจ “แล้วแม่นั่นไปไหน นอนยังไม่ตื่นหรือไง แค่แม่ฉันไม่อยู่สันหลังยาวเร็วเชียวนะ” เขาบ่นราวกับหมีกินผึ้ง แม่นี่หากไม่ดุไม่ด่าคงจะไม่ทำสินะ อย่าคิดว่าเป็นเมียฉันแล้วจะทำตัวตามสบายนะ “คุณพินดาราไปแล้วค่ะ” แจ๋วบอกเสียงค่อย น้ำตาเอ่อคลอสงสารหญิงสาวไม่น้อย โดนคุณตุลย์ภพจิกใช้ราวกับคนรับใช้คนหนึ่งก็ไม่ปาน “ไป...ไปไหน ใครสั่งให้ไป” เขาเริ่มหัวเสียขึ้นมาอีก แม่นี่ปีกกล้าขาแข็งนักนะ พินัยกรรมของแม่เขายังไม่ถึงเวลาเปิดก็รีบแจ้นออกจากบ้านไปแล้ว กลัวเขาจะสาปส่งหรือไงถึงร้อนตัว “แจ๋วไม่ทราบค่ะ คุณพินดาราเก็บเสื้อผ้าออกไปหมดเลย ไม่เหลือข้าวของอะไรแล้วค่ะ” “เก็บของออกไปหมด?” ตุลย์ภพกำหมัดแน่น นี่เธอจะไปก็ไม่คิดจะร่ำลากันสักคำเลยหรือไง แถมยังเก็บข้าวของออกไปจนหมดอีก “มีอะไรหายไปหรือเปล่า ทำไมออกไปไม่มีใครรู้ใครเห็น” เขาคิดในแง่ร้ายว่าเธออาจจะลักทรัพย์สินของเขาหรือแม่ไปก็ได้ถึงได้รีบออกไป “คุณตุลย์ภพคะ ปกติคุณพินดาราก็ไม่มีสมบัติใดนอกจากเสื้อผ้าค่ะ เครื่องสำอางสักชิ้นเธอก็ยังไม่ซื้อ จะกินของอร่อยสักอย่างเธอก็ไม่เคย สิ่งที่เธอซื้อกินแพงที่สุดเห็นจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยค่ะ เธอบอกว่าเงินที่คุณหญิงให้ใช้ ควรใช้แต่ของที่จำเป็น หากไปเรียนเพียงครึ่งวัน เธอจะใช้แค่ค่ารถเมล์ไปเรียนเท่านั้น และก็จะกลับมากินข้าวที่บ้านทุกวัน” แจ๋วเล่าเรื่องของพินดาราให้กับคนที่เป็นสามีฟัง ทุกคนในบ้านล้วนรู้ดีว่าตุลย์ภพรังเกียจพินดารา แต่ว่าคนรับใช้ทุกคนต่างสงสารเธอกันทั้งนั้น “ฉันถามนิดเดียว จะมาดรามาเรื่องแม่นั่นให้ฉันสงสารทำไม เก็บไปได้แล้วฉันไม่กิน” ตุลย์ภพหงุดหงิดนัก แม่นั่นทำให้เขาดูแย่ในสายตาคนรับใช้ เป็นถึงเมียเขาแต่ไม่มีอะไรสักอย่าง ตอนงานศพก็ไม่เสนอหน้ามารับแขก ยังดีที่เพียงพิธากับผู้จัดการส่วนตัวของเธอมาช่วยทำให้งานเดินไปอย่างราบรื่น “ถนัดนักนะ ทำตัวให้คนอื่นสงสาร แต่ไม่ใช่ฉัน...!” เขาเดินขึ้นไปหยิบของเพื่อออกไปบริษัท ไม่ได้เข้าออฟฟิศนานหลายวันคงจะมีเอกสารต้องสะสางมากมาย พินดารา...ที่หลับไปเกือบค่อนวันถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่คุ้น เธอกดรับสายด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเพราะว่าเพิ่งตื่นนอน “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงสุภาพที่สุด เพราะไม่รู้ว่าใครที่ติดต่อมา “สวัสดีครับ คุณพินดาราหรือเปล่าครับ” ปลายสายกรอกเสียงนุ่มมาตามสาย “ใช่ค่ะ”/“ใครคะ” “ผมชื่อป้องภพ จากบริษัท สกลเกียรติ ได้รับเบอร์ติดต่อของคุณผ่านเว็บไซต์จัดหางาน ไม่ทราบว่าคุณพินดารากำลังหางานอยู่ใช่ไหมครับ” ป้องภพร้อนใจอยากได้เลขาจนเต็มแก่ งานของเขาเต็มล้นมือ เลขาคนเก่าก็มาลาออกอย่างกะทันหันทำให้เขาปวดหัวกับการหาเอกสารไม่เจอ “ค่ะ ใช่ค่ะ” พินดาราใจชื้นขึ้นมาทันที ที่มีบริษัทติดต่อเข้ามา เธอไม่คิดว่ายื่นเอกสารไปเพียงวันเดียวจะมีคนสนใจประวัติของเธอ “อย่างนั้นคุณมาสัมภาษณ์งานกับผมพรุ่งนี้เลยนะครับ ที่อยู่ผมส่งให้ตามอีเมลของคุณแล้วกันนะครับ” ป้องภพที่ไม่ทันใจกับฝ่ายบุคคลที่ทำงานชักช้า จึงให้คนพริ้นประวัติมาให้เขาและเลือกคนที่คิดว่าน่าจะทำงานให้เขาได้มาลองดู เมื่อวางสาย พินดาราแทบจะกรีดร้องลั่นห้อง เธอได้นัดสัมภาษณ์งานแล้ว ดีใจที่สุด หลังจากที่หลับ ๆ ตื่น ๆ ในตอนแรก เธอก็ตื่นเต็มตารีบเอาเสื้อผ้าที่ใส่ไปสมัครงานออกมารีด ชุดพวกนี้เป็นชุดที่คุณวาดนภาซื้อให้ทั้งนั้น แทบไม่มีของเธอเองเลย นับว่ามันมีประโยชน์กับเธอมากทีเดียว ในสภาพที่ตัวเองกำลังขัดสน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD