ติ้ง !
มือที่กำลังรีดเสื้อชุดนิสิตถูกหยุดไว้ด้วยเสียงแจ้งเตือนข้อความดังออกมาจากโทรศัพท์ที่เปิดเพลงอยู่
oil_pichanan : น้องอิงพี่อยู่ข้างล่างจ้า
หลังจากเห็นข้อความที่มาจากคนซึ่งรออยู่เธอก็กดปิดสวิตช์ปลั๊กสามตาช่องที่เสียบเตารีดไว้ทันที เนื่องจากทางหอพักต้องมีคีย์การ์ดแตะเข้าตึกและลิฟต์เลือกชั้นเท่านั้นทำให้คนนอกไม่สามารถเข้ามาได้ แต่คนในตึกสามารถออกได้โดยไม่ต้องมีบัตร เธอจึงต้องเป็นคนลงไปรับลูกพี่ลูกน้องที่รออยู่ด้วยตัวเอง
หลังจากตอบข้อความกลับไปน้ำอิงก็ลงไปรับทันทีแอบรู้สึกเกรงใจ ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องรอนาน แต่เมื่อลงไปคิ้วสวยก็ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย
“สวัสดีค่ะพี่ออย...เอ่อ?” เธอยกมือขึ้นสวัสดีผู้หญิงซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สาวและสายตาก็เหลือบไปหาคนที่ไม่รู้จักอีกสองคน
“นี่เพื่อนพี่เอง ชื่อแป้ง กับเอม” พี่ออยแนะนำซึ่งน้ำอิงก็ยกมือไหว้อย่างเสียไม่ได้ ที่เธองุนงงไม่ได้งงว่าพวกเขาชื่ออะไรหรือเป็นใคร แต่ที่สงสัยคือพวกเธอมาทำไมต่างหาก
พอเห็นหน้าฉงนบนใบหน้าของเธอ ผู้เป็นพี่ก็หัวเราะแล้วอธิบายขณะที่กำลังขึ้นไปด้านบน
“พอดีวันนี้พี่นัดเพื่อนมหาลัยว่าจะไปเที่ยวกันน่ะ ไม่เจอเพื่อนนานแล้ว”
“อ๋อ...ค่ะ” น้ำอิงมองกระเป๋าใบใหญ่ของพี่ออยและเพื่อน ๆ ของเธอ เห็นว่าเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้แต่งองค์ทรงเครื่อง “พี่แป้งกับพี่เอมนอนที่นี่ด้วยไหมคะ เดี๋ยวอิงเตรียมที่นอนไว้ให้”
เธอหันไปถามเพราะอยากรู้แค่ว่าเราจะนอนด้วยกันหรือเปล่า พี่ออยไม่ได้บอกไว้ก่อนห้องเธอตอนนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เตียงนอนขนาดไม่พอสำหรับสี่คนถึงแม้แต่ละคนจะผอมเพรียวก็เถอะ
“ไม่หรอกจ้า พี่แค่ขอยืมห้องแต่งตัวเฉย ๆ” พี่แป้งสาวตัวสูงเหมือนนางแบบหันมาพูดแล้วยิ้มให้ ขณะที่พวกเธอเริ่มจับจองที่นั่งทันทีที่เข้ามาในห้องแล้วค้นเอาสัมภาระของตัวเองออกมาทีละอย่าง
น้ำอิงมองไม่วางตาอย่างประหลาดใจกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายที่คล้ายกับพวกพี่เขามีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าเจ้าสาวอะไรทำนองนั้น สิ่งนี้เกินจะจินตนาการว่าคนเราจำเป็นต้องมีเครื่องสำอางเยอะขนาดนี้ด้วยเหรอ เธอก็มีนะของพวกนี้น่ะ แต่นี่มันเยอะเกินความจำเป็นไปมากแล้ว
“น้องน้ำอิงไปกับพวกพี่มั้ย” คนตัวเล็กชะงักสายตาอึ้ง ๆ แล้วหันไปมองพี่เอมที่ไม่น้อยหน้าเพื่อนสาว เธอวางเครื่องม้วนผม เครื่องหนีบ ไดร์และอะไรไม่รู้ที่เหมือนเครื่องหนีบผมแต่เป็นคลื่น ๆ หยัก ๆ
นี่พวกพี่เขาใช้พวกนี้ทำผมภายในครั้งเดียวเลยเหรอ?
“พี่เอมว่าอะไรนะคะ ?”
“ไปกับพวกพี่ไหม ไปกันเยอะ ๆ สนุกดีนะคะ”
“อิงยังไม่รู้เลยค่ะว่าพวกพี่จะไปไหนกัน”
“โอ๊ยพวกมึง...น้องกูมันไม่เคยออกมาข้างนอก บ้านก็ประคบประหงมเหมือนไข่ในหิน ไม่รู้จักอะไรแบบนี้หรอก” พี่ออยตอบขณะที่กำลังวางเสื้อผ้าไปที่โซฟาหน้าทีวี
พูดอะไรกันอ่ะ ? คือพี่เขาน่าจะบอกเธอซักหน่อยนะ เพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่า 'อะไรแบบนี้' ที่ว่านั่น มันคือ 'อะไรแบบไหน'
“น้องมึงเข้ามหาลัยแล้วนะเว้ย เดี๋ยวก็ต้องรู้อยู่ดี ใส ๆ แบบนี้รู้เลยว่าเหล้าน่าจะไม่เคยกิน เอ่อ...น้องอิงเรียนอะไรคะลูก ?” พี่แป้งคุยกับพี่ออยก่อนที่ท้ายประโยคจะหันมาถามเธอ
“วิศวะเครื่องกลค่ะ” พอน้ำอิงพูดแป้งกับเอมก็อึ้งไป เพราะพวกเธอไม่คิดว่าเด็กน้อยที่ใส ๆ นัยน์ตาซื่อ ๆ แบบนี้จะเรียนคณะที่เป็นศูนย์รวมผู้ชายที่ทั้งถึก และเถื่อนได้ แถมสาขาที่เธอเรียนผู้หญิงน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนผู้ชาย
“มึงไม่พาไปเรียนรู้ตอนนี้ เดี๋ยวโดนผู้ชายมอมทำไงวะ เป็นพี่ก็ต้องสอนเอง ก่อนที่น้องมึงจะไปลองกับคนอื่น ครั้งแรกอยู่ในสายตาเราดีกว่าเห็น ๆ” พอแป้งพูดเอมก็พยักหน้าสนับสนุน
พอได้ฟังที่เพื่อนพูดออยก็เกิดความลังเลในใจ
ตอนแรกเธอไม่คิดจะชวนเพราะรู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาและไม่อยากทำให้น้องเสียคน เดี๋ยวน้ำเหนือพี่ชายของน้ำอิงจะมาด่ากราดเอาได้ แต่สิ่งที่เพื่อนพูดก็มีเหตุผลอยู่ไม่น้อย
แน่นอนว่าน้ำอิงถึงจะใช้ชีวิตในบ้านตัวเองอย่างดี แต่ในสังคมตอนนี้เธอก็เป็นคนที่ยังไม่รู้ประสีประสา วัยรุ่นต่างจังหวัดกับวัยรุ่นเมืองหลวงทั้งเล่ห์เหลี่ยม กลโกง และความร้ายกาจต่างกันมาก
“น้ำอิงอยากไปผับไหม”
“ผับ...อิงยังอายุไม่ถึงนะคะ”
เธอไม่ได้ใสขนาดที่ไม่รู้เรื่องขนาดนั้น เดี๋ยวนี้อินเทอร์เน็ตมันครอบคลุมถึงไหนต่อไหนแล้ว เธอก็รู้เรื่องหมดแหละ เพียงแต่ไม่เคยสัมผัสของจริงเท่านั้น
“พี่รู้ บอกแค่ว่าอยากไปหรือไม่อยากไปก็พอ” ออยถามอีกครั้งทำให้น้ำอิงเกิดความลังเล แสดงว่าถ้าเธอบอกว่าอยากไป พี่ออยก็คงหาทางพาเธอเข้าไปจนได้อย่างไม่มีปัญหาใช่ไหม?
เพียงแต่เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้น้ำเหนือคงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
แต่สิ่งที่เธอลังเล และอยากเห็นคงเป็นความสัมพันธ์สนิทสนมของพวกพี่ออยกับเพื่อน เธออยากรู้ว่าเวลาผู้หญิงอยู่ด้วยกันมันเป็นยังไง เป็นสิ่งที่เธอเกือบจะลืมไปแล้วว่าการอยู่ในกลุ่มผู้หญิงหรือเวลาอยู่ด้วยกันเขาคุยกันแบบไหน...
“อิงอยากไปค่ะ”
น้ำอิงพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะขอโทษพี่ชายตัวเองในใจ แต่เธอแค่อยากรู้อยากเห็นเผื่อมันจะพัฒนาสกิลการเข้าสังคมของเธอให้ดีขึ้น อาจไม่ถูกใจพี่ชายแต่มันอาจจะเป็นประโยชน์กับตัวเธอในอนาคตก็ได้
“งั้นเราไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้”
น้ำอิงทำตามพี่สาวอย่างว่าง่าย ใช้เวลาสักครู่เพราะถูกกำชับว่าให้สระผมด้วยเพราะการจัดของทำให้เหงื่อออกค่อนข้างเยอะ ก่อนจะเดินออกมาพบว่าแป้งและออยคอยท่าอยู่ที่โต๊ะกลางห้องเหมือนพวกเขาเป็นช่างแต่งหน้าทำผมเตรียมตัวเมคโอเวอร์เธอแบบนั้น
“พี่ ๆ แต่งกันเถอะค่ะ อิงแต่งตัวง่าย ๆ ก็ได้ค่า แหะ ๆ” ทำท่าหมุนตัวจะกลับเข้าห้องนอนเพื่อไปแต่งตัวของตัวเอง ก็โดนเอมดึงไปให้นั่งแหมะอยู่ที่เก้าอี้ซึ่งด้านหน้าเรียงรายไปด้วยเครื่องสำอางละลานตา
“โนค่ะน้องอิง พี่แอบไปดูตู้เสื้อผ้าหนูมาแล้ว แต่ละชุดไม่ผ่านอย่างแรง เราต้องให้เกียรติสถานที่ด้วยนะคะ ไปเที่ยวก็ต้องแต่งตัวแบบไปเที่ยว เหมือนกับเราไปสระว่ายน้ำเขาก็มีกฎว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำ เสื้อยืดไม่สามารถใส่ไปได้ทุกสถานที่นะคะลูกสาว”
แป้งพูดหว่านล้อมที่มันดูไม่ค่อยจะเข้าใจ ซึ่งคิดไปคิดมาก็จริงอยู่เหมือนกัน แต่ผับเขาไม่มีกฏนี่ว่าต้องแต่งชุดแบบไหนเหมือนสระว่ายน้ำซักหน่อย
“ผับมีกฎแบบนั้นด้วยเหรอคะ ?” น้ำอิงถามเพราะอดสงสัยไม่ได้
“ไม่มีค่ะ แต่เป็นกฎของกลุ่มพี่ว่าไปเที่ยวด้วยกัน เราต้องสวยเท่ากันค่ะ อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
“อ่า...เหรอคะ” คนตัวเล็กยิ้มแหย พยายามเข้าใจที่พวกพี่ ๆ พูด ถึงจะรับรู้ว่ามันไม่สมเหตุสมผลกันเลยก็ตาม
“แป้งแต่งหน้า เอมทำผม เดี๋ยวเลือกชุดกูทำเอง” พี่ออยแบ่งหน้าที่
“แหม...เลือกหน้าที่ง่ายเชียวมึง” พี่เอมแซะก่อนจะขยับมือไปหยิบไดร์มาเปิดไดร์ให้ “น้ำอิงเลือกชุดที่พี่ออยเลยลูกสาว”
“อิงเอาชุดไหน...” พี่ออยถือชุดไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มือของพี่แป้งยังคงวนเวียนปาดครีมไปบนใบหน้าเธออย่างไม่ว่างเว้น “แต่ถ้าให้พี่แนะนำ พี่ว่าซ้ายดีกว่า จะได้คงความน่ารักสดใสไว้”
ออยว่างั้นก่อนจะเลือกให้เธออย่างเสร็จสรรพโดยไม่รอความเห็นเจ้าตัวแม้แต่น้อย สุดท้ายแล้วชุดที่เธอได้ใส่ก็เป็นชุดสีชมพูนมเกาะอกแขนยาวปาดไหล่ ความยาวปิดต้นขาเนื้อผ้ามีกากเพรชแวววับ ดูท่าจะทำให้คนใส่คันน่าดู...
“น้ำอิง อย่าหลับลูก โยกเยกแบบนี้เดี๋ยวที่ม้วนผมมันจะนาบเนื้อเอา” น้ำอิงสะดุ้งจนกลับมาตัวตรงหลังจากที่พี่เอมสะกิดเพราะเธอนั่งสัปหงกอยู่หลายครั้ง เวลาคนเล่นผมแล้วเธอจะหลับทุกทีเลย
“น้องมึงเหมือนตุ๊กตาเลยว่ะออย หน้าตาน่ารักมาก ตอนอยู่โรงเรียนต้องป๊อปแน่เลยใช่ไหม ?” พอแป้งถามซึ่งน้ำอิงก็ส่ายหน้าปฏิเสธอยู่เนือง ๆ
“ตอนม.ต้นก็ใช่ แต่พอมอปลายคลุกคลีอยู่กับไอ้เป้จะเอาอะไรมาป๊อปวะ ไอ้เป้แม่งพามอมแมมหมด” พี่ออยส่ายหน้าอย่างอ่อนใจในตอนที่พูดถึงน้องชายตัวเอง
“น้ำอิงขึ้นมหา’ลัยควรแต่งตัวไว้บ้างนะ หนุ่ม ๆ ต้องชอบแน่นอน” น้ำอิงได้ฟังก็ยิ้มบาง ๆ ไปให้ แม้ในใจจะคิดว่ามันไร้ประโยชน์ก็เถอะ สำหรับเธอความสวย ความน่ารักอะไรนั่น มันไม่ค่อยถูกกับเธอเท่าไหร่
เพราะเมื่อไหร่ที่มีเพศตรงข้ามชมว่าเธอน่ารัก หรือให้ความสนใจในตัวเธอมากเกินความจำเป็นเมื่อไหร่ มันทำให้เธอฉิบหายทุกที
หลังจากที่สามสาวแต่งหน้าทำผมให้น้ำอิงเสร็จแล้ว พวกเธอก็หันไปตั้งใจแต่งองค์ทรงเครื่องของตัวเองจนเวลาล่วงเลยมาจนมืดค่ำ คนอายุน้อยสุดก็รอจนหลับไปหลายตื่นกว่าที่พวกพี่ ๆ จะเสร็จกัน
เรียกแท็กซี่เพื่อย้ายตัวเองไปยังสถานที่เป้าหมาย ไม่ได้ห่างไกลจากแถวมหาวิทยาลัยนัก มือเล็กชื้นเหงื่อขึ้นเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิดต่อพี่ชาย ไม่ได้บอกเขาไว้ว่าจะไปไหน และเธอกำลังทำผิดกฎหมายเข้าสถานบันเทิงโดยที่อายุไม่ถึงตามกำหนด
ชีวิตนี้ไม่เคยทำผิดกฎหมายเลยนอกจากฝ่าไฟแดง
กลัวถูกจับได้จัง ฮือออ
“พี่ออยแน่ใจนะคะว่าเราจะไม่ถูกจับได้น่ะ”
น้ำอิงเริ่มร้อน ๆ หนาว ๆ ในตอนที่ต่อแถวเช็คบัตรอยู่และเธอเป็นคนเดียวที่ถือบัตรปลอมที่พี่ออยบังคับให้ต้องจำข้อมูลของใครก็ไม่รู้เผื่อโดนเรียกถามเพราะรูปติดบัตรหน้าไม่เหมือนเธอเลยซักนิด
ในขณะที่แถวสั้นลง ๆ เหงื่อที่มือก็ออกเยอะขึ้น รู้สึกว่าตัวเองล่กลั่กไปหมดจนโดนตีแขนให้หยุดตื่นตูมเสียที
“มันจะโดนจับได้ก็เพราะท่าทางเรานั่นแหละ ทำตัวนิ่ง ๆ เชิ่ด ๆ ไว้ ตอนนี้เราไม่ใช่ เขมิกา แต่เป็นวรรณาเข้าใจไหม !”
แล้ววรรณามันใครกันเล่า !