บทที่4 ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน

1893 Words
“ไม่คิดว่าเจ้าของบริษัทบูรพาเกียรติจะเป็นพี่สิงห์นะครับ ได้ยินแต่ชื่อตั้งนานกลับไม่มีโอกาสมาเจอตัวจริง ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องพรหมลิขิตนะครับ ว่าไหมอดีตพี่รหัส” คำทักทายแรกจากอดีตน้องรหัสยังคงกวนยียวนประสาทหยอกล้อกันตามประสาผู้ชายเหมือนเดิม อีกฝ่ายทำทียิ้มรับบาง ๆ ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ท่านประธานบริหารสูงสุดของบูรพาเกียรติ สีหราชเคยเรียนอยู่ที่เดียวกันกับพยัคฆ์ ด้วยความที่อายุอ่อนกว่าเขาหลายปีจะเรียกลุงรหัสก็ไม่เชิง ไม่ว่าจะอยู่ปีไหน เขากับรุ่นน้องจับสลากได้เป็นสายสัมพันธ์รหัสสายเดียวกัน ทำกิจกรรมรับน้องร่วมกัน เขากับพยัคฆ์ไม่ได้สนิทสนมเข้าขั้นกับบรรดาพวกเพื่อนสนิทของรุ่นน้อง ทันทีที่สีหราชเรียนจบต่างประเทศรีบกลับมารับธุรกิจช่วงต่อจากบิดา นำความรู้ที่สั่งสมมาพัฒนาระบบการบริหาร จากนั้นทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกัน จนกระทั่งหวนกลับมาเจอกัน “ก็คงงั้นมั้ง” สีหราชไหวไหล่เบา ๆ ไม่สะทกสะท้านคำพูดเสียดสีของพยัคฆ์ “เรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่า เลขาของพี่สิงห์คงบอกหมดแล้วว่าผมอยากต้องการสร้างรีสอร์ตไร่แสงจันทร์ของผม เป็นช่องทางอีกด้านหนึ่งการเข้ามาเที่ยวพักของนักท่องเที่ยว หวังว่าพี่สิงห์จะเชี่ยวชาญทางด้านนี้อยู่แล้วนะครับ” พยัคฆ์เปลี่ยนเรื่องคุยธุระสำคัญ เขาหยิบวางแบบแผนร่างโครงสร้างรีสอร์ตภายในไร่แสงจันทร์ไว้คร่าว ๆ สีหราชสนใจงานตรงหน้าแล้วแสดงความคิดเห็นในแบบของตน “อีกประมาณสักสองสามวัน ฉันจะไปดูของจริงก่อนกลับมาประชุมกับฝ่ายออกแบบว่าพื้นที่ไหนเหมาะกับการสร้างรีสอร์ตที่นายต้องการ และก็เตรียมงบประมาณการสร้างให้เยอะ ๆ ละ คนรวยอย่างนายคงไม่มีปัญหาด้านนี้ใช่ไหม” เท่ากับว่าเขากำลังสบประมาทอดีตรุ่นน้องรหัสว่างก ให้งบน้อยเกินความจำเป็น ความจริงสีหราชแกล้งขู่พยัคฆ์ไปเล่น ๆ อย่างรู้เล่ห์เหลี่ยมเท่าทันกัน เจ้าของไร่แสงจันทร์บอกหลีกเลี่ยงทางอื่น “ถ้าคนของพี่สิงห์ก่อสร้างรีสอร์ตตัวใหม่แบบที่ผมต้องการได้ ผมก็ยินดีพร้อมจ่ายค่าตอบแทนให้บริษัทพี่สิงห์ได้ไม่อั้นนะครับ” สองหนุ่มพูดคุยกันเรื่องธุรกิจต่อด้วยความคุ้นเคยและสนิทสนมมานานหลายปีพอจะรู้จักนิสัยใจคอกันประมาณหนึ่ง คนอย่างสีหราชถ้าสนิทกันจริง แขวะได้ หยอกล้อได้ระดับที่พอรับได้ ไม่หยาบคาย แต่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่สนิทเข้ามาพูดจาด่าทอ สีหราชไม่เว้นหน้าไหนเช่นกัน …… “สอบเสร็จแล้ว โล่งอกเสียที แกคิดไว้หรือยังว่าจะไปสมัครหางานทำที่ไหน ลิลลี่” กลุ่มนักศึกษากำลังทยอยออกมาจากห้องสอบ หลังจากสอบวิชาเดียวเสร็จ ลลินดาส่งรอยยิ้มหวานกับกลุ่มเพื่อนสองคน ปฏิเสธการเลี้ยงไปฉลองสอบจบปีสี่สุดท้าย หญิงสาวต้องรีบเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวย้ายออกจากบ้านนั้นตามสัญญาข้อตกลงเลี้ยงดู เมื่อเช้าเห็นว่าสีหราชอารมณ์เสียเรื่องการแต่งงานคลุมถุงชนจึงไม่กล้าถามว่าเขาปล่อยเธอไปตามข้อตกลงกันไว้ เขาก็คงรู้ว่านกน้อยกำลังเลี้ยงไว้ในกรงทองกำลังโบยบินจากบ้านอธิฐ์โภคิน เธอไม่อยากอยู่บ้านกับคนที่ไม่ต้อนรับเธอ “ลิลลี่คงหางานทำบริษัทแถว ๆ นี้แหละ ลิลลี่เอาตัวรอดเองได้ ขอตัวก่อนนะ พอดีรีบกลับบ้านนะจ้ะ” ลลินดาพ่นลมหายใจหนัก ๆ หลบเลี่ยงจากการตอบคำถามของกลุ่มเพื่อน การตอบคำถามสวนทางกับความเป็นจริง หญิงสาวแอบส่งใบสมัครทำงานที่จังหวัดอื่น เธออยากหลบหนีออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง ถ้าหากอนาคตต้องมารับรู้ข่าวการแต่งงานของสีหราชกับผู้หญิงที่ครอบครัวหาให้ ขอหลบพักบาดแผลหัวใจที่อื่น “น้องลิลลี่จะกลับแล้วเหรอครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” “พี่นที!” ลลินดาเสียงดังขึ้นทันควัน เธอเกือบควบคุมอาการตกใจไม่อยู่ เพียงเห็นอดีตรุ่นพี่ที่ยังคงคอยแวะเวียนมาคอยตามจีบเธอ ทว่าก็ถูกเจมมี่ เพื่อนสาวคนสนิทเป็นไม้กันท่า ทำให้หญิงสาวรอดจากเจ้าของธุรกิจไนต์คลับสีเทา ข่าวลือว่านทีเป็นผู้ชายเจ้าชู้ คบกับผู้หญิงไม่เกินสองอาทิตย์เลิกหรือถูกใจใครที่สวยกว่า และเขาเป็นประเภทชอบท้าทาย ของที่ได้มายากเย็นกลับสนใจกว่าผู้หญิงลุ่มหลงเสน่ห์ทอดสะพานให้นทีถึงบนเตียง เจมมี่เตือนเพื่อน และลลินดาสงวนตัวห้ามเข้าใกล้นทีตามคำสั่งสีหราช “ทำไมเห็นพี่แล้วต้องตกใจด้วย พี่อันตรายสำหรับน้องลิลลี่มากเลยเหรอครับ” นทีแอบหน้าเจื่อนวูบเล็กน้อยเห็นปฏิกิริยาต่อต้านจากคนที่เขาสนใจ ลลินดาสวยหวานอย่างเป็นธรรมชาติ เขาแพ้รอยยิ้มอ่อนหวานและพยายามตามจีบแต่ดูท่าว่าผู้ปกครองหน้าดุกีดกันขัดขวางทาง วันนี้นทีไม่พลาดโอกาสชักชวนหญิงสาวขึ้นรถสปอร์ตคันใหม่เอี่ยมล่าสุดเพิ่งถอยออกมา “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะพี่นที ลิลลี่ไม่รบกวนพี่นทีหรอกค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ลลินดาตอบสุภาพ ขณะกำลังเดินหลบหนีจากอดีตรุ่นพี่คอยตามตื้อเธอ แต่นทีตีหน้ามึนขับรถไล่ตามร่างอรชร เธอนึกรำคาญ “น้องลิลลี่ครับ เมื่อไหร่น้องจะใจอ่อนยอมรับรักกับพี่สักที พี่รักน้องลิลลี่ อย่าเดินหนีพี่สิครับ” ลลินดาภาวนาหนีจากพวกผู้ชายประเภทเจ้าชู้ หญิงสาวนึกถึงใครบางคนเข้ามาช่วยเธอจากการคุกคามตามตื้อของอดีตรุ่นพี่นที แต่แล้วฟ้าไม่ฟังคำเว้าวอนจากเธอ นทีหมดความอดทนกระชากเปิดประตูรถลงมารีบสาวเท้าก้าวเดินคว้าจับข้อมือเธอไว้แน่น “โอ๊ย! พี่นทีปล่อยลิลลี่นะคะ” “เลิกเล่นตัวหน่อยเถอะ ทำตัวเป็นผู้หญิงไม่เคยถูกเอาไปได้ ที่แท้ก็อ้าขาเร่ขายให้ผู้ชายเอา ขอพี่ได้ลิ้มลองน้องลิลลี่คนสวยสักครั้งว่าจะหอม หวานมากขนาดไหน ขึ้นรถไปกับพี่!” “ไม่ไปพี่นที ช่วยด้วยค่ะ” ลลินดาร้องเรียกตะโกนขอความช่วยเหลือ เผื่อว่าจะมีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วย นทีหวาดกลัวสร้างเรื่องโกหกให้เธอต้องอับอายต่อหน้ากลุ่มเพื่อนมหาวิทยาลัย “เรื่องของผัว ๆ เมีย ๆ อย่ามายุ่ง!” นทีตวาดดังลั่นให้กับพวกพลเมืองดีกำลังยื่นมือมาช่วยกลับต้องถอยห่าง ต่อมาก็มีน้ำเสียงทรงอำนาจบ่งบอกว่าอย่ามาแตะต้องของหวงห้ามของเขา “นายรู้ได้ยังไงว่าคนของฉันเป็นเมียของนาย” “คุณสิงห์” ลลินดาอยากร้องไห้โฮออกมาด้วยความตื้นตันใจที่คนภาวนานึกถึงกลับยื่นมือเข้ามาช่วยเธอจากผู้ชายเจ้าชู้ทันเวลา “อ้อ ที่แท้ก็ผู้ปกครองของน้องลิลลี่นี่เอง พี่ต้องขอผู้ปกครองของน้องด้วยไหมว่าน้องลิลลี่กำลังจะมีผัว” นทีรวบตัวร่างเล็กเข้าสู่อ้อมแขนอันน่าขยะแขยง มองด้วยอีกฝ่ายด้วยสายตาเย้ยหยันให้ผู้ปกครองของลลินดา “ฮึก ไม่ใช่! เขาโกหก คุณสิงห์ช่วยลิลลี่ด้วย เขามาตามตื้อลิลลี่ แต่ลิลลี่ไม่ยอม” เธอเว้าวอนเขาทั้งน้ำตา หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย สีหราชกำหมัดแน่น ก่อนเหยียดยิ้มมุมปาก นทีแอบหวาดหวั่นกับสายตาคมกริบที่เหมือนบอกให้เขารู้ว่ากำลังพ่ายแพ้ “ถ้าฉันบอกว่าลลินดากำลังจะมีผัวแล้วก็คือฉัน นายจะปล่อยว่าที่เมียฉันไหม ฉันขอทวงเมียของฉันคืน” “คุณสิงห์” เธออ้าปากค้างกับคำพูดของอีกฝ่ายที่เธอแอบรักป่าวประกาศให้ทุกคนแถวนี้รับรู้ แต่หญิงสาวไปเป็นว่าที่เมียของสีหราชตอนไหน หรือว่าอาจเป็นคำข้ออ้างเพื่อช่วยเธอจากนที กว่าลลินดาจะตั้งสติตัวเองได้หลังชะงักค้างหลายวินาที กลับตกอยู่สู่ภายในอ้อมแขนของสีหราชกระชากคนตัวเล็กจากนทีรวดเร็ว เธอขยุ้มเสื้อเชิ้ตของผู้ปกครองไว้แน่นก้มหน้าซบแผงอกกว้าง “แล้วนายก็อย่ามายุ่งกับเด็กของฉันอีก และขืนนายดื้อด้านยังตามมารังควานหนูลี่หรือลลินดา ฉันทำได้มากกว่าที่นายคิด” แววตาแข็งกร้าวส่งไปทางอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องจริง และพาคนแนบชิดแผงอกกว้างก่อเกิดความปั่นป่วนแปลก ๆ ทางร่างกายดันเธอขึ้นรถยนต์เคลื่อนตัวออกไป นทีกำหมัดแน่นที่ถูกคนมาตัดหน้าแย่งชิงของเล่นต้องการอยากได้เสียก่อน ลูกชายคนเดียวนักธุรกิจชื่อดังไม่อยากเอาตัวเองพัวพัน ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว เขาหัวเสียรีบกระชากเปิดประตูรถแล้วขับออกจากบริเวณแถวนั้น “คุณสิงห์ ขอบคุณนะคะที่มาช่วยลิลลี่ได้ทัน” “ทีหน้าทีหลังก็ระมัดระวังตัวเองไว้เสียบ้าง ถ้าฉันไม่มาช่วยเธอทันจากพวกผู้ชายคิดลวนลามเธอ ฉันคงเสียใจตลอดชีวิตที่รับปากกับน้าเธอว่าให้ดูแลหนูลี่ดีที่สุด” สีหราชย้ำเตือนสั่งสอนเด็กด้วยสีหน้าดุ คนตัวเล็กหน้าหงอยบอกกับเขาอย่างรู้สึกผิด “ลิลลี่ขอโทษค่ะ ฮึก” “ขอโทษแล้วมันดีขึ้นไหม” เขาถามเสียงห้วนนิด ๆ นึกรำคาญกับน้ำตาของผู้หญิงไหลพรากอาบแก้มนวล ถามตัวเองว่าทำไมเขาเห็นกลับต้องคันยุกยิกที่หน้าอกข้างซ้าย ลลินดาเถียงสู้ผู้ปกครองหน้าดุไม่ออก ทำได้แต่ก้มหน้าก้มตาปัดคราบน้ำตาทิ้ง หัวใจหนึบชาปวดร้าวที่เขาพูดแบบนั้นออกไปเพื่อปกป้องเธอ ทั้งที่ความจริงหญิงสาวอยากเป็นผู้หญิงคนสำคัญอยู่เคียงข้างกายเขา แม้รู้อยู่เต็มอกว่าสถานะต่ำต้อยเป็นเพียงกาฝากต้องจำใจรับเลี้ยงอุปการะ “หยุดร้องได้แล้ว สอบเสร็จแล้วใช่ไหม กลับบ้าน” กลัวว่าน้ำตาของสาวเจ้า อาจทำให้ใจเขาอ่อนเหลว “ตะ แต่ทำไมคุณสิงห์ถึงมารับลิลลี่เร็วล่ะคะ ไหนบอกว่าคุยงานดึก ให้ลิลลี่หารถกลับเอง...” ปลายนิ้วชี้ของสีหราชแตะปลายริมฝีปากนุ่มเบา ๆ ก่อนเอามือออก จ้องมองใบหน้าหวานด้วยสีหน้าราบเรียบเย็นชา “ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูลี่...ที่บ้าน” คำสั่งเฉียบขาดของสีหราชเสียงดัง ลลินดาชะงักนิ่งเงียบลง ชายหนุ่มยกยิ้มเหยียดนิด ๆ มองเด็กอุปการะแวบหนึ่ง ก่อนตัดสินใจถี่ถ้วนแล้วว่าไม่จำเป็นต้องแต่งงาน ขอเพียงหาผู้หญิงสักคนที่พร้อมยินยอมมารับเลี้ยงอุ้มบุญทายาทของเขาแลกกับเงินก้อนโตเอาไปตั้งตัวใหม่ได้สบาย เชยชมต้องการอุ้มหลาน เขาจะจัดแม่พันธุ์ผลิตทายาทตระกูลอธิฐ์โภคินให้สาสมใจอยาก หนูลี่น่าจะเป็นตัวเลือกให้ฉันดีที่สุด ฉันก็จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับคนที่แม่เลือกเอาไว้ ฉันเกลียดการแต่งงาน เกลียดการมีครอบครัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD