บทที่ 10 กินข้าวด้วยกัน

2227 Words
“เธอแม่งตัดสายฉันทิ้งได้ไง เมื่อกี้ยังพูดไม่จบเลยนะ น่าน้อยใจชะมัด : (" อะ อ้าว.. เธอก็คิดว่าพูดกับเขารู้เรื่องแล้วนะ "อะไรของนายเล่า" คนตัวเล็กแทบจะทำตัวลีบแล้วหายเข้าไปใต้โต๊ะอยู่แล้ว ยิ่งสายตาของทุกคนมองมายังโต๊ะของเธอที่มีเขายืนทำหน้าเก๊กหล่ออยู่ ก็ยิ่งประหม่าเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเลย แต่เจย์อาร์ใช่จะแคร์เพราะต่อจากนั้นหมอนี่ก็นั่งลงตรงข้ามเธอทันที โดยไม่ทันให้เธอได้เอ่ยปากอนุญาต "เธอมันยัยผู้หญิงใจร้าย กล้าตัดสายฉันงั้นเหรอ" เขายังทำหน้าแง่งอน มองเธอด้วยสายตาเคืองๆ แต่ก็ดูไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก "นายพูดเบาๆ ได้ไหมเนี่ย เดี๋ยวคนอื่นเขาจะหาว่าฉันแกล้งนายหรอก" สายขิมเตะขาเขาใต้โต๊ะเบาๆ เพื่อให้เขาพูดเสียงเบาๆ ลงหน่อย เพราะตอนนี้ไม่ได้มีเธอกับเขาสองคนในโรงอาหารไง นักศึกษาที่จ้องมาอย่างสนใจมันมีเป็นสิบเลย โดยเฉพาะสาวๆ โต๊ะตรงกันข้ามกับเธอเนี่ย! "ก็เธอแม่งพูดไม่รู้เรื่อง ก็บอกแล้วไงว่าให้มากินข้าวด้วยกัน" เจย์อาร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเคย แต่นั่นมันก็ยังดังพอจะให้โต๊ะข้างหลังหันมามองเธอด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก แต่ตอนนี้เธอแทบจะไม่ได้สนสายตาที่จิกกัดของพวกนั้นเท่าไหร่ อยากมองก็มองไป เธอไม่ได้แย่งอะไรของใครสักหน่อย เจย์อาร์มาหาเธอเองต่างหาก "ฉันก็บอกแล้วไง ว่าไม่ไป นายนั่นแหละที่พูดไม่รู้เรื่องน่ะ..." คนตัวเล็กเบะปากให้เขาอย่างไม่สบอารมณ์เหมือนกัน แต่เขาก็กวนประสาทเธอกลับด้วยการทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่เสียอย่างนั้น "ไม่รู้ ไม่สน ฉันมันหล่อเลือกได้ว่ะ" ไอ้..!! หมั่นไส้ความมั่นหน้าของเขาจริงๆ ให้ตายเหอะ! : ( คนตัวเล็กเอื้อมมือไปคว้าน้ำเปล่ามาดื่ม เพราะเมื่อครู่ก่อนเขามาเธอยังไม่ได้ดื่มน้ำเลย แต่กินข้าวไปแล้วสามคำ สายตาคู่คมมองริมฝีปากเธอตอนดื่มน้ำ ก่อนจะเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ หลังจากนั้นก็เบนสายตาจากใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอมายังจานข้าวที่อยู่ตรงหน้า "เธอซื้อข้าวแล้วงั้นเหรอ" "อือ" ว่าแล้วก็ตักข้าวใส่ปากตัวเองเคี้ยวตุ้ยๆ ให้เขาดูเป็นหลักฐาน แต่เมื่อจะตักอีกคำก็โดนเขาคว้าข้อมือเอาไว้ "รอด้วยดิ เดี๋ยวฉันไปซื้อข้าวมากินด้วย เธอห้ามกินก่อนนะโว้ย ไม่งั้นโกรธจริงๆ นะ" เสียงงอแงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง "ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วย" เธอหิวนะ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเลยเป็นเพราะเขาด้วยนะประเด็นน่ะ : ( แต่เขากลับใช้น้ำเสียงอ่อนพร้อมกับใบหน้าที่ดูออดอ้อนนั่น "ก็เพราะฉันขอร้องไง นะ...กินด้วยกันสิอุตส่าห์มาหาเธอถึงที่แล้วง่ะ" อ่า... ทำไมเขาจะต้องใช้ใบหน้าหล่อๆ มาล่อลวงเธอด้วยเนี่ย แล้วเธอก็ดันเชื่อฟังเขาด้วยนี่สิ เห็นใบหน้าอ้อนๆ แล้วมันใจสั่นแปลกๆ เจย์อาร์ลุกขึ้นไปต่อแถวร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาเลือกร้านที่รอคิวไม่นานอีกด้วย ส่วนเธอก็ได้แต่มองตามร่างสูงอันโดดเด่น เจย์อาร์ดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมาย ถึงแม้จะมีคนอื่นที่รายล้อมเขาอยู่แต่ดูเหมือนร่างกายเขามีราศีอะไรบางอย่างที่เรืองแสงออกมา ทั้งตัวสูง ผิวขาว หน้าก็หล่อ... เอ๊ะ!! แปะ! คนตัวเล็กตบแก้มของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติที่ปลิวไปกับเขาเมื่อครู่ให้กลับมา เธออาจจะหลงคารมความหล่อของเขาชั่วครู่ก็เป็นได้ ไอ้บ้าเจย์อาร์มันใช้ความหล่อมาล่อลวงเธออ่า ไอ้หมอนี่มันโคตรร้ายเลย ToT 'ตื่นๆ ยัยขิมแกต้องมองความเป็นจริงด้วย เขาอาจจะแค่แกล้งแหย่เธอเล่นเท่านั้น' แต่เมื่อเธอละสายตาจากเขากลับมา สายตาเจ้ากรรมมันดันไปสบตากับไข่มุกที่อยู่โต๊ะตรงข้ามกับเธออีกนี่สิ ตอนแรกก็คิดว่าไข่มุกจะใช้สายตาจิกกัดใส่เธอเหมือนครั้งแรก แต่เปล่าเลย เธอเห็นยัยนั่นส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรผิดกับเมื่อครู่ที่แทบจะฆ่ากันให้ตายทางสายตาอย่างไรอย่างนั้น ผีเข้าหรือไง... อยากจะตะโกนคำนี้ไปให้เสียเหลือเกิน แต่ร่างบางของไข่มุกก็ถูกกลบด้วยร่างกำยำของเจย์อาร์ที่นั่งลงตรงข้ามกับเธอพร้อมกับจานข้าวในมือ "ไหนกินไปบ้างยัง" เขาเอ่ยถามพร้อมกับมองไปยังจานข้าวของเธออย่างคนจับผิดกัน "ยัง นายบอกให้รอไม่ใช่เหรอ" ถึงเขาจะไปไม่นานแต่ข้าวในจานเธอมันคงอืดเป็นข้าวเป็ดแล้วมั้งเนี่ย คนตัวเล็กได้แต่ทำหน้างอใส่เขาไป แต่เจย์อาร์ดูเหมือนจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไร "หึ! น่ารักกกก" ว่าแล้วก็เอื้อมมือมาหยิกแก้มของเธอเบาๆ อย่างมันเขี้ยวจนเธอต้องปัดออกเบาๆ อย่างเก้อเขิน "บ้า รีบกินได้แล้วเหลืออีก 15 นาทีจะเข้าคลาสบ่ายแล้วเหอะ" สายขิมได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานไปโดยหลบสายตายิ้มๆ ของเขาที่มองมา เธอแค่รอเขาแค่นี้ หมอนี่ถึงกับยิ้มไม่หุบเลยเหรอ... เป็นเอามากนะเนี่ย คนตัวเล็กนั่งกินไปอย่างเงียบๆ ไม่ทันได้สังเกตว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่ "ทำไมเธอกินผักกับไข่ล่ะ ดูแล้วไม่น่าอร่อยเลยอะ" เขาเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตว่าเธอกินข้าวกับอะไร ก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าของเขาเหมือนคนกำลังสงสัยในรสชาติ "เรื่องของฉันน่า มันกินได้" ถึงจะไม่อร่อยอะไรมากนัก แต่ก็กินได้อยู่อาจเป็นเพราะเธอติดอาหารจืดก็เป็นได้ และเจย์อาร์ก็เหมือนจะอยากลอง "ไหนเอามาชิมดิ" "ก็เอาสิ" อยากกินเธอก็ยื่นจานของตัวเองไปใกล้เขา เจย์อาร์ตักผัดผักในจานเธอไปกิน ก่อนที่สีหน้าเขาจะเปลี่ยนเป็นพะอืดพะอมขั้นสุด สงสัยไม่ชอบผัก หรือไม่ก็กับข้าวไม่ถูกใจ "จืดเหอะ ไข่ก็ไม่มีรสชาติ เธอกินเข้าไปได้ไง" ว่าแล้วเขาก็คว้าขวดน้ำของเธอไปดื่มหน้าตาเฉย แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา น้ำขวดเดียวเธอดื่มไม่หมดอยู่แล้ว "ก็กินได้อยู่ มันดีต่อสุขภาพไม่รู้หรือไง" ก็ผัดผักจะให้มันอร่อยสักแค่ไหนเชียวเธอได้แต่คิดอยู่ในใจ เธอไม่ชอบอาหารรสจัดนี่นา แต่เขากลับ... "ดีตรงไหน ผักนี่ก็น้ำมันทั้งนั้น ไข่ก็ราสซอสมายองเนสอีก แบบนี้มันของอ้วนทั้งนั้น" คำวิจารณ์แบบตรงไปตรงมาทำคนตัวเล็กถึงกับหน้าเหวอ "ฮะ? จริงดิ" ก็หลงกินมาตั้งนานนึกว่าจะดีเสียอีก ก็เห็นว่าเป็นผักแต่เธอก็ไม่ได้คิดถึงน้ำมันที่ผัดเลย คนตัวเล็กมองจานของตัวเองด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก และเขาคงสังเกตเห็นปฏิกิริยาของเธอเข้า "เอาข้าวฉันไปกินสิ ของฉันไก่อบซอส มันเป็นไก่อบไร้น้ำมัน ซอสนี่ก็รสชาติดีแต่เป็นกึ่งอาหารคลีนนะ ลองดู ฉันว่าอร่อยกว่าอาหารที่เธอกินอยู่อีก" เขายื่นจานข้าวของเขามาให้คนตัวเล็ก แต่สายขิมได้แต่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับดันจานข้าวเขากลับไป "ไม่เอาๆ นายกินของนายไปเหอะ ฉันก็จะกินของฉัน เสียดายเงิน" ถึงจะไม่ได้อร่อยแต่ก็ซื้อมาแล้ว เสียดายเงินแย่เลย แต่เจย์อาร์ก็ไม่ยอมเช่นเดียวกัน เพราะฝ่ามือเขาก็ดันจานข้าวของเขามาตรงหน้าเธอ แล้วเอาจานข้าวที่มีแต่ผักของเธอไปอยู่ตรงหน้าเขา "ไม่เอา เธอกินของอร่อยบ้างก็ได้ กินแต่ผักแบบนี้จะมีแรงได้ไง เรื่องอ้วนไม่อ้วนไว้ทีหลัง ไม่ต้องสนใจเรื่องหุ่นมากขนาดนั้นก็ได้นะ เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว" คำพูดเรียบๆ ของเขาทำคนตัวเล็กเงยหน้ามองเขานิ่ง เพิ่งจะรู้ตัวก็วันนี้แหละที่เธอมองข้ามความรู้สึกของตัวเองไปเพียงแค่อยากจะดูดีในสายตาของคนอื่น มองข้ามว่าเธอเองก็อยากกินของอร่อยๆ เหมือนกัน เรื่องหุ่นเอาไว้ทีหลังอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ "แต่ของฉันมันจืด นายกินได้เหรอ" คนตัวเล็กเอ่ยถามเขาเสียงแผ่ว ดูก็รู้ว่าเขาไม่ชอบกินผักด้วยแต่ยังอุตส่าห์ให้เธอกินอาหารของเขาอีก เจย์อาร์มองจานข้าวของเขาสลับกับของเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง "คนละครึ่งไหมล่ะ กินด้วยกันไง" "อ่า แบบนั้นก็ได้" แบบนี้ก็ถือว่าแบ่งกันกินโดยไม่ต้องเสียดายค่าอาหารแล้ว แย่งกันกินแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน เธอไม่ได้กินข้าวกับคนอื่นแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ หรือบางทีโมเมนต์แบบนี้เธออาจจะไม่เคยมีก็ได้ เขาเป็นคนแรกเลยแหละ ชอบมาทำให้ใจเต้นอยู่เรื่อยเลย @คลาสบ่ายวันถัดไป คลาสบ่ายนั้นเป็นคลาสรวมของเหล่านักศึกษาทั้งคณะเดียวกันและต่างคณะ ซึ่งในหนึ่งเทอมจะมีประมาณสามถึงสี่วิชาที่ต้องเรียนรวมกัน และเป็นคลาสที่โคตรจะวุ่นวายเพราะมีเด็กเกือบครึ่งร้อยที่ต้องเรียนพร้อมกันในห้องโถงใหญ่ สายขิมเลือกนั่งเก้าอี้หลังสุดเหมือนอย่างเคย เสียงนักศึกษาภายในห้องเงียบลงเมื่ออาจารย์ประจำวิชาเริ่มเข้าสอน และตอนนั้นที่เธอรู้สึกเหมือนมีใครบางคนนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างกาย เมื่อหันกลับไปมองสายขิมถึงกับขมวดคิ้วมุ่น ไข่มุกน่ะ ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไรที่หล่อนมานั่งข้างเธอในตอนนี้ "ไงเธอ ต้องขอโทษเรื่อง 'เมื่อวานตอนเที่ยง' ด้วยนะพอดีปากไวไปหน่อย :)" ไข่มุกเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานๆ พร้อมส่งรอยยิ้มที่คิดว่าเป็นมิตรที่สุดส่งมายังสายขิม แล้วที่มานั่งข้างเธอเพื่อบอกแค่นี้เนี่ยนะ? เหมือนไม่ใช่ไข่มุกที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเลย.. มันต้องมีอะไรที่มากกว่านี้ ยัยนี่ไม่ใช่เล่นๆ เลย ชื่อเสีย เอ๊ย ชื่อเสียงเรื่องไม่เป็นเรื่องมันหนาหูเอาเรื่องเลยนะ และยัยนี่ก็เดตกับหนุ่มตัวท็อปของมหา’ลัยไปหลายคนแล้วด้วย ถึงนิสัยจะแย่แค่ไหนแต่ถ้าสวยถูกใจพวกผู้ชายก็ไม่สนเรื่องนิสัยหรอก หน้าตาดี = โลกจะใจดีกับคุณ "ต้องการอะไร" คนตัวเล็กเอ่ยถามหล่อนไปโดยที่สายตายังคงโฟกัสไปยังสไลด์ของอาจารย์ที่เปิดบรรยายอยู่ "แหม เย็นชาจังเลยนะเธอน่ะ" หล่อนเอ่ยจนเธอต้องละสายตาจากสไลด์เพื่อมองหล่อนในตอนนี้ ไข่มุกต้องการอะไร? ทำมาพูดดีด้วย ทั้งที่วันนั้นทั้งโขกสับเธอ ทั้งใช้สายตาเหยียดหยามอีกด้วย แต่ตอนนี้ดันมาทำดีเหมือนต้องการอะไรอย่างนั้นแหละ "เดือนหน้าวันเกิดฉัน" "..." บอกทำไมไม่ได้อยากรู้สักหน่อย "ฉันเชิญเธอไปด้วย...ไปนะ" รอยยิ้มสวยๆ มาพร้อมกับซองการ์ดที่ยื่นมาบนโต๊ะของเธอ แต่คนตัวเล็กทำเพียงเหลือบตามองแต่ก็ไม่ได้หยิบมันขึ้นมาดูอย่างใด "เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ฉันคงไปไม่ได้หรอกนะ" เธอกับไข่มุกแทบจะไม่เคยคุยกัน จู่ๆ ก็มาชวนไปงานวันเกิดแบบนี้ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ และไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ไปอยู่แล้ว "อย่าใจแคบสิ เรามาเริ่มต้นกันใหม่ไง ถือว่าฉันชวนเธอในฐานะเพื่อนใหม่ สายป่านน่ะเขาเป็นเพื่อนฉันด้วยนะ ได้ข่าวว่าป่านกับเธออยู่บ้านโฮสต์เดียวกันนี่" ไข่มุกเป็นเพื่อนกับสายป่านงั้นเหรอ...ก็ว่าอยู่นิสัยคล้ายกันเชียว โดยเฉพาะสายตาที่ชอบเหยียดคนน่ะ "..." สายขิมเงียบแล้วคิดจะปฏิเสธไข่มุกไป เธอไม่สนิทใจจะไปงานวันเกิดของหล่อน แต่คำพูดต่อมาของแม่ดาวคณะนั้นก็ทำเธอชะงักไป "แล้วอีกอย่างมีแต่พวกท็อปๆ ไปกันทั้งนั้น ในงานมีแต่สาวสวยๆ หนุ่มหล่อๆ เธอเองก็ไปด้วยสิ แต่ถ้าคิดจะแต่งตัวบ้านๆ เชยๆ ในแบบที่ใส่อยู่ทุกวัน จะไม่ไปก็ได้นะ เพราะเดี๋ยวงานวันเกิดฉันมันจะ Low น่ะจ้ะ :) "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD