“เอ่อ…คือ…” เสียงใส ๆ ของสาวน้อยผมดำ เปล่งเอ่ยต่อชายหนุ่มที่เดินผ่านมาตรงหน้า น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความเขินอายและไม่มั่นใจ
“หนูชอบพี่ค่ะ!”
เธอเอ่ยออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะยื่นกล่องไม้ขนาดเล็กที่ผูกไว้ด้วยโบสีแดงเข้มให้ชายตรงหน้า
“…” ชายหนุ่มเพียงหยุดมองเธอด้วยสีหน้านิ่งเฉยผมสีดำขลับมีปอยผมตกลงมาปรกหน้า ยิ่งเสริมความหล่อของเขาให้ชัดเจนขึ้น แม้จะเพิ่งอยู่ในวัยสิบแปดปีก็ตาม จมูกคมเป็นสัน ประดับนัยน์ตาสีดำลึกลับ แฝงความเย็นชาดุจน้ำแข็ง เขาไม่ได้ตอบกลับสิ่งใดออกไป เพียงเหลือบมองหญิงสาวด้วยหางตา ราวกับว่าเธอเป็นเพียงธาตุอากาศที่ลอยอยู่เท่านั้น
ชายหนุ่มยื่นมือหนาล้วงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินต่อไปอย่างไม่ใยดี ทิ้งไว้เพียงหญิงสาวให้ยืนนิ่งงัน ท่ามกลางเสียงสายลมแผ่วเบาในฤดูหนาวเท่านั้น
“พะ…พี่ธาวิน…” หญิงสาววัยแรกรุ่นเอ่ยเรียกชายหนุ่มอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ในเมื่อแม้แต่สายตาของเขายังไม่หันมองมาที่เธอด้วยซ้ำ
“อย่ามายุ่งกับฉัน” ธาวินหยุดเดิน ก่อนจะเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา โดยไม่แม้แต่ชายตาหันมามอง
“อย่างน้อยก็ช่วยรับของลินไว้หน่อยนะคะ” หญิงสาวยังพยายามตื้อชายหนุ่ม เธอเอ่ยพลางยื่นกล่องไม้ให้กับเขา
“…” ถึงแม้จะได้ยินเสียงร้องขอ แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากเขา เพียงแต่ยื่นมือออกไปรับของจากหญิงสาวอย่างรีบร้อนเท่านั้น ก่อนจะเดินจากไปทันที สาวน้อยยืนนิ่งเสียความรู้สึกอยู่ตรงมุมทางเดิน เธอมองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยแววตาแดงก่ำ น้ำตาเริ่มเอ่อคลอเบ้าพร้อมจะร้องไห้ตลอดเวลา
ไอลิน เป็นหนึ่งในสาว ๆ หลายคนในโรงเรียนแห่งนี้ที่แอบชอบรุ่นพี่ธาวิน ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งชื่อเสียงและหน้าตาไหนจะฐานะก็สูงส่ง มีสาว ๆ รุ่นน้องรุ่นพี่ตามขายขนมจีบให้ของขวัญเขานับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่สนใจ หรือแม้แต่จะชายตามองใครสักคนด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็หมายถึงเธอเช่นกัน
ที่ผ่านมาไอลินใช้เวลาเกือบสองปีในการพยายามรวบรวมความกล้าสารภาพรักกับเขา แต่ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าของธาวิน ใจเธอก็แป้วลงจนต้องหลบออกมาก่อนทุกที ในครั้งนี้เธอลองใหม่อีกสักตั้ง และในที่สุดเธอก็กล้าออกไปสารภาพรักได้สำเร็จ แต่เขาก็ไม่สนใจเธอตามคาด แน่ล่ะ ก็เธอไม่ได้มีอะไรดีเป็นพิเศษ ขนาดผู้หญิงสวย ๆ รวย ๆ ระดับลูกเศรษฐีมาทอดสะพานถึงที่ เขาก็ยังไม่สนใจเลย แล้วอย่างเธอที่เป็นเพียงสาวมัธยมธรรมดาจะเหลืออะไรล่ะ
หลังจากถูกปฏิเสธอย่างเย็นชา หญิงสาวก็เดินคอตกออกมานั่งที่ลานม้าหินอ่อนข้าง ๆ สระน้ำพุของตึกเรียน ด้วยสีหน้าผิดหวังระคนเสียใจ เธอฟุบหน้าลงกับโต๊ะก่อนจะค่อย ๆ หลับตาลงผ่อนความเศร้าให้จมลงตรงนั้น แม้เธอจะเตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมันจริง ๆ ความเสียใจที่เกิดขึ้น มันก็มากพอที่ทำให้เธออยากจะร้องไห้ แต่แล้วเสียงดังจากใครบางคนก็ฉุดเธอออกจากภวังค์จนสะดุ้งโหยง
“ไงแก…ยัยลิน พี่เขาว่าไง?” เสียงแสบหูของเพื่อนสาวคนสนิทดังขึ้นทางด้านหลัง ก่อนจะพุ่งตัวมานั่งข้าง ๆ ไอลินที่กำลังหมดอาลัยตายอยากอยู่
“เขาไม่แม้แต่จะมองฉันด้วยซ้ำ...ฮือ ๆ” ไอลินพูดพลางน้ำตาก็ค่อย ๆ ซึมเลอะแก้มสีชมพูระเรื่อ
“ฉันบอกแกแล้ว ว่าอย่าไปสนใจพี่ธาวินเขาเลย ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาโปรไฟล์ดีขนาดไหน ครอบครัวทำธุรกิจใหญ่โตขนาดนั้น แถมหล่อและเย็นชาที่สุดในโรงเรียนนี้แล้ว สาว ๆ สวย ๆ มาจีบเขาตั้งกี่คน เขายังไม่สนใจเลย เฮ้อ แกไม่น่าไปตกหลุมรักเขาเลยยัยลิน”
“ฉันรู้ แต่แค่เขาพูดกับฉันดี ๆ หรือมองหน้าฉันสักหน่อยก็ได้”
“กอด ๆ แกนะ ฉันว่าแกเลิกสนใจเขาเหอะ หน้าตาแบบแกยังมีโอกาสเจอหนุ่มนิสัยดีอีกเยอะ” เพื่อนสาวพูดปลอบใจไอลิน พลางลูบหลังเบา ๆ พร้อมส่ายหน้าอย่างเห็นใจ
“ขอบใจแกมากยัยน้ำ ฮือ ๆ ๆ” ไอลินเอ่ยตอบกลับเสียงสะอื้น พร้อมกับปล่อยโฮให้กับปฏิบัติการรักแรก ที่เละไม่เป็นท่า แถมยังเสียหน้าที่ถูกทำเหมือนเธอเป็นเพียงธาตุอากาศอีกด้วย แต่นั่นก็เป็นความเสี่ยงที่เธอต้องจำใจรับมัน ให้ทำยังไงได้ก็เธอเองเป็นฝ่ายไปแอบชอบเขาเอง
“นั่นอะไรน่ะ ของที่สาว ๆ ให้มาเหรอ?” เสียงของลูซี่เอ่ยถาม ขณะหยิบกล่องของขวัญผูกโบแดงของชายตรงหน้าที่เพิ่งเข้ามาในห้องเรียนและนั่งลงข้างๆ เธอ
“…” ชายหนุ่มล้มตัวลงนั่งข้าง ๆ หญิงสาว ก่อนจะเปิดกระเป๋าตัวเอง แล้วหยิบกล่องของขวัญในมือของลูซี่โยนใส่กระเป๋าลงไป เหมือนไม่ได้สนใจสักนิด
“ก็แค่ของทั่ว ๆ ไป” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เอ๊ะ? ปกตินายไม่เคยรับของจากผู้หญิงคนไหนเลยนะวิน”
“ก็แค่หยิบมาให้มันจบ ๆ ไปก็เท่านั้นแหละ” ธาวินยังคงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย พลางหยิบสมุดออกมาวางบนโต๊ะพร้อมที่จะเข้าคาบเรียนในอีกสิบนาที
“จ้า ๆ ฉันเชื่อนาย มีสาว ๆ คนไหนบ้างล่ะ ที่ไม่อยากจีบนาย” ลูซี่พูดกระแนะกระแหน พลางหันหน้าส่งสายตาจับผิดเพื่อนสนิท พร้อมหัวเราะอย่างพอใจ
“ไร้สาระ”
“จะว่าไร้สาระก็ได้ แต่ถ้านายไม่รู้จะเลือกใคร ก็เลือกเพื่อนสนิทแบบฉันก็ได้นะ ฉันเนี่ย ตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว” ลูซี่พูดพลางสะบัดผมอย่างมีเสน่ห์ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไปไหนมาไหนกับธาวินได้ตลอดเวลา ทุกคนต่างรู้ว่าครอบครัวของเธอและธาวินนั้นทำธุรกิจร่วมกัน เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สาวทุกคนก็ต้องถอยให้
ธาวินไม่ได้ตอบอะไร แค่แค่นหัวเราะในลำคอ พลางส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับความคิดแปลก ๆ ของเพื่อนสนิท หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์วิชาประจำวิชาก็เข้ามา เขายังคงนั่งนิ่งอยู่หลังห้อง ด้วยสายตาอันเย็นชา และด้วยท่าทีสุขุมเยือกเย็นนั้น ยิ่งทำให้เขาดูโตกว่าเพื่อนในวัยมัธยมศึกษาปีที่หกด้วยกัน
เมื่อเห็นว่าธาวินคิดว่าเธอคงพูดเล่นไปตามประสา ลูซี่ก็ยักไหล่เล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ถ้าเกิดวันไหนเขาเลือกเธอขึ้นมาจริง ๆ เธอก็พร้อมที่จะเป็นผู้หญิงของเขาอย่างแน่นอน
ที่ผ่านมาลูซี่รู้ดีว่ามีผู้หญิงหลายคนเขามาชอบเขามากมาย แต่ผู้หญิงพวกนั้นไม่มีสิทธิ์ได้อยู่ใกล้ ๆ ธาวินอย่างเธอเลยสักนิด นี่เป็นสิ่งที่เธอถือไพ่เหนือกว่าผู้หญิงเหล่านั้น อีกทั้งตระกูลของของทั้งสองสนิทกันจึงได้อภิสิทธิ์เรียนในคลาสสุดพิเศษของโรงเรียนแห่งนี้
ธาวินหันมองกล่องของขวัญในกระเป๋าที่เพิ่งโยนใส่เข้าไป ด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะยิ้มมุมปากขึ้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอย่างไรกับสิ่งนี้รวมทั้งต่างก็ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว ผู้ชายในฝันของสาว ๆ คนนี้ เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่
"นายครับ…" ชายบอดีการ์ดในชุดสีดำเอ่ยเรียกเด็กหนุ่ม ผู้เป็นเจ้านายในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกับในมือถือร่มเตรียมไว้
"ตอนนี้ได้เวลาแล้วครับ คุณพ่อของคุณกำลังรออยู่ ท่านกำชับมาว่า คืนนี้มีธุระสำคัญรอคุณกลับไปคุยด้วยครับ"
"อืม รู้แล้ว" ธาวินเอ่ยพลางสายตาก็บังเอิญมองเห็นเด็กสาวรุ่นน้อง ผู้มอบของขวัญชิ้นนั้นให้เขา เธอกำลังวิ่งผ่านสายฝนที่กำลังตกโปรยปรายลงมา เขาใช้เวลาจดจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันสายตากลับมา
"ไปกันเถอะ" ดวงตาสีดำขลับของเด็กหนุ่ม ยิ่งทำให้เขาดูเย็นชาจนยากที่คาดเดาได้ เขาหันกลับมาที่ประตูรถหรู
"เชิญครับ" บอดี้การ์ดหนุ่มผายมือให้เจ้านายอย่างสุภาพ ก่อนที่ธาวินจะก้าวขึ้นรถด้วยท่าทางสุขุมเกินวัยด้วยความที่เขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลทรงอิทธิพล
ทั้งยังมีธุรกิจภายในประเทศอีกมากมาย ทำให้เขาต้องมีผู้ติดตามที่คอยดูแลความปลอดภัยอย่างไม่ห่าง
เมื่อประตูถูกปิดลง รถหรูสีดำเงาก็ค่อย ๆ แล่นออกไปจากตึกอาคาร ก่อนจะเคลื่อนผ่านเด็กสาวคนนั้นที่นั่งรอรถอยู่หน้าโรงเรียน ธาวินยังคงเห็นว่าเธอนั่งอยู่ที่เดิม เขาแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ก่อนจะเอนตัวด้วยท่าทางผ่อนคลายเพียงชั่วขณะนั้นเขาก็เหลือบสายตามองเธออีกครั้ง เขาพินิจพิจารณาหญิงสาวในทุกท่วงท่ากริยา ก่อนที่เขาจะเอ่ยชื่อใครคนหนึ่งอย่างแผ่วเบา
"ไอลิน…" สายตาคมกริบมองเด็กสาวผ่านกระจก และเผยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ไม่นานรถหรูก็ค่อย ๆ ลับสายตาไปบนถนนท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมา