“ช่วยถอยออกไปก่อนได้ไหมคะ พร้อมหายใจไม่ออก”
เห็นอีกฝ่ายทำทีคล้ายกลั้นหายใจวินธัยเลยยอมถอยออกไป พร้อมรักจึงได้หายใจหายคออย่างสะดวก ดวงตาคมกริบมองที่หญิงสาวอีกแวบหนึ่งก่อนที่เขาจะพูดขึ้นว่า
“ถึงคอนโดฯ ของคุณแล้ว”
“อะอ๋อ ขอบคุณค่ะ”
พร้อมรักรับคำ มือเรียวกำลังจะเปิดประตูหากแต่การกระทำของหญิงสาวต้องชะงักเมื่อได้ยินแพทย์หนุ่มพูดออกมาว่า
“ไม่คิดจะชวนผมขึ้นไปดื่มน้ำหน่อยเหรอ ถือว่าเป็นค่าเหนื่อยที่ผมอุตส่าห์ขับรถมาส่ง”
‘เดี๋ยวนะ หมอจะขอขึ้นไปกินน้ำที่ห้องเราเหรอ’
“ไหนบอกว่าอยากรู้จักผมให้มากกว่านี้ไง คุณไม่อยากรู้จักผมหรอกเหรอ”
‘อยากรู้จักสิ อยากมากๆ เลย แต่ตอนนี้ตอนเรามีแต่กลิ่นเหล้า ต้องไม่ดีแน่’ พร้อมรักแสดงสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะฉุกใจคิดได้ว่า ‘เดี๋ยวนะพร้อมรัก นั่นใช่เรื่องที่เราควรกังวลหรอกเหรอ’
ความคิดของพร้อมรักตีรวน ความลังเลและงุนงงฉายชัดอยู่บนดวงหน้าเรียวรูปไข่ วินธัยเห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มจางๆ ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะเลือนหายไป
“ถ้าคุณไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไร งั้นผมกลับละ เดินขึ้นไปเองไหวใช่ไหม”
ได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้น พร้อมรักที่ยังคงมีฤทธิ์แอลกอฮอล์เจือจางอยู่ในร่างกายก็เผลอตอบออกไปโดยไร้การไตร่ตรอง
“พร้อมว่าพร้อมไม่น่าจะเดินไหวค่ะ หมอช่วยไปส่งพร้อมที่ห้องหน่อยได้ไหมคะ”
พร้อมรักคิดว่าตัวเองสร่างเมาแล้ว หากแต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น พร้อมรักยังคงมึนเมาอยู่แต่ก็ไม่มากเท่ากับตอนที่อยู่ไนต์คลับ แต่ก็รู้สึกหนักอึ้งศีรษะอยู่มากจนคนเป็นแขกอย่างวินธัยต้องไปหาน้ำดื่มเอง ในขณะที่เจ้าบ้านอย่างเธอนั่งรออยู่ที่โซฟา
“ขอบคุณค่ะ”
พร้อมรักมีชาสำเร็จรูปแบบพร้อมชงดื่มหลายชนิดติดครัว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หญิงสาวจึงไหว้วานให้แขกอย่างวินธัยชงชาเขียวมาให้สักแก้วเพื่อแก้อาการเมาเหล้าสักหน่อย นาทีนี้เธอขอวางความเกรงอกเกรงใจเอาไว้ก่อน มือเรียวรับถ้วยชามาจากมือของวินธัย ในขณะที่อีกฝ่ายเดินกลับไปที่ครัวอีกครั้งเพื่อหยิบขวดน้ำที่วางไว้หลังตู้เย็น ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวเดียวกันกับพร้อมรักที่กำลังยกชาขึ้นจิบ
“แบบว่า...ที่นี่มีสองห้องนอนก็จริง แต่อีกห้องพร้อมเก็บของเอาไว้ค่ะ หมอคงนอนไม่ได้”
“หมายความว่าคุณไม่อนุญาตให้ผมนอนค้างที่นี่ใช่ไหม”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ” พร้อมรักรีบวางถ้วยชาในมือลงแล้วอธิบายอย่างกระตือรือร้น “พร้อมหมายความว่าห้องนั้นนอนไม่ได้ แต่ห้องพร้อมนอนได้”
“หืม” วินธัยถึงกับเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นพลางมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา “ถ้าให้ผมนอนห้องของคุณ แล้วคุณจะนอนที่ไหน”
“ก็ๆ แบ่งกันคนละครึ่งไงคะ หมอนอนฝั่งขวา พร้อมนอนฝั่งซ้าย แบบนี้ค่ะ”
“คุณไม่กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณหรอกเหรอ”
“หมอไม่ได้รู้สึกอะไรกับพร้อมสักหน่อย หมอคงไม่ทำอะไรหรอกค่ะ”
“คุณคิดว่างั้นเหรอ”
“เอ๊ะ!”
พร้อมรักอุทานออกมาอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินนัก และตอนนี้เธอก็เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเพิ่งจะจูบเธอตอนที่อยู่ในรถ หญิงสาวขมวดคิ้วตอนที่พยายามครุ่นคิดคำพูดของวินธัย แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังตกค้างอยู่ในร่างกายทำให้ระบบคิดวิเคราะห์ของพร้อมรักค่อนข้างรวน กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ตอนที่ร่างกายลอยหวือขึ้นและตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งของแพทย์หนุ่ม
“ดะเดี๋ยวค่ะ”
พร้อมรักร้องเสียงตื่นตระหนกตอนที่วินธัยขยับเท้าพาเธอลุกไปจากโซฟา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดเท้าเลย ขายาวยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่ริมฝีปากหยักได้รูปขยับถาม
“ห้องนอนของคุณห้องไหน”
“ห้องนั้นค่ะ”
พร้อมรักชี้นิ้วไปทางห้องนอนตัวเองอย่างเผลอไผล ก่อนจะรีบตวัดแขนโอบคอของเขาเอาไว้แน่นอย่างกลัวตก พอแผ่นหลังบางสัมผัสกับฟูกนุ่ม สติที่ลอยไปลอยมาก็กลับมาอีกครั้ง
“หมอคะ คะคือว่าแบบนี้มันจะเร็วเกินหรือเปล่าคะ”
พร้อมรักถามคนที่กำลังปีนขึ้นเตียงโดยใช้ท่าเดินเข่าเสียงสั่น หลังจากที่เขาวางร่างของเธอลงบนเตียงในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน แพทย์หนุ่มยังไม่คลายความสงสัยของหญิงสาวในทันที เขาทิ้งตัวลงนอนอีกฝั่ง ปิดเปลือกตาลงแล้วบอกหญิงสาวว่า
“ไม่เร็วไปหรอก เพราะตอนนี้ผมง่วงนอนสุดๆ”
“อะอ้าว”
พร้อมรักหน้าเหวอไปนิดหน่อยเมื่ออีกฝ่ายบอกแบบนั้น และราวกับว่าวินธัยปิดสวิตช์ตัวเองเพราะนอกจากเปลือกตาของเขาจะปิดสนิทแล้ว ลมหายใจของแพทย์หนุ่มก็ดูสม่ำเสมอ สีหน้าของพร้อมรักบ่งบอกว่าเจ้าตัวงุนงงอยู่ไม่น้อยเพราะคิดว่าเขาจะ ‘ทำอะไร’ แบบนั้นกับเธอเสียอีก
พร้อมรักปล่อยความคิดนั้นตกไป เพราะตอนนี้เธอก็รู้สึกง่วงอยู่เหมือนกัน ไหนจะมึนหัวหน่อยๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ตกค้างนั่นก็ด้วย คิดได้แบบนั้นคนที่ระบบความคิดรวนก็ค่อยๆ ขยับตัวลงนอน เปลือกตาสีมุกปิดลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราหลังจากที่ศีรษะถึงหมอนไม่ถึงห้านาที ลมหายใจของหญิงสาวสม่ำเสมอ ส่วนคนที่พร้อมรักคิดว่าหลับไปแล้วค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ร่างสูงตะแคงตัวใช้มือข้างหนึ่งค้ำศีรษะ ดวงตาคมปลาบจับจ้องดวงหน้าเนียนใสที่ตอนนี้พวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงเรื่อ รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นตรงมุมปาก ก่อนจะบอกกับคนที่หลับสนิท
“ผมไม่นิยมเอาเปรียบคนที่กำลังเมาหรอก ไว้คุณสติครบถ้วนดีว่านี้ ค่อยว่ากันอีกที”
ว่าจบก็เอี้ยวตัวไปจัดการปิดโคมไฟหัวเตียง ร่างสูงเอนตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมกับตวัดผ้าห่มที่เดิมทีกองอยู่ปลายเตียงขึ้นมาคลุมให้ทั้งตัวเองและคนที่หลับสนิทไปแล้วอย่างพร้อมรัก
อากาศที่เย็นลงในช่วงกลางดึกทำให้พร้อมรักที่หลับสนิทเริ่มขดตัว ร่างบางไขว่คว้าหาความอบอุ่น และเพราะทั้งคู่ห่มผ้าผืนเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่พร้อมรักจะคว้าเอาความอบอุ่นที่มีชีวิตอย่างวินธัยเอาไว้ หญิงสาวพลิกตัว แขนเรียวข้างหนึ่งตวัดรอบเอวสอบแล้วกอดเอาไว้แน่น ส่วนศีรษะซุกซบอยู่ที่แผ่นอกอุ่นๆ ดูเหมือนว่าพร้อมรักยังอุ่นไม่พอเพราะตอนนี้หญิงสาวตวัดขาขึ้นก่ายกอดร่างสูงด้วย ตอนนี้วินธัยจึงถูกขโมยกอดทั้งตัวอย่างสมบูรณ์
เปลือกตาหนาเปิดปรือขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่าร่างกายถูกรุกราน ดวงตาคมเหลือบมองเห็นร่างกายของตนถูกเจ้าของห้องกอดรัดเอาไว้เสียแน่น เขาเดาว่าเธอคงจะหนาว หากแต่วินธัยไม่ชอบเป็นฝ่ายถูกกอดเวลานอนเพราะมันทำให้เขารุู้สึกอึดอัด แต่ครั้งนี้เขาจะยกเว้นก็ได้ เห็นแก่คนที่กำลังต้องการความอบอุ่น แต่คนอย่างเขาไม่คิดจะยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว
แล้วแพทย์หนุ่มก็พลิกตัวมาเป็นฝ่ายโอบกอดร่างเล็กกว่าเอาไว้เสียเอง ไออุ่นที่แผ่กำจายออกมาจากเรือนกายสูงใหญ่ทำให้ร่างเล็กหยุดขยุกขยิกไม่ไหวติงอีกราวกับว่าได้รับความอบอุ่นอย่างที่เจ้าตัวต้องการเรียบร้อยแล้ว และครู่ต่อมาเปลือกตาหนาของแพทย์หนุ่มก็ปิดลงอีกครั้ง ก่อนที่ลมหายใจของเขาจะสม่ำเสมอ
แสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างในยามเช้าทำให้ดวงตาคู่สวยเปิดปรือขึ้น ก่อนจะค่อยๆ เปิดกว้างในชั่วเสี้ยวนาทีต่อมา พร้อมรักยกมือขึ้นใช้สันมือกดที่ขมับของตนเบาๆ อย่างต้องการขับไล่ความงุนงง ครู่หนึ่งอาการเหล่านั้นก็ค่อยๆ เบาบางลง หญิงสาวหยัดกายขึ้นในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจเต้นระรัวเมื่อเหลือบสายตาไปเห็นคนที่กำลังหลับสนิทอย่างวินธัย
สิ่งที่พร้อมรักทำเป็นอันดับแรกนั่นก็คือก้มลงสำรวจร่างกายของตัวเองเมื่อเห็นว่ายังคงอยู่ในชุดเดิมไม่มีส่วนใดบุบสลายก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างแสนเสียดาย
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยงั้นเหรอ”
“แล้วคุณอยากให้เกิดอะไรขึ้นล่ะ”
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมๆ กับที่เขาหยัดกายขึ้นอยู่ในท่าเดียวกัน พร้อมรักหน้าร้อนฉ่าเมื่ออีกฝ่ายได้ยินสิ่งที่เธอเผลอพึมพำออกไป
“ปะเปล่าค่ะ พร้อมไม่ได้อยากให้เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้น ว่าแต่เมื่อคืนนอนหลับสบายดีหรือเปล่าค่ะ”
“เกือบสบาย ถ้าผมไม่ถูกลวนลาม”
กล่าวจบร่างสูงก็ก้าวลงจากเตียง ทิ้งพร้อมรักเอาไว้กับดวงตากลมโตที่กำลังเบิกกว้างราวกับไข่ห่าน สติของหญิงสาวถูกกระชากปลิดปลิว หลงเหลือเอาไว้เพียงร่างกายแข็งค้างราวกับถูกแช่แข็งด้วยความเย็นจัด พอตั้งสติได้หญิงสาวก็รีบกระโดดลงจากเตียง ซอยเท้าถี่ๆ ตามวินธัยที่แผ่นหลังของเขาหายไปจากประตูห้องเรียบร้อยแล้ว
‘ไม่ได้เด็ดขาด หากเราลวนลามอาจารย์หมอจริง เราต้องรับผิดชอบ’