ไม่รู้ตัวเลยว่าจะถูกทิ้ง

1323 Words
ทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เธอกลับรู้สึกกลัวที่จะไปเปิดประตู เพื่อพูดคำโกหกต่างๆ นานา “ทำไงดีๆ ๆ” เสียงเคาะหนักขึ้นเรื่อยๆ เมริสาตัดสินใจทิ้งอุปกรณ์ทำความสะอาดไว้ แล้วเดินออกไปดูที่ประตู เธอมองผ่านช่องตาแมว จึงก็ได้เห็นชายสุดหล่อยืนถือช่อกุหลาบสีแดงแจ๋ “หมอนั่นจริงๆ ด้วย สงสัยจะงานใหญ่ แต่งหล่อพร้อมช่อกุหลาบ” เมริสาหันหลังให้บานประตู “หรือจะแกล้งทำเป็นไม่มีใครอยู่” สิ้นสุดคำนั้น ประตูเปิดออก เธอหันหลังขวับ ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้อง ด้วยท่าทางอารมณ์ดี แต่พอเห็นหน้าเธอ สีหน้าและอารมณ์เขาก็เปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์แทน “ไอริสล่ะ” “คุณเข้ามาได้ยังไง” เขาชูกุญแจให้ดู ก่อนเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา “ไปเรียกสุดที่รักของฉันมา” “ถ้าคุณหมายถึงไอริสล่ะก็...” “แล้วจะให้หมายถึงใคร” “เธอไม่อยู่ค่ะ” เขาขมวดคิ้ว “ไปไหน” “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” เธอโกหกอีกแล้ว และการโกหกทุกครั้งในชีวิต เกิดจากไอริสทั้งสิ้น “แต่คงไม่อยู่ราวๆ สองสามวันน่ะค่ะ” “ได้ยังไง” ชายหนุ่มอารมณ์กราดเกรี้ยวขึ้นทันตา ทำให้หญิงสาวผงะเล็กน้อย เขาล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกทันที เขาฟังครู่หนึ่งก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างอารมณ์เสีย “ปิดเครื่อง หมายความว่าไง ไปไหน ทำไมไม่บอก” “สงสัยจะเซอร์ไพรส์แฟน” “ว่าไงนะ” “เปล่าค่ะ” เมริสายิ้มเจื่อน เวลานี้เธออึดอัดเกินทน อยากจะเข้าไปสูดอากาศหอมๆ ในห้องน้ำต่อ “คุณจะนั่งให้หายเหนื่อยก่อนก็ได้นะคะแล้วค่อยกลับ” “ทำไมต้องกลับ ในเมื่อที่นี่เป็นของฉันครึ่งหนึ่ง เธอคงเป็นแม่บ้านของไอริสสินะ” “แม่บ้าน!!!” ไม่ใช่สาวใช้แต่เป็นแม่บ้าน เขาจำหน้าเธอไม่ได้เลยเหรอ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือน “ค่ะ ฉันเป็นแม่บ้านของคุณไอริส เธอจ่ายเงินเดือนให้ฉันแพงมากเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวไปทำความสะอาดห้องน้ำต่อเลยนะคะ เพราะหากมัวแต่พูด งานจะไม่เสร็จ ไม่คุ้มกับเงินเดือนค่ะ” เจ้าหล่อนหันหลังแล้วสะแยะยิ้มด้วยความโมโห หากหายตัวได้เหมือนแฮรี่ พอร์ตเตอร์ เธอคงทำทันที “หวังว่าล้างห้องน้ำเสร็จ คุณคงกลับไปแล้วนะ” เธอพูดกับตัวเองขณะกลับประจำที่หน้าโถส้วม ชายหนุ่มคลายเน็คไทออกหลวมๆ เพื่อผ่อนความอึดอัด “จะไปไหนมาไหนก็น่าจะบอกกันบ้าง” ร็อกกี้อดบ่นไม่ได้ วันนี้เขาอุตส่าห์เลิกงานเร็ว เพื่อจะกลับมาดินเนอร์กับเธอแท้ๆ “ล้างห้องน้ำเสร็จแล้ว ทำอาหารให้ฉันกินด้วยนะ” เขาตะโกนเสียงดังเพื่อให้แม่บ้านได้ยิน เสียงตอบรับหวานๆ จากหญิงสาวทำให้เขาแปลกใจ “ค่ะคุณผู้ชาย” หญิงสาวสูดลมหายใจดังฟืดฟาดด้วยความโมโห วินาทีนี้ เธอระบายกับใครไม่ได้ นอกจากอ่างอาบน้ำ เธอกระโดดลงไปข้างใน แล้วถูชนิดที่ว่าถ้าเป็นเนื้อคนคงขาดไปแล้ว “นี่มันเรื่องอะไรของฉันเนี่ย” เธออยากจะกรี๊ดให้ลั่นตึก ทำงานให้ไอริสยังพอทน แต่ต้องทำให้คนที่เกลียดเธอด้วย มันรับไม่ได้ เธอมั่นใจเลยว่าหมอนี่เพิ่งใช้สายตารังเกียจและดูถูกเธอไปเมื่อสักครู่นี้ “เดี๋ยวก็เอาน้ำยาล้างห้องน้ำทำให้กินหรอก” “อะไรนะ” “ว๊าย!!!” เธอตกใจหงายหลังกระแทกกับพื้นอ่างที่เพิ่งขัดจนตัวไถล...โป๊ก!! “โอ๊ย!!!” ชายหนุ่มแอบยิ้มแวบหนึ่งกับภาพตลกตรงหน้า ก่อนปั้นหน้าขรึมเหมือนเดิม “เป็นไปได้ไหมที่ไอริสมีงานเดินแบบที่ต่างประเทศ” นี่เขาสงสัยมากจนถึงขนาดตามมาถามเธอถึงในห้องน้ำเชียวเหรอ แต่ไม่ถามสักคำนะว่าเจ็บตรงไหนรึเปล่า ผู้ชายอะไร คิดจะเป็นสุภาพบุรุษแต่กับผู้หญิงสวยๆ เหรอ “เป็นไปได้” เจ้าหล่อนกัดฟันกรอด มือหนึ่งจับก้นเอาไว้ อีกมือจับขอบอ่าง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ก้าวลงจากอ่าง แล้วยิ้มสดใสแต่นัยน์ตาแค้น “เธออาจมีงานด่วนเลยบินไปปารีส” “ปารีสเหรอ!!!” เมริสาหุบปากฉับ “ฉันเดาเล่นน่ะค่ะ ฉันก็แค่แม่บ้าน จะไปรู้อะไรล่ะคะ จริงไหม?” ชายหนุ่มมองเธออย่างจับผิด “ล้างห้องน้ำเสร็จแล้วใช่ไหม” “ค่ะ” เธอกัดฟันตอบ “ถ้าคุณไม่ทำให้ฉันตกใจจนลื่นไถลลงไปในอ่างซะก่อน” “นั่นสินะ ตัวเธอสกปรกกว่าอ่างน้ำเสียอีก สงสัยต้องขัดใหม่อีกรอบสองรอบ ให้เวลาห้านาที เคลียร์ให้เรียบร้อย แล้วออกไปทำอาหารให้ฉันกิน หิวจะแย่อยู่แล้ว” หมอนั่นสั่งเสร็จก็เดินออกไป เธออยากจะหยิบถังน้ำมาขว้างตามหลังไปจริงๆ “ช่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง จะถูกทิ้งอยู่แล้วยังไม่รู้ตัว!” เมริสาทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย เลยเวลาที่เขากำหนดเล็กน้อย เธอล้างมือ ล้างเนื้อตัวและล้างหน้าจนสะอาด เกลี้ยงเกลา นวลเนียน สดใส ก่อนจะมัดผมขึ้นเป็นทรงซาลาเปา เผยลำคอระหงงดงาม แม่บ้านจำเป็นเตรียมตัวออกไปทำอาหารต่อ เธอเดินเข้าครัว โดยผ่านห้องรับแขก หมอนั่นนั่งดูทีวีอย่างสบายใจที่โซฟาตัวยาวสีแดงเข้ม เขาลืมไปรึเปล่าว่าคนรักหายไป “คนอะไร เห็นบอล ดีกว่าแฟนตัวเอง” เธอเปิดตู้เย็นออกดู ก็พบเพียงความว่างเปล่า “อะไรกันเนี่ย ยัยนั่นซื้อตู้เย็นไว้ทำไม เสียบปลั๊กไฟไว้เฉยๆ เป็นของประดับห้องว่างั้น น้ำ เบียร์ไม่มีสักอย่าง อยากจะบ้าตาย” เมริสาสงบสติอารมณ์ แล้วเดินกลับมาที่ห้องรับแขก “ฉันต้องออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเกต” “ก็ไปสิ” เขาไม่มองเธอด้วยซ้ำ “เงินล่ะคะ” หมอนี่ขี้เหนียว ไอริสเพิ่งจะกล่าวถึงสรรพคุณข้อนี้ของเขา “ฉันขอเบิกเงินไปซื้อของสดมาทำอาหารเย็นให้คุณค่ะ” ชายหนุ่มฟึดฟัดไม่พอใจ เขาปิดโทรทัศน์ แล้วลุกขึ้นยืน “ไปด้วยกันเลย” “ห๊า...” หญิงสาวกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ “ฉันว่าคุณรออยู่ที่ห้องดีกว่าค่ะ ฉันไปซื้อแป๊บเดียว” “ก็บอกแล้วไงว่าฉันไปด้วย เธอเป็นแค่แม่บ้าน ทำตามคำสั่งก็พอ” ชายหนุ่มเดินนำออกไปที่ประตู หญิงสาวคิดว่าจะมีเวลาส่วนตัวลั้นลาที่ซุปเปอร์มาเกตซะอีก เผื่อจะซื้อของใช้ส่วนตัว แต่กลายเป็นว่ามีผู้คุมไปด้วยเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มออกจากห้องไปก่อน หญิงสาวจัดการล็อกประตู เป็นเวลาเดียวกับที่ ชายหนุ่มที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาอาศัยข้างห้องเป็นวันแรก กำลังไขประตูห้องเพื่อเข้าข้างใน “เอ๊ะ...” เมริสาประหลาดใจมากที่เห็นเขาผู้นั้น ชายผู้เย็นชาไร้จิตใจที่ใครๆ ต่างเรียกเขาว่าผีดิบประจำคณะ เขาอยู่เงียบๆ และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ผู้หญิงหลายคนที่พยายามเข้าใกล้เขา แต่ไม่เคยมีใครอยู่กับเขาได้เกินหนึ่งวัน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาซาดิสม์เกินไป จึงทำให้ข่าวลือที่ว่าเขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่โหดร้ายที่สุดคนหนึ่งของอิตาลีเริ่มมีน้ำหนัก แต่เธอเคยเอาชื่อและนามสกุลเขามาเสิร์ชหาข้อมูลดู ผลที่ได้คือว่างเปล่า เขาไม่มีประวัติในกูเกิ้ล ตกลง เขาเป็นใครกันแน่...??? “ไคล์ คาร์โล” คือชื่อของเขา เธอจำได้ขึ้นใจเชียวล่ะ เพราะเขาคือคนที่เธอเฝ้ามองมาตลอดตั้งแต่เข้าเรียนวันแรกจนเธอจบตัวเอง ลาออกในปีที่สอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD