“แกรับงานแปลไหม พอดีว่าน้องที่คณะเขากำลังหาคนทำให้” “แปลเกี่ยวกับอะไร?” “ก็เท็กซ์บุ๊คของบัญชีนั่นแหละ เด็กมันไม่ถนัดภาษาอังกฤษ” “งั้นรับ แกให้น้องเขาส่งรายละเอียดเข้าเมลมาเลย” อารญาตอบแบบแทบไม่ต้องคิด เพราะตำราเรียนที่เป็นภาษาอังกฤษของคณะบัญชีผ่านตาเธอมาบ้าง อีกอย่างเธอก็ถนัดบัญชี กอปรกับไปอยู่เมืองนอกมา ฉะนั้นเรื่องภาษาจึงไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อย “ห้าสิบหน้า เขาอยากได้วันศุกร์นี้ แกไหวไหม ไหนจะบัญชีที่แกรับทำอีกล่ะ” ศรีจิตตราเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนซี้ที่ทำงานหาเลี้ยงลูกและแมวตัวเป็นเกลียว “สบายมาก” หลังจากวางสาย อารญาก็ตาเป็นประกาย รอยยิ้มแต้มมุมปาก เพราะการรับงานแปลเพิ่มมันหมายความว่าเธอเปิดตลาดสร้างอาชีพเสริมใหม่ ซึ่งก็อาจจะมีการบอกต่อปากต่อปาก หากงานแปลที่ทำออกมาเป็นที่น่าพอใจของผู้ว่าจ้าง นั่นเท่ากับว่าเธอมีช่องทางที่จะหาเงินเพิ่มอีกไม่มากก็น้อย ช่วงบ่ายก่อนออกไป

