บทที่ 7 หงุดหงิด

2367 Words
"เจย์ รอด้วย!!" คนตัวเล็กตะโกนไล่หลังเขาไป ก่อนจะรีบเบียดประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลง แล้วแทรกตัวเข้าไปได้อย่างหวุดหวิด ร่างกำยำที่ยืนอยู่ภายในตัวลิฟต์จ้องมองเธอด้วยความงงงวย เหมือนกับเขายังไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เห็นคนตัวเล็กอยู่ในลิฟต์กับเขาในตอนนี้ เจย์อาร์กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ยถามเธอเสียงแผ่ว ติดจะงอนๆ อยู่เล็กน้อย "ไม่ไปหาเขาแล้วเหรอ" "ก็ไปแล้วไง เขาฝากซื้อถุงยาง ไม่ได้ให้ฉันเข้าไปช่วยพวกเขาใส่สักหน่อย : (" เธอก็คิดว่าเธอพูดชัดแล้วนะ แต่ดูเหมือนเขาจะยังไม่เข้าใจตั้งแต่แรก "..." ร่างสูงไม่เอ่ยพูดอะไรต่อจากนั้น ใบหน้าหล่อเอาแต่จ้องหน้าเธอนิ่ง "แล้วนายล่ะ ไม่ไปหาเพื่อนแล้วเหรอ" สายขิมเอ่ยถามเขา เพราะเมื่อกี้ไม่เห็นเขาเดินไปที่ห้องไหน แต่กลับเดินตรงมายังลิฟต์ทำท่าเหมือนกำลังจะกลับโดยไม่รอเพื่อนคนที่ว่า "..." เจย์อาร์ยังคงเงียบ และเอาแต่จ้องเธอด้วยใบหน้าที่แสดงหลากหลายอารมณ์ "นี่ ได้ยินที่ฉันพูดไหมเนี่ย" เพราะคิดว่าเขาไม่พูดอะไรเธอเลยเอ่ยถามอีกครั้ง แต่ผลที่ได้คือ เขากลับดึงร่างเล็กเข้าไปกอดโดยไม่ทันตั้งตัวใดๆ หมับ! "อ๊ะ! จะ เจย์.." สายขิมลมหายใจแทบสะดุดเพราะความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะดึงเธอไปกอดแบบนี้ ใบหน้าหล่อซุกไซ้อยู่ตรงซอกคอ พร้อมกับวงแขนแกร่งที่โอบรัดเอวเล็กของเธอเอาไว้แน่น "บ้าเอ๊ย... ตกใจหมดนึกว่าเธอจะเข้าห้องไปกับหมอนั่นแล้วเสียอีก" เสียงอู้อี้ดังขึ้นแผ่วๆ เขาถอนลมหายใจออกมาราวกับโล่งอกโล่งใจกับอะไรบางอย่าง "อะไรเนี่ย ปล่อยก่อน" เพราะไม่รู้ว่าเขาเข้ามากอดทำไมจึงได้แต่ดันร่างเขาออก แต่แรงของเขาก็มีเยอะกว่าเธอมาก เพราะไม่ว่าจะดันตัวเขายังไงเจย์อาร์ก็แทบจะไม่คลายวงแขนออกจากเธอแม้แต่นิดเดียว "ฉันใจหายหมดเลย เธอนี่มันน่าโดนจริงๆ" เสียงเขาราวกับคนที่กำลังโล่งใจ และคล้ายจะอยากลงโทษกัน ทำเธอที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดเขาถึงกับไปไม่เป็น ก็บอกเขาไปแล้วนี่นา ยังจะมาคาดโทษกันอีก "อะไรเล่า ก็บอกไปแล้วว่าเพื่อนฝากซื้อ ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย" สายขิมได้แต่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้บนอกของเขา ใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอแทบจะจมอยู่ในอกของเขาอยู่แล้ว "ก็เธอพูดไม่หนักแน่นอ่า ใครมันจะไปรู้ ฉันโคตรเสียใจเลยเมื่อกี้อะ" ยิ่งพูดประโยคนี้วงแขนเขากลับกอดรัดตัวเธอแน่นเสียยิ่งกว่าเก่า เหมือนกำลังกลัวว่าคนตัวเล็กจะหายไปกับใครอย่างไรอย่างนั้น การกระทำนี้ของเขามันอุกอาจมากสำหรับสายขิม เธอไม่เคยโดนเพศตรงข้ามแตะเนื้อต้องตัวมากขนาดนี้มาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้รังเกียจถึงขนาดต้องผลักไสเขาแรงๆ บางทีการโดนใครบางคนสกินชิปแบบนี้มันก็รู้สึกดีจัง เหมือนได้รับการเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไปเลย อ่า...แบบนี้คงต้องหาแฟนบ้างแล้วแหละ "..." แล้วทำไมหัวใจเธอจะต้องเต้นแรงขนาดนั้นด้วย เขาแค่กอดเองและไม่รู้จะกอดทำไมอีกด้วย ตึก ตัก ตึก ตัก "ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีกรู้ไหม : (" เขาพูดข้างใบหูพร้อมกับโยกตัวขยับอ้อมกอดไปมาให้เธอรับรู้ เมื่อเห็นว่าร่างเล็กในอ้อมกอดนิ่งไป แล้วเหมือนเธอจะได้สติขึ้นมาจึงเอ่ยตอบเขาไปเบาๆ "รู้แล้วน่า ปล่อยได้แล้ว..." เจย์อาร์ไม่ได้ปล่อยเธอเสียเดี๋ยวนั้น เขาอ้อยอิ่งอยู่เกือบครึ่งนาทีก่อนจะคลายอ้อมกอดออก หลังจากนั้นหมอนี่ก็ทำตัวตายด้านโดยการไม่พูดอะไรกับเธออีก แต่ฝ่ามือเขากลับเอื้อมมากุมมือเธอเอาไว้จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออกในตอนที่มันเลื่อนมาชั้นล่างสุด มือเขากระตุกให้เธอเดินตามเขาออกมา สายขิมได้แต่จ้องไปยังข้อมือของตัวเองที่โดนเขาลากจูงไปยังรถบิ๊กไบค์คันใหญ่ที่จอดอยู่ไม่ไกลมากนัก "นายจะเข้ามอเหรอ" เธอเอ่ยถามในตอนที่เขาปล่อยมือของเธอเพื่อสวมหมวกกันน็อก "อืม เอาของไปให้ภายัพน่ะ แล้วไปซ้อมบอลด้วย" เขาหันมาตอบเธอก่อนจะคร่อมรถเพื่อทำการสตาร์ตรถ คนตัวเล็กเห็นดังนั้นจึงถอยหลังหลบเพื่อให้เขาออกรถได้สะดวก "งั้นก็รีบไปได้แล้ว" เธอยกมือขึ้นโบกให้เขา แต่เจย์อาร์กลับจับมือข้างนั้นของเธอเอาไว้แล้วดึงเข้าไปใกล้ ทำคนตัวเล็กชะงักไปเล็กน้อย "ขึ้นรถสิ" เขาเอ่ยบอก "ขึ้นทำไม ไม่ได้ไปมหา’ลัยกับนายสักหน่อย ฉันจะกลับบ้าน" คนตัวเล็กส่ายหน้าพึ่บ ไม่ได้อยากไปมหา’ลัยกับเขาสักหน่อย สภาพเธอแต่งตัวแบบนี้จะกล้าเข้ามหา’ลัยกับเขาได้ไง เสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์กับกางเกงขายาวทรงกระบอกเนี่ยนะ (?) "ไปมอกับฉันก่อน เดี๋ยวไปส่ง" แต่เขาก็ยังดื้อดึงจะให้เธอขึ้นรถเขาเสียให้ได้ "นายไปเตะบอล เอาฉันไปทำไมเนี่ย" แบบนี้มันเหมือนไปเฝ้าแฟนเลยเหอะ ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย จะให้เธอไปเฝ้าทำซากอะไรเนี่ย "ไม่ชอบเหรอผู้ชายเตะบอลน่ะ" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่มราวกับกำลังแซวกัน "ชอบ แต่วันนี้ไม่อยากดู จะกลับไปทำรายงานค้างของกลุ่ม" งานกลุ่มมันไม่ค่อยเดินเลยเหอะ! เพราะวันๆ พวกเขาเอาแต่เตะบอล อีกอย่างสัปดาห์หน้ามันต้องส่งแล้วด้วย เธออยากรีบทำให้มันเสร็จก่อน แต่เขากลับ... "ค่อยทำพร้อมกัน เธออย่ารีบทำให้มันเสร็จได้ไหมเนี่ย" เสียงงอแงมาพร้อมกับเขาที่เริ่มไม่พอขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเธอพูดถึงรายงานที่กำลังจะรีบทำให้เสร็จ "เสร็จเร็วไม่ดีหรือไง" อะไรของหมอนี่เนี่ย ใครๆ ก็อยากทำงานให้เสร็จก่อนเดดไลน์กันทั้งนั้น แต่เขากลับไม่อยากให้เสร็จเสียอย่างนั้น "ไม่ดี" ดูจากน้ำเสียงเขาคงทำหน้าตางอแงอย่างไม่ต้องสงสัย "ทำไมล่ะ" คนตัวเล็กถามหาเหตุผลที่เขาไม่อยากให้เธอทำรายงานเสร็จเร็วๆ และมันก็เหนือความคาดหมายของเธอจริงๆ เมื่อเขาเอ่ยตอบเสียงแผ่วว่า... "แบบนั้นก็ไม่ได้เจอเธอสิ" "..." คนตัวเล็กได้แต่กะพริบตาปริบๆ พร้อมกับเม้มปากอย่างต้องการข่มอาการประหม่าที่เกิดขึ้น เขาพูดเหมือนกำลังจะ...จีบเธออยู่เลย หรือหมาหยอกไก่กันนะ แต่นั่นก็เป็นแค่ความคิดบ้าๆ ของเธอเท่านั้นเพราะรู้ว่าเขาคงไม่มาหลงผิดชอบคนแบบเธอหรอก มันธรรมดาเกินไป... เขาคงแค่เหงาและอยากหาเพื่อนแกล้งเล่นมากกว่าละมั้ง "นะ ไปดูฉันซ้อมบอลแป๊บเดียวเอง" แล้วเธอก็เป็นประเภทที่ชอบใจอ่อนกับคำพูดของคนอื่นอยู่เรื่อยเลย โดยเฉพาะลูกอ้อนของคนหล่อๆ แบบเขาเนี่ย! เบื่อตัวเองชะมัดเลยให้ตายสิ : ( ณ สนามบอล "ไอ้เจย์ มึงมีเด็กแล้วเหรอ กูเห็นมึงไปรับเขามาเฝ้ามึงทุกวันเลย" เสียงของเพื่อนร่วมทีมของเขาดังขึ้นเมื่อหมดเวลาครึ่งแรกของการซ้อมฟุตบอล พวกเขาจึงมีเวลาคุยกัน 'เด็ก' ที่ไอ้แดนเพื่อนของเขาถาม คือสายขิมที่นั่งก้มหน้าทำรายงานอยู่ด้านล่างอัฒจันทร์ ในช่วงสองสามวันมานี้เขาไปรับเธอมาอยู่กับเขาตลอด และให้เหตุผลกับเธอไปว่า 'มาดูฉันซ้อมบอลก่อนสิ เดี๋ยวเสร็จจากซ้อมบอลจะได้ทำรายงานกันต่อไง' แค่อ้างเรื่องงานเธอก็พร้อมจะทำตามที่เขาบอกแล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วเขากับแก๊งเพื่อนทำหัวข้อที่ตัวเองได้รับเกือบจะเสร็จกันทุกคนแล้ว ถึงจะซ้อมฟุตบอลหนักแค่ไหนแต่เรื่องเรียนใช่ว่าจะทิ้ง แค่ไม่ได้บอกสายขิมเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะได้เห็นหน้าเธอทุกวันอย่างในตอนนี้เหรอ "เปล่า ไม่ใช่เด็ก" เขาเอ่ยบอกเพื่อนพร้อมกับเปิดขวดน้ำยกดื่ม พร้อมกับฟังโค้ชพูดถึงแผนการเล่นในครึ่งหลังไปด้วย "ฮะ! จริงดิ" แดนเอ่ยอย่างคนไม่เชื่อกัน "อืม" "แต่มึงไปรับเขามาทุกวันเนี่ยนะ?" "เออ" มันแปลกตรงไหนที่เขาจะไปรับใครมาดูตอนเขาซ้อม แม้ว่าสายขิมจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขายอมให้นั่งซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ลูกรักเขาเอง เพื่อนเขามันคิดมากกกกกกก!! "มึงบ้าปะ ดูก็รู้ว่ามีใจ มึงเนี่ยปากไม่ตรงกับใจเลย" ไม่พูดเปล่าแดนยังเบะปากมองเขา อีกทั้งยังทำสีหน้าอย่างคนไม่เชื่อกัน แม่ง~ เพื่อนเขานี่มันทำไมชอบเสือกเรื่องความรักของเขาจริงๆ เพราะไอ้แดนก็ไม่ใช่คนแรกที่ทักเขาทำนองนี้ ยังมีอีกหลายคนที่เข้ามาแซวหลังไมค์ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรไปปล่อยให้เพื่อนมันคิดไปเองนั้นแหละ แต่อย่าให้ถึงหูสายขิมก็พอ... เดี๋ยวไก่ตื่น "กูแค่หาคนมาเฝ้าของต่างหาก มึงน่ะหุบปากไปดิ เดี๋ยวโดนกูสวนหรอก" "ทำมาพูดนะมึง กูว่ามึงคงไม่ได้ให้เธอคนนั้นมาเฝ้าของหรอก แต่มึงต่างหากที่เฝ้าเขาน่ะ ไม่อยากให้เขาห่างล่ะสิเลยเอามาอยู่ดูมึงที่สนามบอลแบบนี้" "..." ไอ้เชี่ยจอร์แดน แม่ง.. เสือกรู้ดีไปอีก ทำเขาแทบจะเถียงมันไม่ออก ร่างสูงยืนฟังแผนการเล่นของโค้ชได้ครู่ใหญ่ แรงสะกิดตรงหัวไหล่มาพร้อมกับเสียงของไอ้แดนที่ดังแทรกเข้ามาในประสาทของเขา "เฮ้ยๆ ไอ้เจย์ มึงดูดิใครแม่งไปยืนคุยกับเด็กมึงที่ข้างสนามวะนั่น" คำพูดของแดนทำเขาหันกลับไปมองยังอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามพอดี "ไหน...วะ" และเสียงเขาแทบจะหายไปในประโยคสุดท้าย เพราะภาพที่เห็นอยู่ฝั่งตรงข้ามคือมีใครคนหนึ่งกำลังยืนคุยกับสายขิมอยู่ด้านล่างอัฒจันทร์ และมันจะไม่อะไรเลยถ้าไอ้คนนั้นมันไม่ใช่.... "นั่นมันไอ้โอม หัวหน้าชมรมเชียร์นี่หว่า" "..." หัวคิ้วของเขาขมวดมุ่นเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม ไอ้โอม หรือหัวหน้าชมรมเชียร์ที่เพื่อนเขาพูดถึง อดีตมันเคยตั้งต้นเป็นศัตรูกับชมรมฟุตบอลอย่างพวกเขา แต่ก็ยังเสนอหน้าเข้ามาดูพวกเขาแข่งฟุตบอลอยู่เสมอ สะเหล่อฉิบหาย! แล้วตอนนี้ยังคุยกับสายขิมของเขาอย่างออกรสอีกด้วย แม่ง! โคตรไม่ชอบเลยว่ะ ปี๊ดดดดด!! "ไปๆ เขาเรียกลงสนามละมึง" เมื่อเสียงนกหวีดของกรรมการดังขึ้น ไอ้จอร์แดนตัวดีรีบคว้าคอเสื้อเขาลงสนามทันที แต่สายตาคู่คมของร่างสูงกลับจ้องไปยังอัฒจันทร์ที่ยังคงมีไอ้โอมยืนคุยกับสายขิมอยู่ "เออรู้แล้ว" เขาตอบพร้อมกับดึงมือมันออกจากคอเสื้อ "รู้แล้วก็ไปดิ มึงอยู่กองกลาง ไม่ใช่แบ็กซ้ายสักหน่อย เดินไปโน่นเลยไป" ปกติเขาชอบเล่นกองกลาง แต่วันนี้ไม่รู้ทำไมอยากเล่นแบ็กซ้ายฉิบหายเลย... "จิ๊! รู้แล้ว มึงก็สั่งอย่างกับเป็นโค้ชเลย : (" เขาเลือกที่จะไม่สนใจภาพเหตุการณ์ข้างสนามอีก เพราะเดี๋ยวจะหลุดสมาธิจากการซ้อมฟุตบอล นาทีนี้ทีมต้องมาก่อนเสมอไม่ว่าจะเจอเรื่องที่น่าหงุดหงิดขนาดไหนก็ตาม ตลอดเวลาในการลงสนามสายตาเขาพยายามจะไม่มองไปยังอัฒจันทร์ แต่จิตใจของเขามันกลับสั่งให้มองไปเสียอย่างนั้น ทั้งที่เขาแม่งไม่อยากจะโฟกัสอะไรนอกจากการซ้อมแล้วแท้ๆ อีกทั้งไอ้โอมเชี่ยนั่นจะคุยกับสายขิมอะไรนักหนา นี่เขาลงสนามเกือบสิบนาทีแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะเลิกคุยกับขิมเลย ความหงุดหงิดที่มีเป็นทุนเดิมแทบจะปะทุออกมาจากอกเขาอยู่แล้ว "ไอ้ยัพส่งบอลมาให้กูดิ" เจย์อาร์เอ่ยสั่งภายัพเมื่อตนเองวิ่งมายังด้านหน้าเพื่อรับบอลต่อจากเพื่อน พึ่บ! ภายัพรีบทำการส่งบอลต่อให้เขาทันทีเมื่อเห็นว่าตรงที่เจย์อาร์อยู่สามารถยิงประตูได้เลย เพราะไม่มีคู่แข่งยืนขวาง ร่างกำยำเมื่อได้บอลมาครองตามที่ขอก็รีบเลี้ยงบอลเพื่อให้อยู่ใกล้ประตูมากที่สุด แต่หางตาเขามันกลับมองเห็นไอ้โอมที่กำลังยืนส่งยิ้มให้กับสายขิม พร้อมกับเสียงหัวเราะของมันที่ดังแว่วเข้ามา และมันเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เขาเปลี่ยนใจจากการยิงประตู เป็นยิงบอลออกนอกสนาม และเป้าหมายเขาคือ Head Shot หัวไอ้โอม!! แต่... พลั่ก!! "อ๊ะ!!" เสียงของสายขิมดังขึ้นหนึ่งครั้ง พร้อมกับลูกฟุตบอลที่เขาเตะเข้าไป แทนที่มันจะลงบนหัวไอ้โอมอย่างที่คิดไว้ แต่ไอ้โอมมันกลับก้มลงหยิบปากกาเสียได้ ผลที่ได้คือลูกฟุตบอลมันกลับโดนหน้าผากของสายขิมเข้าอย่างจัง "เชี่ย!!" "เชี่ย!!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD