ตอนที่ 5
ในวินาทีนั้น ธันวารู้สึกราวกับเวลาหยุดนิ่ง เขาอยากจะกอดเธอไว้แบบนี้ตลอดไป ไม่อยากให้เสียงฟ้าผ่าหรือพายุฝนใดๆ มาพรากช่วงเวลาอันใกล้ชิดนี้ไปจากเขา เขาก้มหน้าลงเล็กน้อย ริมฝีปากเกือบจะสัมผัสกับเส้นผมของเธอ…
“ฝนเริ่มซาแล้ว เรารีบไปกันเถอะ หอพักของหนูอยู่ห่างจากนี้อีกไกลมั้ย” เธอซบอกเขาแน่นไม่ยอมตอบ ราวกับว่าอย่างเก็บเวลาช่วงนี้ไว้ให้นานที่สุด
“ไม่ไกลค่ะ...เลยซอยข้างหน้าไปอีกซอยเดียว อาหมอก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลยค่ะ”
ธันวาตัดสินใจขับรถไปตามทางที่ขวัญรวินทร์บอก เขารู้ดีว่าเธอมีเพียงแค่แม่ที่คอยดูแล พ่อแท้ ๆ จากไปตั้งแต่ขวัญรวินทร์เข้าเรียนมอปลาย ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าและความโหยหาในใจขณะที่เธอเข้าสู่วัยรุ่น ความรู้สึกขาดแคลนในส่วนลึกของจิตใจก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เธอขาดบุคคลที่เป็นเสาหลัก
อ้อมกอดของธันวาเมื่อสักครู่ เสียงปลอบโยนที่นุ่มนวล นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย มันช่างเติมเต็มช่องว่างในหัวใจของขวัญรวินทร์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เด็กสาวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและห่วงใยของเขา ผู้ซึ่งมีความเป็นผู้นำและพร้อมจะปกป้องเธอ ความรู้สึกบางอย่างที่เรียกว่า ‘ความรัก’ ก่อตัวขึ้นในใจของขวัญรวินทร์อย่างไม่มีเหตุผล มันเป็นความรักที่ไร้ซึ่งข้อแม้ ไร้ซึ่งขอบเขต มันคือความรักที่เธอโหยหามาตลอดชีวิต ความรักจาก ‘พ่อ’ ที่หายไป… ทำให้เด็กสาวมอบความไว้วางใจให้กับธันวาอย่างไม่มีข้อแม้
ธันวาขับรถมาจอดสนิทที่หน้าหอพักของขวัญรวินทร์ ท่ามกลางความเงียบงันที่โรยตัวลงมาพร้อมกับความรู้สึกโหยหาที่ยากจะปกปิด
“ถึงแล้วนะหนู” ธันวาเอ่ยขึ้นเบาๆ น้ำเสียงของเขาแหบพร่าเล็กน้อย ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าอ่อนเยาว์ของขวัญรวินทร์ที่หันมาสบตา เธอคลี่ผ้าห่มออกจากตัวช้าๆ ทว่าความอบอุ่นจากอ้อมกอดของธันวาก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ
ขวัญรวินทร์พยักหน้ารับช้าๆ ความรู้สึกห่วงหาอาทรเอ่อล้นอยู่ในแววตาคู่สวยของเธอ เธอไม่อยากจากไปเลย ไม่อยากจากอ้อมกอดและสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของธันวา เธอรู้ดีว่าหากก้าวลงจากรถไปแล้ว เธอจะต้องกลับไปเผชิญหน้ากับโลกที่โหดร้ายอีกครั้งโดยลำพัง
“ระวังตัวด้วยนะ” ธันวาพูดต่อ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“มีอะไรก็โทรหาอาหมอได้ตลอดเวลาเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ หรือจะไลน์มาก็ได้นะ” เขายื่นโทรศัพท์ให้เด็กสาวสแกนคิวอาร์โค้ดในแอพไลน์
ขวัญรวินทร์ยื่นโทรศัพท์ออกไปสแกนเพิ่มเพื่อน ราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่เธอมี เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นจากรูปโปรไฟล์ของเขาบนแอพลิเคชั่น
“ขอบคุณนะคะอาหมอ” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้ายจะร้องไห้
ธันวามองขวัญรวินทร์ด้วยความรู้สึกมากมายที่ตีรวนอยู่ในอก เขามองเห็นความบอบช้ำในดวงตาของเธอ ความโดดเดี่ยวที่เธอต้องเผชิญ เขาอยากจะดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่นๆ อีกครั้ง อยากจะรั้งเธอไว้ไม่ให้ไปไหน แต่สติและสถานะอันน่าปวดหัวก็ฉุดรั้งเขาไว้
“ดูแลตัวเองดี ๆ นะ ช่วงนี้ถ้ามีอะไรก็โทรหาอาได้ตลอดเวลาเลย” ธันวาพูดเบาๆ แม้ในใจจะหนักอึ้ง เขาพยายามส่งยิ้มให้เธอ เป็นยิ้มที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและความปรารถนาดี
“เพื่อความปลอดภัยของหนูเอง อาหมอว่าหนูควรจะไปแจ้งความนะ” ธันวาเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง เขาเชื่อว่าการดำเนินการทางกฎหมายคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอ ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าอ่อนเยาว์ของขวัญรวินทร์ที่หันมาสบตา เด็กสาวคลี่ผ้าห่มออกจากตัวช้าๆ ทว่าความอบอุ่นจากอ้อมกอดของธันวาก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจ
ขวัญรวินทร์ส่ายหน้าช้าๆ ใบหน้าซบกับบ่าของธันวา เสียงของเธอสั่นเครือ
“แจ้งไม่ได้หรอกค่ะ หนูไม่อยากทะเลาะกับแม่” ธันวาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ความงุนงงฉายชัดในแววตา พร้อม ๆ ความรู้สึกห่วงหาอาทรเอ่อล้นอยู่ในแววตาคู่สวยของเธอ เด็กสาวไม่อยากลงรถและไม่อยากจากอ้อมกอดและสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของธันวาไปเลย เธอรู้ดีว่าหากก้าวลงจากรถไปแล้ว เธอจะต้องกลับไปเผชิญหน้ากับโลกที่โหดร้ายอีกครั้งโดยลำพัง
”อ้าว!! ทำไมล่ะ เค้าเป็นใครกัน บอกอาหมอมาเถอะ” น้ำเสียงของธันวาเต็มไปด้วยความห่วงใยและต้องการปกป้อง ลูกสาวของรุ่นพี่ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยมีพระคุณกับเขา