11

1406 Words
ศราวินรับคำเบาๆ แล้ววางสาย เหตุผลของคนที่มาทำงานสายนี้ส่วนใหญ่จะบอกว่า ‘ฉันมีเหตุจำเป็นให้ต้องทำทั้งที่ไม่อยากทำ’ ฟังมาบ่อยจนรู้สึกเอียน ความรู้สึกที่ตอนแรกสนใจมากจึงเบาบางลง ถึงแม้เสียงไลน์ของคุณแจนผู้จัดการคลับจะดังเตือนว่ามีข้อความส่งมา เขาก็ทำเพียงแค่มอง เบอร์โทรศัพท์ของลัลนานั่นเองที่คุณแจนส่งมา หากแต่ว่าศราวินกลับรู้สึกว่าเธอก็เหมือนพริตตี้ทั่วๆ ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเสียหน่อย ไม่ต้องเป็นฝ่ายโทร.หาก็ได้ ถ้าเขาอยากนอนกับใครก็หาที่สวยๆ เอาใหม่ได้ไม่ต้องเรียกใช้ซ้ำ ศราวินรู้สึกเบื่อหน่ายจึงขับรถกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้เข้าไปสนุกต่อกับเพื่อน คิดว่าคงเป็นเพราะตัวเองตรากตรำทำงานติดกันมาหลายวัน ทั้งเมื่อคืนก่อน เขาก็หมดพลังไปเยอะกับการเคี่ยวกรำสาวน้อยหัวไวจึงเพลียมาก อยากพักผ่อนเต็มที่สักคืน ผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดคือสิ่งแรกที่ลัลนาปรือตาขึ้นมาเห็น จากนั้นก็ได้ยินเสียงของญาดาที่เอ่ยขึ้นเบาๆ “แป้งกลับไปนอนที่บ้านก่อนไหม ทางนี้ น้าจะดูแลแม่ให้เอง” สาวน้อยเมื่อตื่นเต็มตาจึงเห็นว่าเป็นญาดาที่มาเยี่ยมมารดานั่นเอง หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม “สวัสดีค่ะน้าญา” “ไหว้พระเถอะ แม่เราอาการดีขึ้นแล้วใช่ไหม น้าถามคุณพยาบาลด้านนอกมา” “ใช่ค่ะ เมื่อคืนคุณหมอมาดูอาการก็บอกว่า แม่อาการดีขึ้นมาก เมื่อคืน แม่ยังเรียกชื่อแป้งด้วยเลยนะคะ” “น้าดีใจด้วยนะแป้ง” ญาดาบอก มองเด็กสาวด้วยความเอ็นดู สงสาร หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่รบกวนใจนางจนต้องเอ่ยขึ้น “แป้งจะหาเงินมาจ่ายที่เหลือยังไง น้าเป็นห่วงแป้งมากรู้ไหม” ลัลนามองญาดาแล้วเบือนหน้าหนี เธอยังคิดอะไรไม่ออกเลย แต่ก็ไม่คิดจะกลับไปทำงานพริตตี้อีก เพราะตั้งใจทำแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว หากต้องขายตัวให้ผู้ชายคนอื่นอีกคงทนไม่ได้ “แป้งว่าจะหากู้เงินมาจ่ายค่ะน้าญา” “อืม น้าช่วยอะไรแป้งไม่ได้ แต่น้าจะคอยเป็นกำลังใจให้ แป้งเข้มแข็งไว้นะลูก” “แป้งจะเข้มแข็งค่ะน้าญา ว่าแต่น้าญาอย่าเล่าเรื่องงานของแป้งให้แม่รู้นะคะ” ญาดาพยักหน้าแข็งขัน จากนั้นเหมือนนึกอะไรได้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเบา “แป้งมาคุยกับน้าข้างนอกห้องหน่อยสิ” ลัลนาเห็นท่าทางจริงจังของญาดาจึงเดินตามอีกฝ่ายออกไปนอกห้อง เมื่ออยู่กันสองคนตามลำพัง ญาดาจึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ “แป้ง คุณวินเขาขอเบอร์แป้งจากคุณแจนด้วย เขาได้โทร.หาแป้งไหม” “คุณวิน...ศราวินเหรอคะ” “ใช่ คนนั้นแหละ” “เขาไม่ได้โทร.มานี่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลัลนาถามด้วยความตกใจ เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า หรือว่าอยากได้เงินคืน หรืออะไรกันแน่? “น้าก็ไม่รู้ เห็นคุณแจนเล่าให้ฟังว่า คุณวินเขาขอเบอร์แป้งไป น้าไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ก็เลยถามแป้งดูก่อน” “ที่บ้านเขา แป้งแค่ทำแก้วแตกไปสามใบเองนะคะ ถ้าเขาจะว่าเรื่องนี้ก็คงบอกตั้งแต่ก่อนที่แป้งจะออกมาแล้ว นอกจากนี้ แป้งก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรอีก” “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ คงไม่มีอะไรหรอก น้าแค่ถามแป้งดูเท่านั้นแหละ” ลัลนายิ้มเศร้าๆ เพราะเธอไม่อยากนึกถึงเรื่องที่บ้านนั้นเท่าไรนัก อยากจะลืมไป ไม่ต้องจำเลยด้วยซ้ำ ญาดาเองก็รู้ว่าลัลนาคงไม่อยากให้พูดถึงอีกจึงเปลี่ยนเรื่อง “แป้งกลับไปพักที่บ้านก่อนดีกว่า ทางนี้ น้าจะดูแลแม่เราให้เอง น้าเข้างานอีกทีก็ห้าโมงเย็นนู่น แป้งค่อยมาเปลี่ยนน้าก็ได้” ลัลนาฟังจบก็ยกมือไหว้ขอบคุณทันที “ดีเหมือนกันค่ะ แป้งฝากน้าญาดูแลแม่ด้วยนะคะ แป้งว่าจะเข้าไปที่บริษัทซะหน่อย ไปเคลียร์งานด้วย แล้วก็อยากลองคุยเรื่องกู้เงินที่บริษัทดูว่าจะพอมีหนทางไหม” “งั้นก็รีบไปเถอะ” ลัลนาแยกกับญาดาได้ก็นั่งรถเมล์ไปลงที่บ้านเช่าทันที ตอนนี้สิบโมงเช้า เธอจึงคิดว่าจะเข้าไปเคลียร์งานช่วงบ่าย ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลัลนาจึงนั่งรถเมล์ไปที่ทำงานทันที “อ้าว แป้ง แม่เป็นยังไงบ้าง” นภาพร หัวหน้างานของเธอถามด้วยความเป็นห่วงทันที “นั่งลงก่อน ทำไมหน้าซีดๆ จัง มีอะไรหรือเปล่า” “แม่ผ่าตัดเรียบร้อยดีแล้วค่ะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ว่าแป้งอยากรบกวนถามพี่นภาได้ไหมคะ คือว่า...ที่บริษัทเรามีสวัสดิการให้พนักงานกู้ยืมเงินไหมคะ แป้งอยากกู้สามแสนห้าค่ะ แล้วจะให้หักจากเงินเดือนไปเดือนละสามพันบาท” “สวัสดิการให้กู้ยืมเงินเหรอ” นภาพรทวนคำ นึกถึงเรื่องที่หญิงสาวไถ่ถามแล้วก็มีสีหน้าเห็นใจ “ไม่มีนะจ๊ะแป้ง จะกู้เงินเอาไปจ่ายค่ารักษาแม่ใช่ไหม” ลัลนาพยักหน้าช้าๆ ขณะที่นภาพรขมวดคิ้วครุ่นคิด “พี่จะลองไปคุยกับคุณราเชนทร์ดูนะ ว่าถ้าจะให้แป้งกู้เป็นกรณีพิเศษได้ไหม” “อย่าลำบากเลยค่ะพี่นภา เดี๋ยวพนักงานคนอื่นจะคิดว่าแป้งมีสิทธิพิเศษ” นภาพรมองสาวน้อยตรงหน้าแล้วถอนใจ “ถ้าอย่างนั้น แป้งจะทำยังไง” “แป้งก็ยังไม่รู้เลยค่ะแต่ว่าแป้งจะลองหาวิธีอื่นดูนะคะ งั้นแป้งขอตัวไปเคลียร์งานก่อนนะคะ” นภาพรมองแผ่นหลังเล็กบางของลัลนาแล้วได้แต่ถอนหายใจยาว ไม่รู้จะช่วยลูกน้องสาวอย่างไรดี เพราะเงินจำนวนสามแสนห้าหมื่นบาทนั้นเป็นเงินก้อนใหญ่ เธอเองมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ก็ต้องเก็บไว้เป็นค่าเทอมลูกจึงไม่อยากถอนเงินออกมาใช้ ลัลนากลับมานั่งที่โต๊ะ ทั้งความเครียดและอ่อนล้าทำให้หญิงสาวฟุบหน้ากับโต๊ะ กลัดกลุ้มเมื่อไม่มีทางออกให้หาเงินจำนวนสามแสนห้าหมื่นบาทมาได้ภายในหนึ่งอาทิตย์นี้ ‘จะกู้เงินที่ไหนดี หรือว่าจะกู้นอกระบบดีนะ’ ลัลนาเครียดจัดจนไม่ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง “แป้งไม่สบายหรือเปล่าครับ” “คุณราเชนทร์ เอ่อ ขอโทษค่ะ แป้งไม่ได้เป็นอะไร” ลัลนาเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มตอบทันที สาวน้อยปรับสีหน้าและอารมณ์ให้เป็นปกติเพราะที่นี่คือที่ทำงาน เธอไม่สมควรทำตัวเหลวไหลแบบนี้ หากแต่เมื่อกี้มันเครียดจัดแล้วจริงๆ จึงฟุบหน้าลงกับโต๊ะ “คุณแม่เป็นยังไงบ้าง” “ผ่าตัดปลอดภัยดีแล้วค่ะ ขอบคุณคุณราเชนทร์มากนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ ซึ้งใจที่เจ้าของบริษัทอย่างราเชนทร์ยังถามไถ่ถึงอาการของมารดา ทั้งที่เธอเป็นแค่พนักงานระดับล่างธรรมดาเท่านั้นเอง “คุณราเชนทร์มีอะไรให้แป้งรับใช้หรือเปล่าคะ” “ผมแค่อยากมาถามแป้งว่ามีอะไรไหมถึงดูหน้าซีดๆ ผมเป็นห่วง” ลัลนาเบิกตามองเขาอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะนึกได้ว่าเขาเป็นห่วงเพราะเธอคือพนักงานในบริษัท ไม่ใช่เรื่องอื่นเสียหน่อย “ขอบคุณมากนะคะ แป้งไม่เป็นอะไรจริงๆ แป้งจะไปเสิร์ฟกาแฟให้ดีกว่าค่ะ” เลขาฯ ของราเชนทร์ลาออกไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เขาจึงให้เธอทำตำแหน่งเลขาฯ เพิ่มอีกหนึ่งงาน ลัลนาจึงรีบลุกขึ้น ตั้งใจทำงานให้ดีเพราะว่าช่วงนี้ เธอคงต้องหยุดบ่อย ไม่อยากให้เจ้านายเขม่นมาก “งั้นแป้งไปเสิร์ฟที่ห้องทำงานผมแล้วกันนะครับ” ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่น อ่อนโยนส่งให้ แต่ลัลนามองว่าเป็นสายตาของเจ้านายที่เมตตาตัวเอง จึงยิ้มรับพลางตอบ “ได้ค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD